วันพุธที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2561

นโยบาย"ไตรศาสนภาคี"ของ"สีจิ้นผิง"ดันยอดพุทธทั่วโลกรั้งอันดับ 2 จีนมากสุด





 วันที่ 6 มิถุนายน 2561 เฟซบุ๊ก Sunthorn Utaithum ได้โพสต์ข้อความว่า พระพุทธศาสนาขึ้นแท่นเป็นศาสนาที่มีจำนวนผู้นับถือมากเป็นอันดับ 2 ของโลก จากการสำรวจล่าสุด ที่ 1,600 ล้านคน (23.88%) หรือคิดเป็น 1 ใน 5 ของประชากรโลก โดยเป็นผลมาจากนโยบายผ่อนปรนด้านศาสนาของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานาธิบดีสีจิ้นผิง เมื่อปี พ.ศ. 2557 ทำให้ชาวจีนซึ่งเคยถูกจำกัดสิทธิ์ในการนับถือศาสนาในยุคคอมมิวนิสต์ หันกลับมานับถือ "ไตรศาสนภาคี" ซึ่งประกอบด้วยพระพุทธศาสนา ปรัชญาเต๋า และปรัชญาขงจื้อ อันเป็นความเชื่อที่เคยยึดถือมาแต่เดิมก่อนเข้าสู่ยุคคอมมิวนิสต์กว่า 80% คิดเป็นประชากรกว่า 1.07 พันล้านคน โดยทั้งนี้ ประเทศจีนและชาวจีนได้ยึดถือมาเป็นเวลาช้านานแล้วว่า "ไตรศาสนภาคี" เป็นรากฐานของวัฒนธรรมและอารยธรรมจีนเสมอมา โดยมีปรากฏอยู่ในสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ ภาษา วรรณกรรม ตลอดจนประเพณีจีน

โดยในปี พ.ศ. 2557 ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้กล่าวปาฐกถาที่องค์การยูเนสโกว่า "ไตรศาสนภาคี" มีบทบาทสำคัญเรื่อยมาต่อวัฒนธรรมและอารยธรรมจีน และทำให้ประเทศจีนเป็นประเทศจีนแบบทุกวันนี้ โดยเขาและพรรคคอมมิวนิสต์จีน พร้อมที่จะให้การสนับสนุนและฟื้นฟูให้ "ไตรศาสนภาคี" กลับมาเจริญรุ่งเรือง และเป็นหลักยึดสำหรับประชาชนชาวจีนอีกครั้ง

ปัจจุบันพระพุทธศาสนาในประเทศจีนร้อยละ 80 เป็นแบบมหายานและวัชรยาน โดยชาวจีนได้นับถือร่วมไปกับปรัชญาเต๋าและขงจื้อ กระจายอยู่ทั่วแผ่นดินใหญ่และธิเบต โดยมีพระพุทธศาสนาแบบเถรวาทอีก 20% อยู่หนาแน่นบริเวณมณฑลทางใต้ มีพระสงฆ์ทั่วประเทศ 240,000 รูป แม่ชี 85,000 ท่าน สำนักสงฆ์ 28,000 แห่ง และวัดกว่า 16,000 วัด

โดยทางการจีนได้คุยว่า พระพุทธรูป วัด ถ้ำ และเจดีย์ในทางพระพุทธศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ล้วนอยู่ในประเทศตน โดยพระพุทธรูปที่ใหญ่และสูงที่สุดในโลกอยู่ที่มณฑลเหอนาน คือ Spring temple Buddha เจดีย์ที่สูงที่สุดในโลกอยู่ที่วัดเฟ๋อเหมินในมณฑลชานซี

ปัจจุบันพระพุทธศาสนาได้รับการสนับสนุนและฟื้นฟูขนานใหญ่โดยรัฐบาลจีน ในฐานะมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ วัดและสำนักสงฆ์ที่เคยถูกทุบทำลายไปในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมได้รับการฟื้นฟูและบูรณปฏิสังขรณ์กันขนานใหญ่ สถานะของพระพุทธศาสนาในประเทศจีนจึงถือว่ากลับมาอยู่ในช่วงขาขึ้นอีกครั้ง โดยได้รับการยอมรับและสนับสนุนมากกว่าศาสนาใดๆทั้งจากผู้นำของประเทศ พ่อค้าปัญญาชน รวมถึงเยาวชนคนรุ่นใหม่ของจีนอีกด้วย

ปล- ในมุมมองของนักวิชาการตะวันตก ไม่อาจเข้าใจหรือทำใจยอมรับวิธีคิดของศาสนาตะวันออกได้ กับการที่มนุษย์คนหนึ่งจะมีความเชื่อได้มากกว่าหนึ่งอย่างแบบพวกตน จึงยังคงใช้วิธีการนับและประมาณการจำนวนศาสนิก ด้วยการซอยความเชื่อต่างๆ ในซีกโลกตะวันออก ออกเป็นกลุ่มศาสนาย่อยตามความเข้าใจของตน โดยไม่พิจารณาถึงความเชื่อมโยงกันระหว่างความเชื่อเหล่านั้นกับวัฒนธรรมที่ความเชื่อนั้นๆผูกอยู่ ทำให้ศาสนาของคนเอเชียซึ่งมีประชากรกว่า 4.5 พันล้านคน ซึ่งคิดเป็น 67% ของประชากรโลก หรือ 3 ใน 5 คน ต้องถูกนับผิดไปจากความเป็นจริง



5 ความคิดเห็น:

  1. สุดยอดมากเลยครับผม
    สาธุ อนุโมทามิ

    ตอบลบ
  2. ถ้าได้ศึกษาแล้วว่าเป็นประโยชน์และมีผลดีต่อชาวโลก ก็สาธุๆๆ

    ตอบลบ
  3. สีเจี้ยนผิงจะได้บุญเยอะสุด..ตรงข้ามกับเหมาเลยน่ะ..สำหรับสี..เงินสำคัญรองจากจิตใจเเละตัวตน..จีนยิ่งรวยๆๆๆ..ส่วนเหมา.เงินวัตถุความเจริญสำคัญกว่าจิตใจ...คนจีนมีแต่จนๆๆ

    ตอบลบ
  4. สาธุๆปลื้มมากครับ.ผมพยายามค้นหาเรื่องคนนับถือพุทธทั่วโลก.หลายสื่อบอกว่าจำนวนคนถือพุทธเปันอันดับสี่ของโลกมีแค่สีร้อยล้านคนเท่านั้น
    .เป็นไปได้อย่างไรก้พวกสื่อพากันมานับเอาแต่พุทธแบบเถราวาสไกล้ๆบ้านเราแล้วก็สรุปเอาเองเลย

    ตอบลบ

"มจร"สีเขียวยุคAI! จัดกิจกรรม "รักษ์ มจร รักษ์สิ่งแวดล้อม คืนขยะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน"

กิจกรรม “รักษ์ มจร รักษ์สิ่งแวดล้อม” เป็นตัวอย่างที่ดีของการผสมผสานระหว่างจริยธรรมและเทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในยุคปัจจุบัน ด้วยหล...