วันจันทร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567

"เศรษฐา" เผยข่าวดี "จีน" ยกเลิกวีซ่าถาวร ให้คนไทยเข้าประเทศ ดีเดย์ 1 มี.ค.นี้



นายกฯ มอบนโยบายและสั่งการในที่ประชุม ครม. พอใจภาพรวมอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ลดลง สั่งการ ก.คมนาคม ปรับปรุงอาคารชานชาลาหมอชิต 2 ยกระดับการให้บริการ ตั้งเป้าให้เป็นรูปธรรมช่วงสงกรานต์

เมื่อวันที่  2 มกราคม 2567นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า จากกรณีที่รัฐบาลยกเว้นวีซ่าให้กับคนจีนเข้ามาในประเทศไทย ถึง 29 ก.พ.2567 ตนได้เรียนมาตลอดเวลาว่า นโยบายรัฐบาลนี้จะยกระดับความภาคภูมิใจ ของพาสสปอร์ตไทย จริวๆ แฃ้วถ้าจะให้ดีก็ต้องเป็นการยกเลิกเรื่องของการขอวีซ่าทั้ง 2 ประเทศ โดยเมื่อเดือนกว่าที่ผ่านมา ประเทศจีนมีการยกเว้นการเข้าประเทศเขาให้กับ 5ประเทศ แต่ไม่มีประเทศไทยอยู่ แต่ก็เป็นการชั่วคราว

”แต่เหตุผลจริงๆ ผมก็ไม่อยากจะพูดตอนนั้น เพราะว่าเรากำลังคุยกันอยู่ ที่จะยกถาวร ซึ่งวันนี้ก็เป็นข่าวดี ว่าเขาจะมีการยกถาวร เริ่มต้นวันที่ 1มี.ค.นี้ แสดงว่าไปกลับทั้ง2ประเทศ ไม่ต้องมีวีซ่าซึ่งกันและกัน“ นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวอีกว่า อันนี้ก็เป็นการยกระดับความสัมพันธ์ ก็มีการชี้แจงไปที่กรมประชาสัมพันธ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ประชาสัมพันธ์ ขณะนี้เราพร้อมแล้วจะเปิดประเทศ และดูแลนักท่องเที่ยวให้ดีด้วย อันนี้ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี

พอใจภาพรวมอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ลดลง

ทั้งนี้เมื่อเวลา 08.30 น. ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบนโยบายและข้อสั่งการต่อคณะรัฐมนตรี ว่า

เนื่องในโอกาส ปีใหม่ 2567 ขอถือโอกาส สวัสดีปีใหม่คณะรัฐมนตรีทุกท่านอีกครั้ง หวังว่าทุกท่านจะได้มีโอกาสใช้เวลาช่วงวันหยุดพักผ่อนกับครอบครัว เพื่อจะได้มีกำลังกาย กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของพวกเรา ตลอดปีใหม่นี้ครับ ผมขอให้คณะรัฐมนตรีทุกท่าน ได้น้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงพระราชทานเนื่องในโอกาสปีใหม่มาเป็นแนวทางในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสืบสาน รักษา ต่อยอด วัฒนธรรมอันดีงามของประเทศเราในทุก ๆ ด้าน ให้เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า  จากรายงานข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ปี 2567 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย ทราบว่า ภาพรวมการเกิดอุบัติเหตุ ผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต ณ วันที่ 1 ม.ค. 67 ลดลงจากปีที่ผ่านมาอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ผู้เสียชีวิต ลดลงจาก 218 ราย เหลือ 128 ราย ในปีนี้ ต้องขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กระทรวงคมนาคม กรมทางหลวง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ช่วยกันดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกประชาชนบนเส้นทางสายหลักและสายรอง การป้องปรามผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ การเตรียมความพร้อมการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงจุดเกิดเหตุและรับส่งผู้ประสบเหตุได้อย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ ยังมีประชาชนบางส่วนเดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ทำให้เส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัดยังมีปริมาณรถหนาแน่น จึงขอให้หน่วยงานต่าง ๆ ให้ความดูแล ความปลอดภัยทางถนนให้กับประชาชนที่ยังอยู่ระหว่างเดินทางกลับด้วย และผมหวังว่าในปีต่อไป ทุกหน่วยงานจะช่วยกันเพื่อให้ภาพรวมการเกิดอุบัติเหตุลดลงได้ มากกว่านี้อีก

