วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

นิทานเซนเรื่อง"ครูบาบุญชุ่มทำพิธีช่วย13ชีวิตทีมหมูป่ารอด"




จากการที่พระครูบาบุญชุ่ม พระเกจิดังเมืองล้านน ที่เดินทางไปทำพิธีเปิดถ้ำสวดมนต์เพื่อเป็นกำลังใจในการช่วยนักฟุตบอลและโค้ชทีมทีนทอล์ค (หมูป่า) อะคาเดมี แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ทั้ง 13 คน ให้ออกมาจากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ให้ประสบผลเสร็จเมื่อวันที่ 29-30 มิ.ย.2561 และต่อมาทุกภาคส่วนสามารถค้นพบในวันที่ 2 ก.ค.2561 ขณะนี้กำลังเตรียมการนำออกจากถ้ำ

อย่างไร็ก็ามพระพิศาลธรรมพาที หรือพระพยอม กัลยาโณ พระนักเทศน์ชื่อดัง เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ได้แสดงความเห็นว่า หลังการทำพีธีของพระครูบาบุญชุ่มนั้น อาตมามองว่าคนไทยส่วนใหญ่จะสนใจเรื่องลึกลับโดยมองข้ามเรื่องลึกซึ้ง แต่อย่าลืมว่าเรื่องลึกลับไม่ได้ดับทุกข์ได้โดยตรง โดยการที่ช่วยเหลือหากเชื่อพิธีอย่างเดียว และลืมไปว่ายังมีทีมเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยด้วยนั้น ก็จะนำไปสู่การลำเอียง แต่ถ้ามองในมุมกลับกันทางเจ้าหน้าที่ก็ศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน พูดง่ายๆว่าข่าวดีที่ได้รับนั้นมาจาก 2 พลัง คือพลังของฌาน และพลังของเทคโนโลยี เปรียบเสมือนกำลังใจ และความสามารถของทุกๆคน ที่ทำให้เกิดผลสำเร็จ

ขณะที่ อ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ นักบรรยายธรรม ได้แสดงความจริงว่า ทุกชีวิตและที่ติดในถ้ำ ไม่พ้นจากกรรมและผลของกรรม ควรกระทำการช่วยเหลือให้ดีที่สุด น่าชื่นชมอนุโมทนาในเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่มีจิตที่ดีและช่วยเหลือกัน แต่การช่วยเหลือนั้น ก็ต้องตามหน้าที่ที่ถูก พระภิกษุที่บวชมาในพระพุทธศาสนา ต้องประพฤติตามพระธรรมวินัย เป็นพระภิกษุ แต่ทำพิธีเปิดถ้ำ ปัดเป่าสิ่งไม่ดี แสดงถึงไม่ศึกษาพระธรรม ไม่ปฏิบัติตามคำสอนพระพุทธเจ้า มอมเมาชาวบ้านประชาชน เพราะ ไม่ตรงกับกรรมและผลของกรรม พระพุทธเจ้าไม่ได้ให้ภิกษุทำพิธีกรรมที่ผิดคำสอน หากภิกษุทำ ต้องอาบัติเป็นโทษ ตายไปตกนรก 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามหลักเถรวาทจะเป็นอย่างใดนั้นวิญญูชนจนพิจารณาเถิด ลองมาศึกษาแนวคิดของนิทานเซนเรื่อง "วาง" ฝ่ายมหายานดูบ้าง ความมีว่า 

มีพระพรรษามาก กับ พรรษาน้อย สองรูป เดินทางไปด้วยกันจนกระทั่งทั้งคู่ต้องข้ามแม่น้ำขนาดใหญ่ จำเป็นต้องเดินข้ามเพราะสะพานข้ามแม่น้ำขาดเสียหาย พระทั้งสองรูปพบผู้หญิงผู้หนึ่งคนซึ่งไม่สามารถข้ามแม่น้ำไปได้เนื่องจากสะพานขาดนั้น พระพรรษามากจึงอาสาจะให้ผู้หญิงนั้นขี่หลังแล้วข้ามฟากไป

พระพรรษาน้อยเห็นอย่างนั้นจึงรู้สึกขุ่นเคืองว่าทำไมพระพรรษามากจึงทำอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่เป็นพระไม่ควรจะสัมผัสหรือใกล้ชิดผู้หญิงขนาดนี้ แต่ก็คิดอยู่ในใจไม่ได้ถามพระพรรษามาก

หลังจากที่ข้ามฟากเสร็จพระทั้งสองรูปและผู้หญิงต่างก็แยกย้ายไปตามทางของตน แต่ในใจของพระพรรษาน้อยยังคงคิดวนเวียน ตั้งคำถามในใจตลอดเวลาว่าการกระทำของพระพรรษามากนั้นไม่เป็นการสมควรกับนักบวช คิดวุ่นวายอยู่อย่างนั้นเก็บเงียบอยู่ในใจไม่ถามพระพรรษามาก

ท่านคิดวนเวียนอยู่อย่างนั้น ทำให้ท่านแทบบ้าจนมาถึงจุดหยุดพัก พระพรรษาน้อยอดทนเก็บเรื่องในใจต่อไปอีกไม่ไหวจึงถามพระพรรษามากว่า ท่านทำไมไม่สำรวมถึงความเป็นพระเลยทำไมถึงได้สัมผัสผู้หญิง และผู้หญิงคนนั้นเป็นคนสวยเสียด้วย ท่านเป็นคนบอกผมเองว่าท่านเป็นพระที่บริสุทธิ์ไม่ใช่หรือ?

พระพรรษามากประหลาดใจ แล้วย้อนกลับไปถามพระพรรษาน้อยว่า "ผมวางผู้หญิงสวยคนนั้นไปตั้งหลายชั่วโมงแล้ว เหตุใดท่านยังอุ้มผู้หญิงคนนั้นอยู่อีกเล่า"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ดร.มหานิยม" ร่วมพิธีพุทธาภิเษกที่วัดอาวุธ "สมเด็จธงชัย" ประธาน เข้ากราบ "หลวงปู่ศิลา" เพื่อความเป็นสิริมงคล

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2567  ดร.นิยม  เวชกามา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล) ออกปฏิบัติหน้าที่ด้านพระพุทธศาสน...