จังหวัดบุรีรัมย์น้อมนำพระราชดำริ "บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง" และ "ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน" ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานศูนย์เรียนรู้อำเภอประโคนชัย ขับเคลื่อนการสร้างความมั่นคงทางอาหาร มุ่งไปสู่การเป็นหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village)
วันนี้ (16 ต.ค. 66) นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า จังหวัดบุรีรัมย์มุ่งเสริมสร้างความยั่งยืนในทุกมิติตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ส่งเสริมการปฏิบัติตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการปลูกปลูกพืชผักสวนครัวในทุกครัวเรือน เพื่อให้มีอาหารเพียงพอสำหรับบริโภค สามารถลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ตลอดจนมีผักปลอดสารพิษที่ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ อีกทั้งหากมีเพียงพอสามารถนำไปแบ่งปัน หรือขยายไปสู่การสร้างรายได้ นับเป็นการพึ่งพาตนเองตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จังหวัดบุรีรัมย์ได้สั่งการให้นายอำเภอทุกอำเภอ ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ และภาคีเครือข่ายทั้ง 7 ภาคีเครือข่าย ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินการสร้างความมั่นคงอาหาร การปลูกผักสวนครัว และการปลูกสมุนไพร 30 ชนิด โดยเริ่มตั้งแต่ที่อำเภอประโคนชัย นำโดยนายกิติพัฒน์ กะวัง นายอำเภอประโคนชัย นางกอบเกื้อ เหล่าทวี พัฒนาการอำเภอประโคนชัย ณ ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริอำเภอประโคนชัย และบ้านโคกปราสาท หมู่ที่ 5 ตำบลละเวี้ย อำเภอประโคนชัย โดยการลงพื้นที่ตรวจกิจกรรมการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ได้แก่ "บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง" และ "ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน" ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้แก่ส่วนราชการ และประชาชนที่มาติดต่อราชการ พร้อมทั้งบูรณาการทุกหน่วยงานร่วมกันรณรงค์และสร้างการรับรู้ให้ประชาชนในพื้นที่ได้ตระหนักในเรื่องของการสร้างความมั่นคงทางอาหาร มีผักสวนครัวที่ปลอดภัยและมีคุณภาพดีปลูกไว้รับประทานเองภายในครัวเรือน
“ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกบ้าน ทุกชุมชน ร่วมกันปลูกผักสวนครัว สร้างความมั่นคงทางอาหาร และร่วมกันขยายผลในครัวเรือน/หมู่บ้าน/ชุมชน อย่างต่อเนื่อง น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง บนหลักการพึ่งพาตนเอง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว ประชาชนทุกคนมีกินมีใช้ เกิดความรักความสามัคคี เกิดความเข้มแข็งของคนในชุมชน นำไปสู่การเป็นหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) ที่ประชาชนทุกคนมีความแข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ มีความสุข และช่วยกันขยายผลความสำเร็จไปเป็นแนวทางขับเคลื่อนไปยังทุกอำเภอ เพื่อให้เกิดพลังความเข้มแข็ง สร้างความสุขให้กับประชาชนชาวบุรีรัมย์ ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน" นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวเพิ่มเติม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น