ก้าวสู่วันที่ 9 แล้ว ผู้ช่วยโค้ชและทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่าอะคาเดมี่แม่สาย จ.เชียงราย รวม 13 ชีวิต เข้าไปติดอยู่ภายในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.2561 ที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศต่างระดมพลค้นหาอย่างเต็มกำลัง ซึ่งก็ต้องแข่งกับเวลา
พร้อมกันนี้ด้านการให้กำลังใจ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงเป็นห่วงรับสั่งเป็นแนวปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง และทรงอาราธนาพระสงฆ์ภายใต้การนำสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก นำพุทธศาสนิกชนแผ่เมตตาด้วยการเจริญกรณียเมตตสูตร สมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิค มีพระราชดำรัสในระหว่างการประกอบพิธีทางศาสนาที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ นครรัฐวาติกัน ว่า พระองค์ทรงสวดภาวนา และนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ขอพรจากอัลลอฮฺ พระผู้เป็นเจ้า และขอให้พี่น้องมุสลิมร่วมกันขอพร
พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร แห่งวัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง รัฐฉาน ประเทศเมียนมา เกจิดังซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวพุทธหลายประเทศ ทั้งไทย ลาว พม่า จีน และภูฏาน ซึ่งเคยจำพรรษาในถ้ำเป็นเวลานานชนิดปิดวาจา ได้เดินทางไปที่ถ้ำหลวงส่งกระแสจิตกำลังใจ รวมถึงคณะสงฆ์ มหาวิทยาลัยสงฆ์ สถานการศึกษาทั่วไทย ได้เจริญจิตภาวนาส่งกระแสจิตกำลังใจ ขอให้ 13 ชีวิตออกมาจากถ้ำอย่างปลอดภัย
จากกรณี 13 ชีวิตทีมหมูป่านี้สำนักข่าวอิศราได้สะท้อนความเห็นว่า "นี่คือพระคุณอันประเสริฐ คือความยิ่งใหญ่ ความเป็นอมตะ ของสถาบันพระมหากษัตริย์และสถาบันศาสนา อันเป็นที่พึ่ง ที่พักพิงสำหรับคนไทยเราในทุกสถานการณ์ สุขหรือทุกข์ และแม้ทุกข์ปานใด แม้มืดมนปานใด คนไทยย่อมจะมี "แสงสว่าง" อยู่ในหัวใจเสมอ
นอกจากนั้น กรณีทีมหมูป่า นี้ ยังสะท้อนให้เห็นว่า เรามีสถาบัน "ชาติ" ที่เข้มแข็ง ครับ มีจริง เป็นจริง และใช้การได้จริง แม้ 13 ชีวิตจะติดอยู่ในถ้ำ เป็นวันที่ 9 แต่ความเพียรพยายามของรัฐบาลและคนไทยทั้งประเทศ คนไทยทุกวงการ ไม่เคยหมด ไม่รู้หมด เรารัก "เด็ก" เหล่านั้น และ "โค้ช" ของเขา เสมือนคนในครอบครัวของเราจริง ๆ ชาติคือ "ครอบครัว" ของเราจริงๆ ในยามที่เราทุกข์ โศก สับสน วิตกกังวล คนใน"ชาติ" ทั้งหมดได้ยืนขึ้นด้วยกัน เคียงบ่าเคียงไหล่กัน ส่งความคิด สติปัญญา ทรัพยากร และ จิตใจให้ผู้ทุกข์ยาก และให้กันและกัน ประเทศไทยมีสถาบัน "ชาติ" ที่เป็นจริง
