วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

พุทธศาสนาเชิงรุก: พระธรรมจาริกยุคเอไอ

 

ทิศทางและนโยบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุกสำหรับพระธรรมจาริกยุคเอไอ

บทคัดย่อ

บทความนี้วิเคราะห์ทิศทางและนโยบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุกในยุคปัญญาประดิษฐ์ (AI) บนพื้นฐานแนวคิดสำคัญ ๕ ประการของพระเดชพระคุณพระพรหมบัณฑิต ซึ่งได้บรรยายแก่พระธรรมจาริกในโครงการฝึกอบรมทุนเล่าเรียนหลวง รุ่นที่ ๕ เมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม โดยบทความนี้ได้นำหลักการดังกล่าวมาบูรณาการกับทฤษฎีการสื่อสารสำคัญสามแนว ได้แก่ ทฤษฎีการสื่อสารทั่วไป ทฤษฎีการสื่อสารเพื่อสันติ และทฤษฎีการสื่อสารเพื่อสันติภาพ เพื่อนำเสนอกรอบแนวคิดใหม่สำหรับบทบาทพระธรรมจาริกยุคดิจิทัล เพื่อให้สามารถปฏิบัติศาสนกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้บริบทสังคมโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว


๑. บทนำ

การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในยุคศตวรรษที่ ๒๑ กำลังเผชิญบริบทใหม่ที่ท้าทายจากเทคโนโลยี AI เครือข่ายสังคมออนไลน์ และความหลากหลายทางวัฒนธรรม การทำงานพระธรรมจาริกจึงต้องก้าวจากบทบาท “ผู้สอนธรรมเชิงรับ” ไปสู่ “ผู้ออกแบบการสื่อสารพระพุทธศาสนาเชิงรุก” ที่มีทั้งข้อมูลเชิงพื้นที่ ความเข้าใจผู้รับสาร และความสามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างสันติและความสุขให้แก่ชุมชนโลก แนวคิด ๕ ประการที่พระพรหมบัณฑิตนำเสนอจึงเป็นกรอบคิดสำคัญต่อการออกนโยบายและยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาพระธรรมจาริกในยุคเอไอ


๒. แนวคิดสำคัญ ๕ ประการของพระพรหมบัณฑิต และการตีความเชิงการสื่อสารยุคเอไอ

๒.๑ ตกปลานอกบ้าน: การขยายพื้นที่สื่อสารและผู้รับสาร

แนวคิดนี้สะท้อนหลัก การเลือกกลุ่มเป้าหมาย (Audience Targeting) ในทฤษฎีการสื่อสารทั่วไป ซึ่งเน้นว่า ผู้สื่อสารต้องเข้าถึงผู้ที่ “พร้อมรับสาร” มากกว่าจำกัดตนในพื้นที่เดิม
สำหรับพระธรรมจาริกยุคเอไอ

  • ต้องใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่ (Geodata) และข้อมูลโซเชียลมีเดียเพื่อค้นหาชุมชนที่ต้องการธรรม

  • ใช้ AI วิเคราะห์ความต้องการทางจิตวิญญาณของกลุ่มเป้าหมาย

  • ขยายพื้นที่เผยแผ่จากวัดสู่โลกออนไลน์ เช่น การสอนธรรมผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล

ความหมายเชิงสื่อสารเพื่อสันติ:
การเข้าถึงผู้คนหลากหลายโดยไม่แบ่งแยก เป็นฐานของการสร้างความเข้าใจร่วมและความไว้วางใจ ซึ่งเป็นก้าวแรกของการสร้างสันติสุขในสังคมหลายวัฒนธรรม


๒.๒ ประสานสิบทิศ: การสร้างเครือข่ายสื่อสารพุทธแบบบูรณาการ

หลักการนี้ตรงกับทฤษฎี การสื่อสารเชิงเครือข่าย (Networked Communication Theory)
พระธรรมจาริกควร

  • เชื่อมโยงภาคี “บวร” บ้าน–วัด–โรงเรียน–รัฐ

  • ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อ เทคโนโลยี และองค์กรสังคม

  • ใช้ AI เป็นเครื่องมือเชื่อมการบริหารงานและข้อมูล

ความหมายเชิงสื่อสารเพื่อสันติภาพ:
เครือข่ายความร่วมมือทำให้เกิดพลังร่วม (Collective Empowerment) ลดความขัดแย้ง และส่งเสริมวัฒนธรรมสันติภาพในชุมชน


๒.๓ ผูกมิตรทั่วหล้า: การสื่อสารด้วยไมตรีเป็นฐานสันติภาพ

สอดคล้องกับหลัก Nonviolent Communication (NVC) และทฤษฎีการสื่อสารเพื่อสันติของ Galtung
สาระสำคัญคือ

