วันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองคำขอจัดตั้งวัดคาทอลิก ครั้งที่ 4/2566 เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 ว่าที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณารับรองวัดคาทอลิกเพิ่มอีกจำนวน 41 วัด เพื่อให้เป็นวัดคาทอลิกตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยแนวทางพิจารณาในการจัดตั้งวัดบาทหลวงโรมันคาทอลิก พ.ศ. 2564 โดยปัจจุบันมีวัดคาทอลิกที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรับรองเป็นวัดคาทอลิก ตามระเบียบดังกล่าวแล้ว จำนวน 204 วัด จากจำนวนคำขอให้รับรองวัดคาทอลิก (แบบ คท.2) ที่กรมการศาสนาได้รับจากมิซซังจำนวนทั้งสิ้น 360 วัด และนำเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาให้ความเห็นชอบในครั้งนี้ จำนวน 41 วัดทั้งนี้ ยังมีวัดคาทอลิกที่อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการตรวจสอบอีก จำนวน 115 วัด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อไปว่า สำหรับวัดคาทอลิกที่คณะกรรมการฯ ได้มีมติเห็นชอบให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณารับรองเป็นวัดคาทอลิก จำนวน 41 วัด อยู่ในเขตความรับผิดชอบของสำนักมิซซังโรมันคาทอลิกกรุงเทพฯ และสำนักมิซซังโรมันคาทอลิกท่าแร่ – หนองแสง ตั้งอยู่ในพื้นที่ 9 จังหวัด ครอบคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อุบราชธานี และมุกดาหาร ทั้งนี้ การพิจารณาคำขอให้รับรองวัดคาทอลิกเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ใน ข้อ 16 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยแนวทางพิจารณาในการจัดตั้งวัดบาทหลวงโรมันคาทอลิก พ.ศ. 2564 ว่าคำขอให้รับรองวัดคาทอลิก ต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้งวัด ที่ดินที่ตั้งวัด รายชื่อบาทหลวงซึ่งจะไปประกอบศาสนกิจประจำ ณ วัดคาทอลิกนั้น และข้อมูลอื่นที่จำเป็นเกี่ยวกับการรับรองวัดคาทอลิก โดยกระทรวงวัฒนธรรมจะนำเสนอรายชื่อวัดคาทอลิกทั้ง 41 วัด ให้คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบรับรองเป็นวัดคาทอลิกตามระเบียบดังกล่าวต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวทิ้งท้ายว่า การรับรองวัดคาทอลิก ตามระเบียบ สำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยแนวทางพิจารณาในการจัดตั้งวัดบาทหลวงโรมันคาทอลิก พ.ศ. 2564 ทำให้วัดคาทอลิกมีฐานะเป็นศาสนสถานที่ได้รับการรับรองจากภาครัฐ จำนวน 204 วัด โดยกรมการศาสนาร่วมกับสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย กำหนดจัดพิธีมอบประกาศรับรองวัดคาทอลิกให้กับวัดคาทอลิกที่ได้รับการรับรองดังกล่าว ในวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ซึ่งถือเป็นการสร้างสร้างความมั่นใจแก่คริสต์ศาสนิกชนในความคงอยู่ของศาสนสถาน และมีหลักฐานสำหรับใช้ในการติดต่อประสานงาน และดำเนินกิจการต่างๆ ของวัด
นอกจากการรับรองวัดคาทอลิกแล้ว รัฐบาลยังมีนโยบายส่งเสริมศาสนาต่าง ๆ ในประเทศไทยอย่างทั่วถึงโดยให้การสนับสนุนด้านการศึกษา ศาสนวัตถุ และกิจกรรมทางศาสนาต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนทุกศาสนาสามารถประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ตามนโยบายรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมสถาบันศาสนาทุกศาสนาให้เป็นกลไกในการสร้างคุณธรรม จริยธรรม ในการดำเนินชีวิต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น