"เศรษฐา" หารือทวิภาคี Huawei พอใจเจรจานักลงทุนจีนสำเร็จ เชื่อเพิ่มมูลค่านับล้านล้าน ‘ชู’ แลนด์บริดจ์ไทย เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์โลก ลดแออัด-ร่นระยะทาง
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2566 ที่โรงแรมเคอร์รี่ เวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นสาธารณรัฐประชาชนจีน Mr. Liu Jincheng, Chairman Founder, EVE Energy เข้าเยี่ยมคารวะ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดย EVE Energy เป็นบริษัทผู้พัฒนา ผลิต และจำหน่ายแบตเตอรี่ ลำดับที่ 3 ของจีนและติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาขยายการลงทุน โดยสนใจใช้เป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกสำหรับตลาดอาเซียนและโอเชียเนีย
โดยบริษัทฯ สนใจไปตั้งโรงงานในไทย ซึ่งนายกฯ กล่าวว่า ไทยมีนโยบายสนับสนุนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งไทยกำลังดำเนินโครงการแลนด์บริดจ์ที่จะทำให้การขนส่งสินค้าไปทั่วโลกสะดวกยิ่งขึ้น และแสดงความสนใจการลงทุนในไทย เนื่องจากการทำงานและนโยบายของรัฐบาลที่ชัดเจน ซึ่งคาดว่าโครงการผลิตแบตเตอรี่จะยื่นการลงทุนภายในสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน
ด้านนายกรัฐมนตรีให้ความมั่นใจ ถึงนโยบายสนับสนุนการลงทุนของไทย โดยหวังจะมีการลงทุนของ EVE Energy ในประเทศไทย
จากนั้น เวลา 11.25 น. Mr. Liang Hua, Chairman, Huawei เข้าเยี่ยมคารวะ นายเศรษฐา โดย Huawei เป็นบริษัทผู้ให้บริการด้านโซลูชั่นเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแบบครบวงจร ปัจจุบันบริษัท ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น บริษัทเห็นถึงความสำคัญของการวิจัยและพัฒนา (R&D) โดยได้ใช้เงินลงทุนรวมมากกว่า 977.3 พันล้านหยวน (ประมาณ 2 แสนล้านบาท) ในการวิจัยและพัฒนา รวมถึงมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี 5G ของโลก
ทางบริษัทHauawei ยินดีที่ทำงานร่วมกับไทย จะพัฒนาด้านดิจิทัลเพื่อประโยชน์ของไทย เพราะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลสำคัญมาก ครอบคลุมในทุกส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการศึกษา ซึ่งรวมถึงการขับเคลื่อนการพัฒนาเน็ตเวิร์คได้อย่างรวดเร็ว ทั้งด้าน 5G และ fiber optic ที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาแบบก้าวกระโดด ส่วน AI เทคโนโลยีด้านการคำนวณ โดยบริษัทฯ ยินดีสนับสนุนให้ไทยเป็น hub ด้าน AI
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ชื่นชมการดำเนินนโยบายการท่องเที่ยวของไทย รวมทั้ง smart city ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวได้ ซึ่งบริษัทได้เข้าไปช่วยพัฒนาเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยวด้วย พร้อมเสนอการขับเคลื่อน real economy และ digital economy เดินไปด้วยกัน ยกระดับความเร็วของเทคโนโลยีเครือข่ายการสื่อสาร
โดยนายกฯ ขอให้บริษัทฯช่วยเรื่อง smart agriculture เพื่อบริหารจัดการระบบ เช่น น้ำ ไฟ เสนอตั้งศูนย์ AI computing center จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกภาคสาขา รวมทั้งการศึกษา การคำนวณที่สามารถช่วย AI
ในโอกาสนี้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลและเศรษฐกิจเพื่อสังคม ขอให้บริษัทช่วย เศรษฐกิจชุมชน และ Startup ของไทยด้วย โดยจะเริ่มจาก pilot project ในชุมชนหนึ่งก่อน ซึ่ง Huawei ยินดี เช่น การใช้โดรนในพื้นที่เกษตรซึ่งมีอยู่แต่ยังไม่มีประสิทธิภาพเต็มที่
นายกฯ เสนอให้ขยายกิจการและการลงทุนให้กว้างขึ้น เพราะเป็นโอกาสที่ดีในมิติที่ดี ต่อทั้งการลงทุน และความสัมพันธ์ ที่สำคัญไทยกำลังมีแลนด์บริดจ์ ที่จะกระจายสินค้าไปทั่วโลกในระยะเวลาสั้นลง และนี่คือโอกาสที่สำคัญของการลงทุนในไทย
