กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ (KRUNGSRI EXCLUSIVE) นำโดย กนกวรรณ ศุภนันตฤกษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารความมั่งคั่งและลูกค้ากรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ จัดกิจกรรมฟังบรรยายธรรมจากพระนักเทศน์ชื่อดัง พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต ภายใต้หัวข้อ “ธรรมะสุขใจ ออมเงินอย่างไรก็รวย” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไลฟ์สไตล์พรีวิเลจที่ทางกรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟตั้งใจมอบความสุขให้แก่ลูกค้าคนสำคัญ
โดยทาง กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ เล็งเห็นถึงความสำคัญทางพระพุทธศาสนา จึงจัดกิจกรรมฟังบรรยายธรรม ภายใต้หัวข้อ “ธรรมะสุขใจ ออมเงินอย่างไรก็รวย” เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านการบริหารจัดการการเงินพร้อมทั้งตอบแทนคำขอบคุณที่ลูกค้าทุกท่านไว้วางใจให้เราเป็นผู้บริหารดูแลเรื่องการเงินการลงทุนด้วยดีเสมอมา จึงจัดกิจกรรมสนับสนุนการสร้างความสุข เสริมบุญบารมีเข้าสู่ชีวิต ด้วยการนำหลักธรรมอันเป็นหัวใจสำคัญอย่าง อุ อา กะ สะ มาใช้บรรยายในครั้งนี้
พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต บรรยายไว้ว่า “อุ อา กะ สะ สำหรับหลายท่านคงรู้จักกันพอสมควร เริ่มอธิบายง่ายๆ ด้วยคำว่า อุ ที่ย่อมาจาก อุฏฐานสัมปทา แปลว่า ขยันหา หรือความขยันหมั่นเพียรในการแสวงหาความรู้เพื่อทำงานในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี, อา ตัวที่สองย่อมาจาก อารักขสัมปทา ซึ่งหมายถึง การรักษาคุ้มครองทรัพย์สินเงินทองที่หามาได้ ไม่ให้รั่วไหล และรู้จักทำให้เงินนั้นเกิดประโยชน์สูงสุดหรืองอกเงยขึ้นด้วยความชอบธรรม, กะ ตัวที่สามย่อมาจาก กัลยาณมิตตตา ซึ่งแปลได้ว่า การมีกัลยาณมิตรที่ดี คอยช่วยเหลือค้ำจุนกันทั้งทางโลกและทางธรรม คบเพื่อนที่มาช่วยส่งเสริมกันและกันไปในทางที่เจริญ และ สะ ตัวสุดท้าย สมชีวิตา แปลมาจาก การใช้ชีวิตตามสมควรแก่กำลังทรัพย์ที่หามาได้ รู้จักวางแผน กำหนดรายรับและรายจ่าย และใช้เงินอย่างคุ้มค่า เหมาะสมด้วยปัญญาอย่างชาญฉลาด”
นอกจากนี้ภายในงานยังได้รับเกียรติจากลูกค้า กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟและเซเลบริตี้ให้การตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมอย่างเนืองแน่น ทางด้านคุณแม่ลูกแฝด โมนา-วิภาวี คอมันตร์ อีกหนึ่งท่านที่มีการนำข้อคิดทางธรรมมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตของตนเองและครอบครัว กล่าวว่า “เมื่อก่อนเราเป็นคนที่ค่อนข้างใจร้อน ไม่มีสติ แต่พอถึงช่วงหนึ่งของชีวิตเรานำข้อคิดทางธรรมอย่างคำว่า สติ มาปรับใช้กับชีวิตตัวเอง เรามองว่า สติ เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เพราะถ้าเรา ขาดสติไป การจะทำอะไรแต่ละครั้งมันอาจจะเกิดผลเสียตามมาก็ได้ ยกตัวอย่างเรื่องของการใช้เงิน ถ้าเราขาดสติ ใช้จ่ายเงินอย่างไม่ระมัดระวัง สุดท้ายผลเสียก็จะย้อนกลับมาที่ตัวเรา ถ้าหากเราตั้งใจทำงานเก็บเงินมาแทบตาย แต่ต้องมาหมดเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะความที่เราขาดสติยั้งคิด อยากได้ อยากมี จนตัวเองต้องลำบาก เรามองว่ามันคงไม่ดีสักเท่าไรค่ะ”
ต่อด้วย ช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา คุณพ่อยุคใหม่ที่เลือกนำธรรมะเข้ามาเป็นตัวช่วยในการดูแลลูก กล่าวเสริมว่า “ธรรมะสอนให้ผมรู้จักความพอดี เป็นคนมีวินัย และมีการวางแผนในการใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท เราไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเราและครอบครัวเราบ้าง เพราะฉะนั้น ผมมักจะเชื่อในคำว่า Plan B หรือแผนสำรอง ผมมองว่าเราควรจะมีแผนสำรองให้กับทุกเรื่องในชีวิต ยกตัวอย่างเรื่องของการวางแผนทางการเงิน Plan B ของผมอาจจะไม่ใช่การลงทุนที่เป็นเม็ดเงินอย่างเดียว อาจจะเป็นประกันชีวิต, ที่ดิน หรือสิ่งของที่มีมูลค่า วันนี้สิ่งนั้นอาจจะยังมีมูลค่าไม่มาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปมันอาจจะสามารถงอกเงยและมีมูลค่ามากกว่าวันแรกที่เราได้มาก็ได้ครับ และนี่คือข้อคิดประจำตัวผม”
.............
(หมายเหตุ : ขอบคุณข้อมูลจากhttp://www.thaitimenews.com/content/2933)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น