กรณีทีมหมูป่าสอนเราว่าเราต้องรักและต้องภูมิใจใน "ความเป็นไทย" เรามี "ของเดิม" สถาบันดั้งเดิม ความคิดดั้งเดิม แบบแผนดั้งเดิม ที่ล้ำค่า มีประโยชน์ เป็นศูนย์รวมจิตใจคนทั้งประเทศได้เมื่อยามคับขัน มีศักยภาพและพลังอันใหญ่หลวง มีไม่กี่ประเทศที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ มีไม่มากประเทศนักที่สถาบันศาสนานอกจากสอนธรรมะแล้วยังเป็นที่พึ่งทางจิตใจของประชาชนได้ และไม่ทุกประเทศที่คนในชาติจะรักและห่วงใยกันปานสมาชิกในครอบครัวเดียวกันเข่นนี้"
และให้ช่วงที่ 13 ชีวิตทีมหมูป่าเข้าไปติดอยู่ในถ้ำหลวงนี้เป็นช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ประเทศรัสเซีย ซึ่งฟุตบอลก็เป็นส่วนหนึ่งทีมหมูป่า หากไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เชื่อแน่ว่าทีมหมูป่าจะได้เชียร์ทีมที่ตัวเองชอบ พร้อมกับได้เห็นเทคนิคเชิงฟุตบอลนำมาพัฒนาทีม และได้เห็นธรรมชาติของการแข่งขันฟุตบอลโลก
"กำลังแข่งขันเพื่อมุ่งเอาแพ้เอาชนะกัน ท่ามกลางเสียงหัวเราะและกระกระโดดโลดเต้นจากชัยชนะ ท่ามกลางหยาดน้ำตา เสียงร้องไห้อย่างเจ็บปวด และทุกข์ทรมานจากความความพ่ายแพ้"
ที่พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส,รศ.ดร. ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติและหลักสูตรสันติศึกษา มหวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ที่ต้องการสะท้อนให้เห็นอีกมุมหนึ่งของโลกที่กำลังบอกเล่าเรื่องราวที่พากันข้ามพ้นความพ่ายแพ้และชัยชนะของคนใดหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง นั่นคือ "การประชุมเพื่อสันติภาพโลก" ภายใต้หัวข้อ "การพัฒนามนุษย์เพื่อสันติภาพอย่างยั่งยืน" ณ เมืองสต๊อกโฮม ประเทศสวีเดน และทีมสวีเดนก็เป็นอีกทีมหนึ่งที่สามารถเข้าสู่รอบ 16 คนสุดท้ายที่จะแข่งขันในวันที่ 3 ก.ค.นี้
อย่างไรก็ตามจากรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลกที่ทีมเยอรมนีตกรอบไปก่อน ตามด้วย อาร์เจนตินา โปรตุเกส เดนมาร์ค ตกในรอบ 16 ทีมสุดท้าย และทีมที่สามารถเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายนั้น สามารถถอดบทเรียนเข้ากับหลักธรรมในพระพุทธศาสนาคือ พละ 5 ซึ่งหนทางสู่ความสำเร็จฟุตบอลโลก คือต้องมีศรัทธามีความเชื่อ มั่นใจในโค้ช และความสามารถตัวเอง วิริยะความขยัน ฟิต สด หนุ่ม ซึ่งคราวนี้โดดเด่นมาก มีสติอยู่กับเกมเสมอ มีสมาธิความมุ่งมั่น มีปัญญาคือแผนที่โค้ชวาวไว้เป็นอย่างดีและเล่นเป็นทีมไม่ใช่เก่งแต่คนเดียวไปไม่รอด หลักพละ 5 นี้ ตรงกับหลักธรรมอิทธิบาท 4 คนทางแห่งความสำเร็จ คือ ฉันทะได้แก่ศรัทธามีเป้าหมายชัด วิริยะ จิตตะคือสมาธิ วิมังสาคือปัญญานั่นเอง
เชื่อแน่ว่าหลังจากการช่วยเหลือให้ 13 ชีวิตทีมหมูป่าออกมาจากถ้ำอย่างปลอดภัยแล้ว คงจะได้มีการถอดบทเรียนเป็นโมเดลไว้ใช้เตรียมรองรับกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเมินแนวคิดไทยแลนด์ 4.0 นั้นสัมฤทธิผลกี่เปอร์เซ็นต์
..................
(หมายเหตุ : ข้อมูลจาก https://www.isranews.org/isranews-article/67355-aticle_67355.html,เฟซบุ๊ก Hansa Dhammahaso)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น