เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2023 เว็บไซต์บีบีซีNEWSไทย ได้เผยแพร่บทความที่เขียนโดยซานา คูรี ผู้สื่อข่าวสายศาสนา บีบีซี นิวส์ อารบิก โดยตั้งเป็นหัวข้อความ"โปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) อย่าง ChatGPT สามารถสร้างคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์และความเคลื่อนไหวทางศาสนาใหม่ ๆ ได้หรือไม่ โดยเธอได้เริ่มจากการให้ความเห็นของศาสตราจารย์ เนล แมคอาเธอร์ ผอ.ศูนย์วิชาชีพและจริยศาสตร์ประยุกต์แห่งมหาวิทยาลัยมานิโตบา (Manitoba) ในแคนาดา ว่า ปัญญาประดิษฐ์อาจเข้ามาช่วยเหลือเหล่านักบวชได้ในเร็ว ๆ นี้ ไม่ต่างกับการช่วยนักข่าวเขียนข่าวด่วนหรือช่วยโปรแกรมเมอร์เขียนโค้ด
@siampongnews นักวิชาการศาสนาไม่ตื่น จะเกิดศาสดาใหม่จาก #เอไอ #ข่าวtiktok #tiktokหน้าฝน ♬ เสียงต้นฉบับ samran sompong
จากบทความนี้ทำให้ได้ทราบถึงท่าทีศาสนาต่างๆที่มีต่อปัญญาประดิษฐ์ เริ่มจาก
ศาสนาฮินดู ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมามีการพัฒนาแชทบอทหลายตัวที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้คำปรึกษาเกี่ยวกับศาสนา แชทบอทบางตัวถูกฝึกด้วยคัมภีร์ "ภควัทคีตา" โปรแกรมแชทบอทเหล่านี้มีผู้เข้าใช้งานจำนวนหลายล้านคน แต่มีรายงานว่าเกิดกรณีที่เครื่องมือเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะสนับสนุนให้เกิดความรุนแรงด้วย
ศาสนาอิสลาม ได้สร้างหะดีษจีพีที (HadithGPT) (หะดีษ คือ พระวจนะของศาสดามูฮัมหมัด) เป็นเครื่องมือที่ถูกฝึกด้วยแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับศาสนาอิสลามในภาษาอังกฤษกว่า 40,000 ชิ้น ซึ่งเปิดตัวเมื่อช่วงต้นปีนี้ แต่หลังจากนั้นนักพัฒนาก็ปิดการใช้งานแชทบอทตัวนี้ เนื่องจากผลจากการตอบรับที่ไม่ดีนักจากชุมชนผู้ใช้งาน ขณะเดียวกัน ในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมาผู้แทนของศาสนาอิสลามและยิว ได้ลงนามในประกาศร่วมกันที่ชื่อว่า Rome Call for AI Ethics หรือ "ข้อเรียกร้องจริยธรรมเอไอโดยโรม"
ศาสนาคริสต์ โดยคริสตจักรโรมันคาธอลิกได้ประกาศออกมาก่อนแล้วตั้งแต่ปี 2020 เรียกร้องให้มีการใช้เทคโนโลยีด้วยความโปร่งใสและมีส่วนร่วม ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลของหลายประเทศและบริษัทด้านเทคโนโลยีหลายแห่ง ขณะที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส กล่าวต่อเรื่องนี้ด้วยว่า "ความท้าทายที่ใหญ่ยิ่ง รออยู่ที่แนวเส้นขอบของปัญญาประดิษฐ์"
ศาสนาพุทธ ในบทความนี้ไม่ได้กล่าวถึงเลย แต่จากการที่ได้ติดตามเรื่องเอไอเกี่ยวกับศาสนาพุทธมานานทำให้ทราบว่า ฝ่ายมหายานจีนได้สร้างหลวงพ่อเอไอและญี่ปุ่นสร้างเจ้าแม่กวนอิ่มเอไอ เมื่อช่วงปี 2562 หลังจากนั้นก็ไม่มีความคืบหน้าอะไรมาก ขณะที่ในส่วนของหินยานหรือไม่เถรวาทไม่ได้มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการเป็นผู้สร้างเอไอแต่อย่างเป็นเพียงผู้ศึกษาและผู้ใช้เท่านั้น แม้ว่าจะเคยยกขึ้นมาให้ปริญญาวิสาขาบูชาโลกเมื่อหลายปีก่อน
