โค้ชเผย!สอนลูกทีมหมูป่านั่งสมาธิอยู่นิ่งๆทำให้รอด ระบุบวชหลายพรรษาเคยจำศีลในถ้ำ

วันที่ 3 ก.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทุกภาคส่วนสามารถปฏิบัติการจนพบนักฟุตบอลและโค้ชทีมหมูป่าอคาเดมี่แม่สาย 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย และมีรายงานด้วยว่า ขณะที่เด็กติดอยู่ภายในถ้ำ นายเอกพล จันทะวงษ์ อายุ 25 ปีซึ่งเป็นโค้ช ได้ให้เด็กๆนอนนิ่งๆอยู่กับพื้น โดยไม่เด็กๆขยับตัวเพื่อเป็นการประหยัดพลังงานในร่างกาย และให้ดื่มน้ำที่หยดลงมาจากผนังถ้ำเท่านั้น

อย่างไรก็ตามเฟซบุ๊ก Proy Sakura ได้โพสต์ภาพโค้ชและข้อความว่า  โค้ชเก่งมากๆมีสติดีมากๆ หมอถาม โค้ชเอกว่า ทำไมถึงพาน้องๆรอดได้ โค้ชบอกว่า เคยบวชมาหลายพรรษา(8ปี) แล้วเคยจำศีลในถ้ำ เลยสอนน้องๆให้นั่งสมาธิ นิ่งๆ จะได้ไม่หิว  เพราะการนั่งสมาธิทำให้ไม่หิวได้

 ขณะเดียวกันมีรายงานว่า โค้ชเอกไม่ได้เป็นคนพาเด็กๆเข้าถ้ำ เด็กๆพากันเข้าไปเอง แต่โค้ชตามเข้าไปช่วย หลังจากได้รับแจ้งเรื่องการหายตัวไปของเด็กๆจากผู้ปกครอง เลยต้องไปติดอยู่ในถ้ำด้วยกัน



"โค้ชไม่ได้พาเด็กเข้าถ้ำ เด็กๆเข้าไปกันเองตามลำพัง ผู้ปกครองโทรหาโค้ชหลังจากที่เด็กๆหายไปหลายชั่วโมง โค้ชอยู่ห่างจากถ้ำประมาณหนึ่งกิโล รีบไปตามหาในถ้ำ เราควรจะขอบคุณโค้ชท่านนี้ ที่เสียสละและกล้าหาญตามเข้าไปจนพบเด็กๆในถ้ำ และช่วยให้รอดจนคนเข้าไปช่วย"

ทั้งนี้โค้ชนพรัตน์ กันฑะวงศ์ ได้กล่าวถึง "โค้ชเอก" ว่า เป็นเด็กกำพร้า พ่อแม่ ตั้งแต่เล็กๆ ไม่มีคนส่งเสีย จึงบวชเรียนอยู่กับพระอาจารย์ ที่ จ.ลำพูน จนสำเร็จการศึกษา นักธรรมเอก พออายุ 20 ปี  จึงขอลาสิกขาบทออกดูแลย่าที่อายุมาก  

"เขาเป็นคนชอบออกกำลังกาย มักมาออกกำลังกายใกล้ๆกับ อะคาเดมี่ของเรา เลยสนิทสนม กับนักบอล ผมจึงชวนเขามาทำทีมฟุตบอลร่วมกัน ก็เป็นเวลา 5 ปี แล้ว ที่เขาสร้างทีมขึ้นมาร่วมกับผม เขาเป็นโค้ชที่เสียสละอย่างมาก ผมไว้ใจเขามาก ในการให้ดูแลเด็กๆ ซึ่งนักบอลก็รักโค้ชเอก เป็นอย่างมาก" โค้ชนพรัตน์ ระบุ

นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า  ต้องถอดเป็นเรียน ให้เด็กได้รับรู้ถึงภัยอันตรายที่คาดไม่ถึง รวมถึงทบทวนประวัติศาสตร์การเรียนรู้เรื่องภัยพิบัติต่างๆ ให้รับรู้ถึงสัญชาตญาณบางอย่างให้กว้างขึ้น ถือเป็นทักษะชีวิตที่ สพฐ.จะต้องสอนให้เด็กได้เรียนรู้ ผมมีความสุขอยู่อย่างหนึ่งนอกจากเห็นเด็กปลอดภัยแล้ว คือ เห็นความเป็นทีมของเด็กกลุ่มนี้ โดยต้องให้เครดิตโค้ช ที่สามารถดูแลลูกทีมได้ แม้ว่าจะทุกข์ทรมาน มา 10 วัน แต่เขาก็มีกำลังใจ เชื่อว่ากว่า 10 วันที่ผ่านมาในการอยู่ร่วมกันของเขา จะต้องเป็นทีมที่ดีมาก มีการให้กำลังใจว่าจะต้องมีคนมาช่วยเหลือเขา ความเป็นทีมของเขาเหนือกว่าทีมฟุตบอล เพราะทีมนี้คือทีมชีวิตขอบคุณโค้ชที่เป็นเหมือนฮีโร่ ช่วยดูแลเด็กๆ เป็นอย่างดี

หนังสือพิมพ์ The Guardian  ชมเขยไว้ว่า "Luckily the coach had the sanity of mind to keep them all together huddled together to conserve their energy that basically saved them" (โชคดี ที่โค้ชมีสติช่วยเด็กๆให้อยู่เคียงข้างกันช่วยเหลือกันและออมกำลังเอาไว้ ซึ่งเป็นการช่วยให้พวกเขาปลอดภัยในเบื้องต้น) You are among the one of the Heroes!

................
(หมายเหตุ ข้อมูลที่โค้ชนพรัตน์กล่าวถึง "โค้ชเอก" จาก http://www.siamsport.co.th/football/thaiotherleague/view/77850)