ตามที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน และคณะเรียงร้องให้มีการปฏิรูปคณะสงฆ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นพระจับเงินโดยอ้างให้เป็นไปตามพระธรรมวินัย ซึ่งพฤติกรรมก็คล้ายกับพระเทวทัตที่เคยเข้าไปทูลขอพระผู้มีพระภาค ให้ทรงบัญญัติสิกขาบท 5 ข้อ โดยอ้างว่าเพื่อให้ภิกษุเป็นผู้มักน้อย สันโดษ เป็นไปเพื่อความขัดเกลา เพื่อจะมีอาการที่น่าเลื่อมใส เพื่อไม่สะสม และมุ่งความเพียร โดย
1. ภิกษุทั้งหลายควรอยู่ป่าตลอดชีวิต ภิกษุใดอาศัยบ้านอยู่ โทษพึงถูกต้องภิกษุนั้น
2. ภิกษุทั้งหลายควรเที่ยวบิณฑบาตตลอดชีวิต ภิกษุใดยินดีการนิมนต์ โทษพึงถูกต้องภิกษุนั้น
3. ภิกษุทั้งหลายควรถือผ้าบังสุกุลตลอดชีวิต ภิกษุใดยินดีผ้าคหบดี โทษพึงถูกต้องภิกษุนั้น
4. ภิกษุทั้งหลายควรอยู่โคนไม้ตลอดชีวิต ภิกษุใดเข้าอาศัยที่มุงบัง โทษพึงถูกต้องภิกษุนั้น
5. ภิกษุทั้งหลายไม่ควรฉันเนื้อสัตว์ตลอดชีวิต ภิกษุใดฉันเนื้อสัตว์ โทษพึงถูกต้องภิกษุนั้น
พระผู้มีพระภาคได้ฟังสิ่งที่พระเทวทัตทูลขอแล้ว ทรงตรัสห้ามว่า
ภิกษุใดปรารถนาอยู่ป่า ก็จงอยู่ป่า
ภิกษุใดปรารถนาอยู่บ้าน ก็จงอยู่บ้าน
ภิกษุใดปรารถนาเที่ยวบิณฑบาต ก็จงเที่ยวบิณฑบาต
ภิกษุใดปรารถนายินดีการนิมนต์ ก็จงยินดีการนิมนต์
ภิกษุใดปรารถนาถือผ้าบังสุกุล ก็จงถือผ้าบังสุกุล
ภิกษุใดปรารถนาผ้าคหบดี ก็จงยินดีผ้าคหบดี
ภิกษุใดปรารถนาไม่ฉันเนื้อสัตว์ ก็จงไม่ฉันเนื้อสัตว์
ภิกษุใดปรารถนาจะฉันเนื้อสัตว์ ก็จงฉันเนื้อสัตว์
โดยทรงย้ำว่า ถ้าจะฉันเนื้อสัตว์ ขอให้ฉันด้วยอาการ 3 อย่าง คือ
1. ไม่ได้เห็น
2. ไม่ได้ยิน
3. ไม่ได้รังเกียจ
ด้วยทรงตระหนักดีว่า สิกขาบทข้อปาณาติปาตจะครบองค์ ก็ต่อเมื่อ
1. สัตว์นั้นมีชีวิต
2. รู้ว่าสัตว์นั้นมีชีวิต
3. มีเจตนาที่จะฆ่าสัตว์นั้น
4. เป็นผู้ประกอบความเพียรในการฆ่าสัตว์นั้น
5. สัตว์นั้นตายจากความเพียรนั้น
นี่เป็นสิ่งที่ยืนยันชัดเจน ว่าพระพุทธองค์จะวางสิกขาบทใด จะทรงวางไว้กลางๆ ไม่ตึงไปหรือหย่อนไป เพื่อให้ง่ายต่อการที่พระภิกษุจะปฏิบัติ และไม่เป็นอุปสรรคขัดขวางภิกษุในอันที่จะปฏิบัติสิกขาบทเหล่านั้น รวมถึงให้ภิกษุเป็นผู้เลี้ยงง่ายอยู่ง่าย ไม่เป็นอุปสรรคขัดขวางต่อญาติโยมในอันที่จะมาดูแลอุปัฏฐาก
ให้ที่สุดพระเทวทัตก็ถูกแผ่นดินสูบตายไปตกในนรก ดีที่สำนึกผิดก่อนพระพุทธทำนายในอนาคตจะมุ่งทำความดีและบรรลุเป็นปัจเจกพุทธเจ้า แต่ตลอดชีวิตของพระเทวทัตนั้นมุ่งทำร้ายพระพุทธเจ้าอย่างเช่นไสช้าง กลิ้งก้อนหิน หวังที่จะสังหารพระพุทธเจ้า ทั้งๆที่พระเทวทัตนั้นปฏิบัติสมถกรรมฐานได้ฌานแสดงอิทธิฤทธิ์ได้
แล้วสิ่งใดหนอ พระผู้มีพระภาคทรงอนุญาตไว้ สิ่งไดไม่ได้ทรงอนุญาตไว้??
1. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่เราไม่ได้ห้ามไว้ว่าสิ่งนี้ไม่ควร หากสิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ไม่ควร ขัดกับสิ่งที่ควร สิ่งนั้นไม่ควรแก่เธอทั้งหลาย
2. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่เราไม่ได้ห้ามไว้ว่าสิ่งนี้ไม่ควร หากสิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ควร ขัดกับสิ่งที่ไม่ควร สิ่งนั้นควรแก่เธอทั้งหลาย
3. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่เราไม่ได้อนุญาตไว้ว่า สิ่งนี้ควร หากสิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ไม่ควร ขัดกับสิ่งที่ควร สิ่งนั้นไม่ควรแก่เธอทั้งหลาย
4. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่เราไม่ได้อนุญาตไว้ว่า สิ่งนี้ควร หากสิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ควร ขัดกับสิ่งที่ไม่ควร สิ่งนั้นควรแก่เธอทั้งหลาย
เดินสายดลางดีที่สุด พุทธองค์ทรงตรังใว้แล้ว
ตอบลบ