จะมีอยู่บ้างก็คือพระมหาเอไอ – AI MONK สื่อธรรมทางสื่อออนไลน์ตั้งแต่ปี2565 ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตรุ่นใหม่ เพราะภายนอกเป็น Virtual Monk หรือพระเสมือน ที่ไม่ได้เป็นพระดัง และไม่มีสังกัดสำนักใดๆ ขณะที่แก่นภายใน ยังคงหัวใจเน้นการเล่าธรรมให้คนรุ่นใหม่สนใจ ได้รับรู้อย่างไม่น่าเบื่อ เพราะเข้าใจง่าย เล่ากระชับฉับไว และมีอารมณ์ขัน เหมาะสมกับยุคสมัยและแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เนื้อหาทุกอย่างท่วมท้นรวดเร็ว
@siampongnews #นวโกวาทแพ็ค ♬ Chill Vibes - Tollan Kim
พระมหาเอไอเคยได้เผยกับสำนักไทยพีบีเอสไว้ด้วยว่า ก่อนจะมาเป็นพระมหาเอไอนั้น มีต้นแบบมาจาก Virtual Influencer ต่างประเทศ และสร้างตัวตนด้วย Computer Generated Imagery (CGI) ออกมาเป็น 2D เคลื่อนไหว ที่มีส่วนผสมอยู่ตรงกลางระหว่างแอนิเมชันและมนุษย์จริงๆ แม้ว่าเพจเฟซบุ๊กของพระมหาเอไอจะมีการโพสต์นานๆ ครั้ง แต่พอมาทีไรก็เรียกรอยยิ้มและน่าจับตา และสิ่งสำคัญก็คือ การตั้งคำถามกับตัวเองต่อไปว่า เรานับถือศาสนาเพราะคำสอน หรือนับถือเพราะองค์ประกอบอื่นๆ
นอกจากนี้โปรแกรม ChatGPT เข้ามาในประเทศไทย มีนักเล่นหวย ได้ให้ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ทำการคำนวณตัวเลข อย่างเช่นผู้ใช้ TikTok ตำหนักหลวงปู่ Ai ออกมาเปิดเผยผลคำนวณสลากกินแบ่งรัฐบาลประจำวันที่ 2/5/66 จึงทำให้เกิดหลวงปู่ ChatGPT ขึ้นมา ทำให้หลวงปู่หลวงพ่อเจ้าพ่อเจ้าแม่ใบ้หวยตกกระป๋องไปตามๆกัน
ส่วนประเด็นว่าปัญญาประดิษฐ์จะทำให้เกิดศาสดาใหม่หรือไม่นั้นผู้เขียนบทความได้อ้างอิงงานวิจัยที่ระบุว่า ไม่เชื่อว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่อะไรในอนาคตที่มองเห็นได้นี้ อาจทำให้เกิดความเสี่ยงที่ทั้งมากขึ้นและน้อยลง ในทางตรงกันข้าม ศาสนามากมายที่จะเกิดจากเอไอมีลักษณะไม่รวมศูนย์ ซึ่งอาจช่วยจำกัดโอกาสที่จะเกิดผู้นำที่แข็งแกร่งและควบคุมบรรดาสาวกได้ขึ้นมา"
อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับบทความนี้ พระครูปลัดปัญญาวรวัฒน์ (หรรษา ธมฺมหาโส), ศ. ดร., ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ และผู้อำนวยการหลักสูตรสันติศึกษา ระดับปริญญาเอก มหวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ได้ให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวความว่า "ในพระพุทธศาสนา AI จะช่วยทำหน้าที่เผยแผ่หลักคำสอนที่ค้นพบโดยพระพุทธเจ้าให้กว้างขวาง โดยการพาคนและกลุ่มคนทุกกลุ่มทุกชนชั้นเข้าถึงหลักคำสอนมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงแก่นและลมหายใจของคำสอนนั้น จึงขึ้นอยู่กับตัวมนุษย์ว่าจะนำธรรมไปทำ หรือนำธรรมไปปฏิบัติจนเข้าถึงธรรม และประจักษ์แจ้งในธรรมด้วยปัญญาญาณได้อย่างไร สรุป AI ให้ได้มากที่สุดก็แค่ตัวความรู้เท่านั้น แต่การเข้าถึงปัญญาญาณจึงขึ้นอยู่กับศักยภาพของตัวมนุษย์เอง มนุษย์ที่มาจากคำว่า มนะ+อุษยะ แปลว่าผู้มีใจสูง เพราะปฏิบัติจึงมีใจสูงด้วยการยกระดับสติ สมาธิ และปัญญา AI ที่ไม่มีใจจึงให้ได้แต่ความรู้ ส่วนตัวรู้ มนุษย์ต้องพัฒนาเอง"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น