เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 เพจเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความว่า จิรัชยา สัพโส ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนหลายครอบครัวว่าประสบปัญหารายรับไม่พอกับรายจ่าย ในขณะเดียวกันปัญหาหนี้สินรุงรัง โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกร มีหนี้สินธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ที่บีบให้ลูกหนี้ต้องหาเงินมาจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยธนาคาร จึงของเรียกร้องรัฐบาลประชาธิปไตยที่กำลังจัดตั้ง ออกนโยบายพักหนี้เกษตรกร พักต้นพักดอก เพื่อช่วยแก้ปัญหาปากท้องให้พี่น้องลืมตาอ้าปากเดินหน้าชีวิตต่อไปได้
1. 9 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจภาพรวมย่ำแย่ พ่อค้าแม่ค้าขายของไม่ได้ ราคาสินค้าตกต่ำ กระทบต่อรายได้ครัวเรือน โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกรรายได้ตกต่ำจนต้องขายที่ดิน ทรัพย์สิน หรืออุปกรณ์การเกษตร เพื่อนำมาเป็นรายได้จุนเจือครอบครัว
2. พี่น้องเกษตรกรที่มีหนี้สินกับ ธ.ก.ส. เมื่อมีหนี้ แต่ไม่สามารถจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยได้ ก็ต้องกู้เงินจากหนี้นอกระบบมาจ่ายหนี้ ธ.ก.ส. อีกทอด ส่งผลให้แก๊งหมวกกันน็อกมีรายได้เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากการเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่สูง หากเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น พี่น้องเกษตรกรก็จะไม่มีรายได้ไปจ่ายหนี้แก๊งหมวกกันน็อก ก็จะต้องหลบหนีหนี้ซ้ำไปอีก
3. ปัญหาหนี้ ธ.ก.ส. ของพี่น้องเกษตรกร เป็นภาระหนักที่ทำให้พี่น้องเกษตกร ไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ เพราะต้องหาเงินมาจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยทุกเดือนท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่
4. พี่น้องประชาชนและเกษตรกรจึงมีความหวังให้จัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพื่อเข้ามาเร่งแก้ปัญหาให้ประชาชน โดยเฉพาะ ‘พรรคเพื่อไทย’ ที่มีนโยบายพักหนี้ จะสามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาปากท้อง ปัญหาหนี้สินให้พี่น้องประชาชน และพี่น้องเกษตรกรได้มีเวลาไปเร่งทำงานหาเงินได้อย่างไม่มีภาระกังวล เพื่อให้เกษตรกรได้ลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง
พร้อมแชร์ข้อความจากเฟซบุ๊ก วิสุทธิ์ ไชยณรุณ - Visuth Chainaroon ความว่า ต้องปลดล็อก ‘รัฐอุปสรรค’ เพื่อยกขีดความสามารถการแข่งขันเกษตรไทย
การพบผู้บริหารสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย (TAITA) สมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร (TABA) และสมาคมอารักขาพืชไทย (TCPA) เพื่อรับฟังข้อเสนอด้านการใช้และนำเข้าเทคโนโลยีพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันการเกษตรไทยวันนี้ ตัวแทนสมาคมได้ให้ข้อมูลและยกหลายตัวอย่างอุปสรรคจากรัฐน่าสนใจครับ
เราเห็นตรงกัน ว่าโอกาสการพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันของเกษตรไทย อยู่ที่การใช้และนำเข้าเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการผลิต ทั้งด้านเคมี รวมถึงเครื่องจักรกล
โดยตัวแทนสมาคมยกตัวอย่างปัญหานี้เป็นรูปธรรม กรณีโรคไวรัสใบด่างมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นความเร่งด่วนสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังทั้งประเทศ เพราะโรคระบาดนี้ได้สร้างความเสียหายในบางพื้นที่แล้วสูง 80-100% แต่เรากลับไม่ยังไม่มีวิธีควบคุม ป้องกัน รักษา จนโรคระบาดลามไปแล้วทั่วประเทศ
ซึ่งหากกลับไปดูต้นตอสาเหตุประการหนึ่ง สมาคมฯ เชื่อว่าโรคระบาดนี้ทุเลาลงได้ด้วยกระบวนการอนุญาตอย่างมีมาตรฐานในการใช้สารเคมีเพื่อการป้องกัน ควบคุม และจัดการโรคระบาดที่เกิดขึ้น
และทางสมาคมฯ ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า ตลอดระยะเวลายาวนานเวลากว่า 6 ปีที่ผ่านมา มีเคมีภัณฑ์รอขึ้นทะเบียนกว่าร้อยชนิด แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากข้อวินิจฉัยของกฤษฎีกา เรื่องอำนาจรับรองการขึ้นทะเบียนเคมีภัณฑ์ ซึ่งจัดอยู่ในหมวดของวัตถุอันตราย ว่ามิใช่อำนาจของกรมวิชาการเกษตร และจบลงที่เรื่องไม่มีความคืบหน้า
หรือเรื่องภาษีโดรนการเกษตร ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับทั้งประสิทธิภาพการนำมาใช้สำรวจ-วางแผนการผลิตพืช ใช้พ่นหว่านปุ๋ยแม่นยำ ช่วยประหยัดต้นทุน ช่วยลดแรงงานคน และใช้งานสะดวก แต่กฎหมายกลับให้ประโยชน์กับการนำเข้าโดรนทั้งตัว เสียภาษีถูกกว่าการนำชิ้นส่วนเข้ามาประกอบโดยคนไทยเอง เป็นต้น
ชัดเจนครับ ว่าหลายข้อรัฐเองเป็นอุปสรรคอยู่มากจริงๆ เกษตรกรไทย ประเทศไทยเสียโอกาสไม่น้อย การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพคือคำตอบ เพื่อปลดเปลื้องอุปสรรคการทำมาหากินของพี่น้องครับ
วันนี้ทีมพรรคเพื่อไทย ทำงานล่วงหน้ารอแล้ว ศึกษาเพื่อแก้ปัญหาถูกจุด เพราะการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและความมั่นคงด้านอาหารโลก คือความท้าทายเพื่อยกระดับความสามารถเกษตรกรไทยครับ
@siampongnews #ข้าวหงษ์ทอง ♬ Sunrise - Official Sound Studio
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น