  • ไม่สร้างศัตรู

  • รู้กาลเทศะในการสื่อสาร

  • เคารพความแตกต่างทางศาสนาและวัฒนธรรม

พระธรรมจาริกจึงเป็น “นักการทูตทางสันติ” ใช้เมตตา–กรุณาเป็นเครื่องมือเชื่อมมนุษย์

ฐานคิดสันติภาพ:
การไม่สร้างศัตรู = การลดโครงสร้างความรุนแรงเชิงวัฒนธรรม
การผูกไมตรี = การสร้างความสัมพันธ์เชิงบวกอย่างยั่งยืน


๒.๔ บริหารปัญญา: การจัดการองค์ความรู้ในยุคข้อมูลมหาศาล

แนวคิดนี้สะท้อน Knowledge Management Theory (KM) และทฤษฎีการสื่อสารเชิงกลยุทธ์
มีองค์ประกอบสำคัญ ได้แก่

  1. เตรียมหาความรู้เพื่ออนาคต

  2. อาศัยปัญญาของผู้อื่น

  3. บริหารความรู้ให้ถูกต้อง–ถูกคน–ถูกเวลา

ในยุคเอไอ พระธรรมจาริกต้อง

  • ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลธรรมและสร้างสื่อธรรมะที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย

  • ตรวจสอบข้อมูลเทียม (Fake News) ที่เกี่ยวกับศาสนา

  • พัฒนา Literacy ทางดิจิทัลเพื่อใช้เทคโนโลยีอย่างมีสติ

ความหมายเชิงสันติ:
ปัญญาเป็นเครื่องมือป้องกันความเข้าใจผิดทางศาสนา ซึ่งมักเป็นต้นเหตุความขัดแย้ง


๒.๕ สาลิกาป้อนเหยื่อ: การสื่อสารธรรมด้วยความเหมาะสมเฉพาะกลุ่ม

แนวคิดนี้สอดคล้องกับ

  • Audience-Centered Communication Theory

  • Constructivist Theory ที่เน้นการตีความตามบริบทของผู้รับ

พระธรรมจาริกควร

  • ปรับรูปแบบการเทศน์ เช่น เล่าเรื่อง เกมจำลองภาพธรรม หรือสื่อดิจิทัล

  • ใช้ AI สร้างเนื้อหาตามบริบท เช่น วิดีโออนิเมชัน หรือบทสนทนาเชิงโต้ตอบ

มิติสันติภาพ:
การสื่อสารที่เข้าใจผู้รับ ช่วยแก้ปัญหาช่องว่างทางวัฒนธรรม และสร้างความกลมกลืนในชุมชนชาติพันธุ์บนพื้นที่สูง


๓. นโยบายและทิศทางเชิงรุกสำหรับพระธรรมจาริกยุคเอไอ

๓.๑ พัฒนาศูนย์ข้อมูลพุทธดิจิทัลและระบบ AI ช่วยสอนธรรม

  • ฐานข้อมูลพระสูตร

  • ระบบถาม–ตอบธรรมะอัตโนมัติ

  • การวิเคราะห์ความต้องการของชุมชน

๓.๒ ฝึกอบรมทักษะสื่อสารดิจิทัลและสันติวิธี

  • การผลิตสื่อออนไลน์

  • การสื่อสารไร้ความรุนแรง

  • การจัดการความขัดแย้งในพื้นที่พหุวัฒนธรรม

๓.๓ ส่งเสริมบทบาทพระธรรมจาริกเป็น “พระนักสื่อสารเพื่อสันติภาพ”

  • ใช้หลักอหิงสาในทุกช่องทางสื่อสาร

  • เป็นผู้ประสานความเข้าใจระหว่างชุมชน

๓.๔ สร้างเครือข่ายนานาชาติด้านพุทธ–สันติภาพ

เน้นความร่วมมือระหว่างวัด มหาวิทยาลัย และองค์กรสันติภาพระดับโลก


๔. สรุป

นโยบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุกในยุคเอไอจำเป็นต้องอาศัยทั้งปัญญาดิจิทัลและภูมิปัญญาพุทธ แนวคิด ๕ ประการของพระพรหมบัณฑิตเมื่อบูรณาการกับทฤษฎีการสื่อสารเพื่อสันติและสันติภาพ จึงเป็นกรอบคิดสำคัญสำหรับพัฒนาพระธรรมจาริกให้สามารถทำหน้าที่เป็น “นักสื่อสารธรรมะเพื่อสันติภาพโลก” อย่างแท้จริง
พระธรรมจาริกยุคใหม่จึงไม่เพียงเผยแผ่ธรรม แต่ยังเป็นสะพานเชื่อมความเข้าใจ สร้างสันติ และใช้เทคโนโลยีอย่างมีสติ เพื่อประโยชน์สุขของมวลมนุษยชาติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พุทธจิตวิทยานิยมโมเดล เยียวยาจิตใจ คณะสงฆ์ไทย ชาวสกลนครเขต 2

การวิเคราะห์เชิงลึก: พลวัตและการประยุกต์ใช้พุทธจิตวิทยาเพื่อการเยียวยาจิตใจและสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมในจังหวัดสกลนคร เขต 2 ตามแนวคิดของ ดร....