ส่วนกรณีกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ในการบริหารจัดการของบริษัท ขนส่ง จากัด (บขส.) ในพื้นที่การให้บริการของสถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต 2 ว่าไม่เรียบร้อย ไม่มีความปลอดภัยพื้นฐานให้กับประชาชน นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จากการรายงานของกระทรวงคมนาคมได้รับทราบว่า บขส. ได้มีการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ดูแลความปลอดภัยของประชาชนบริเวณสถานีขนส่ง มีการตรวจสอบพนักงานขับรถและสภาพรถโดยสารให้มีความพร้อมในการให้บริการผู้โดยสารและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนอย่างต่อเนื่อง และสามารถให้บริการประชาชนได้ตามปกติในช่วงปีใหม่ อย่างไรก็ตาม ขอให้กระทรวงคมนาคมพัฒนาคุณภาพการให้บริการประชาชน ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานอาคารชานชาลา และสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไปด้วย โดยให้ตั้งเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมในช่วงสงกรานต์นี้ และขอเชิญชวนรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องร่วมกันยกระดับคุณภาพการให้บริการประชาชนในทุกมิติ โดยเฉพาะการขนส่งและเดินทางกลับภูมิลำเนาของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ทั้งนี้ ให้ทีมโฆษก เตรียมการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบล่วงหน้า เพื่อให้สามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ 

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 5 จังหวัด (สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส)  ว่า ขณะนี้ภาพรวมสถานการณ์ระดับน้ำลดลง การระบายน้ำเป็นไปได้ด้วยดี ใกล้เข้าสู่ภาวะปกติเกือบทุกพื้นที่แล้ว โดยระยะต่อไปจะเป็นการซ่อมแซม ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย จึงขอให้ ศอ.บต. เป็นศูนย์กลางในการประสานงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ (อาชีวะ) กระทรวงยุติธรรม (กรมราชทัณฑ์ โดยกลุ่มนักโทษชั้นดี) กระทรวงกลาโหม (ทหารพัฒนา) เพื่อช่วยกันระดมกำลังคน อุปกรณ์ เครื่องมือ ในการซ่อมแซมและดูแลบ้านเรือนของประชาชนให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตำมปกติโดยเร็วที่สุด

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงมาตรการ easy e-Receipt ซึ่งเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567 ไปจนถึงวันที่ 15 ก.พ. 2567 เป็นหนึ่งในมาตรการที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการบริโภคภายในประเทศในช่วงต้นปี 2567 ของรัฐบาล จึงขอให้กรมประชาสัมพันธ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงรายละเอียด/ระยะเวลาในการดำเนินมาตรการ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยตามวัตถุประสงค์ของมาตรการดังกล่าวด้วย 

ในส่วนของการเพิ่มวันทำการประมงให้กับเรือประมง 1,200 ลำ เข้าสู่ระบบและพร้อมออกทำประมง เพื่อแก้ไขปัญหาการประมงของไทย นายกรัฐมนตรีกล่าวขอขอบคุณคณะกรรมการประมง ที่มี รองภูมิธรรมฯ เป็นประธาน และกระทรวงเกษตรฯ โดยกรมประมง ที่ได้เร่งแก้กฎหมายลูก 20 ฉบับ รวมทั้งได้ดำเนินการลงทะเบียน เพื่อเพิ่มวันทำการประมงให้แล้วเสร็จก่อนถึงปีใหม่ ส่งผลให้กลุ่มเรือประมงดังกล่าวสามารถออกทำการประมงได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา ช่วยให้เกิดการสร้างงานให้กับชาวประมงประมาณ 20,000 คน และสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศ กว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นของขวัญปีใหม่ที่กระทรวงเกษตรฯ มอบให้กับชาวประมงด้วย และมีผลต่อเนื่องกับห่วงโซ่ทางเศรษฐกิจอื่นตามมาอีกมาก

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสถานการณ์แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น ขอให้กระทรวงการต่างประเทศ ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนภัยให้กับคนไทยที่อยู่ในญี่ปุ่นเป็นระยะ เพื่อให้เตรียมพร้อมอพยพจากพื้นที่ได้ทันท่วงที ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ระบบแจ้งเตือนภัยมีความสำคัญที่สุด เพื่อให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้รับรู้ และสำมารถเตรียมความพร้อมรับมือต่อสถานการณ์ได้ โดยในส่วนของประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลฯ ได้มีการลงทุนและติดตั้งระบบแจ้งเตือนภัยไว้แล้ว ขอให้กระทรวงดิจิทัลฯ ทดสอบและซักซ้อมการใช้ระบบดังกล่าวให้มีความพร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา เพื่อป้องกันภัยและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์ 3. สุนทรวรรค ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 24 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 16 อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต จตุตถปัณณาสก์

  วิเคราะห์ 3. สุนทรวรรค ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 24 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 16 อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต จตุตถปัณณาสก์ ในปริบทพุทธสันติวิธี บทนำ สุน...