ต่อมา นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ถึงการหารือทวิภาคีกับนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีนว่า ได้ให้ความมั่นใจว่าไทยจะพัฒนาโครงการบีอาร์ไออย่างต่อเนื่อง และได้มีการลงรายละเอียดเกี่ยวกับการพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูง เรื่องการขนถ่ายสินค้าจากไทยไปจีนผ่านลาวที่พบว่ายังมีอุปสรรค คือ สะพานข้ามแม่น้ำโขงจากหนองคายไปลาว โดยตนเองได้บอกนายกฯ จีนว่า ควรจะมีการผลักดันให้เกิดขึ้น เพื่อให้การขนถ่ายสินค้าเป็นไปด้วยดี ซึ่งหากมีการสร้างสะพานดังกล่าวในช่วงจังหวัดหนองคาย ก็จะมีการสร้างศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าด้วย พร้อมยืนยันว่าในการประชุม ครม.ที่ผ่านมา ได้มีการอนุมัติรถไฟรางคู่จากขอนแก่นไปหนองคาย เพื่อบรรเทาความแออัด ในการขนถ่ายสินค้า ระหว่างการสร้างรถไฟความเร็วสูง อีกทั้งยังได้แจ้งว่ารัฐบาลได้มีการอนุมัติการทำการศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ ทำให้ประเทศไทยในอนาคตจะไม่ใช่แค่เส้นทางผ่านการขนถ่ายสินค้าอย่างเดียว แต่จะเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของโลก เพราะหากโครงการนี้เกิดขึ้นจะเป็นโครงการเมกกะโปรเจคที่ตอบโจทย์ปัญหาความแออัดของการขนถ่ายสินค้าทั่วโลกได้ โดยไม่ต้องผ่านช่องแคบมะละกา ซึ่งจะลดระยะทางและลดความแออัดลงได้ ดังนั้นการมีแลนด์บริดจ์เชื่อมต่อระหว่างอันดามัน-อ่าวไทย จะเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะทำรายได้ให้กับประเทศไทยอย่างมาก จะไม่ใช่การขนถ่ายสินค้าระหว่างจีนผ่านไปอินเดีย ไปตะวันออกกลางและแอฟริกาอย่างเดียว แต่จะสร้างความมั่นใจกับนักลงทุนจีนว่า การสร้างโรงงานที่ประเทศไทย จะทำให้การขนถ่ายสินค้า ขนส่งกระจายไปทั่วโลกอย่างสบาย ซึ่งนายกฯ จีนได้ให้ความสนใจอย่างมาก เพราะแลนด์บริดจ์จะเป็นโครงการที่มาเสริมให้บีอาร์ไอมีศักยภาพและเชื่อมโยงกับทั่วโลกได้ สอดคล้องกับเจตนาของประเทศจีน
นายกรัฐมนตรี กล่าวเชื่อว่าการมาจีนครั้งนี้ รัฐบาลประสบความสำเร็จ และมั่นใจว่าหากเกิดแลนด์บริดจ์ รวมทั้งการลงทุนด้านรถไฟฟ้าอีวี ซึ่งขณะนี้มีเข้ามาแล้ว 4 บริษัท และจะได้เจรจาอีก 2 บริษัท จะสามารถสร้างเม็ดเงินกว่าล้านล้านบาท ซึ่งนับตัวเลขไม่ได้ เพราะประเทศจีนพัฒนาเยอะมาก และเป็นความโชคดีที่ไทยตั้งอยู่จุดยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญ เรามีความเป็นกลาง มีความเป็นมิตร
“เมื่อวานนี้ผมรู้สึกว่ามีความผูกพันที่ดีมากๆ กับนายกฯ จีน ซึ่งท่านได้ให้เบอร์มือถือไว้ หากมีอะไรก็สามารถโทรพูดคุยได้ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี โดยสองประเทศต้องพึ่งพากัน โดยเราต้องพึ่งจีนในฐานะที่เป็นพี่ใหญ่ ซึ่งในงานเลี้ยงอาหารค่ำวานนี้ ในการแสดงดนตรีร้องเพลงไทย คือ เพลงลอยกระทง ซึ่งมีการฝึกกันนานมาก แสดงให้เห็นว่าจีนให้ความสำคัญกับเรา ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยดีมาก” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยกันถึงการนำเข้า-ส่งออกสินค้าการเกษตร ซึ่งจีนพร้อมสนับสนุนทุกมิติ โดยตนได้ขอให้การนำเข้าวัวของจีน ที่เป็นนโยบายหลักของไทย ที่จะส่งออกวัวให้กับจีนที่เป็นตลาดใหญ่ แต่เนื่องจากปัจจุบันการส่งออกวัวจะต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐานที่ประเทศลาว รัฐบาลไทยจึงขอให้มีการศูนย์ตรวจสอบที่ประเทศไทย ซึ่งจะทำตามกฎของประเทศจีนทุกอย่าง เช่น การตรวจโรค การฉีดวัคซีน ซึ่งมีความสำคัญมาก จะทำให้การพัฒนาส่งออกวัวได้เร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางราง หรือทางเรือ ไม่ต้องไปพึ่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยนายกฯ จีนยืนยันให้ความสำคัญและจะพิจารณาข้อเสนอของไทย ขณะเดียวกัน ยังได้หารือเรื่องวีซ่าฟรี ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้อนุมัติให้คนจีนเข้าไทยได้โดยไม่ต้องมีวีซ่าตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ถึง 29 ก.พ.67 แต่รัฐบาลมีความประสงค์จะขยายให้เป็นแบบระยะยาว ซึ่งทางจีนรับไปพิจารณา แต่ส่วนตัวมั่นใจว่าน่าจะได้รับการตอบสนองที่ดี
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการหารือกับนายกฯ จีน ถึงการแก้ปัญหาการจัดซื้อเรือดำน้ำ ที่ยังติดปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ว่า ทั้งสองฝ่ายจะมีการแก้ปัญหาอย่างบูรณาการ ซึ่งนายกฯ จีนรับปากว่าจะไปช่วยดูให้ ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้พูดคุยกับกองทัพจีนด้วย โดยช่วงบ่ายวันนี้ ตนเองจะได้พบกับนายสี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีจีน ก็จะได้มีการพูดคุยต่อเนื่อง ส่วนรายละเอียดขอให้ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมชี้แจงต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น