เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทยให้ความเห็นถึงรายงานจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยที่ชี้ว่าชาวนาไทยยังยากจนที่สุดในอาเซียน แม้จะเป็นประเทศที่ส่งออกได้เป็นอันดับต้นๆ ของโลกมาตลอด
นายสุพันธุ์ระบุว่าสิ่งที่ทำให้ชาวนาไทยยังยากจนที่สุดนั้นไม่ใช่ราคาขายที่ปลายน้ำ แต่เป็นปัญหาต้นน้ำคือต้นทุน โดยเฉพาะราคาปุ๋ยที่พุ่งสูงขึ้นกว่าเท่าตัวจากวิกฤตการณ์ยูเครน-รัสเซีย และราคาที่แตกต่างกันมากระหว่างข้าวเปลือกกับข้าวสาร โดยในช่วงที่ผ่านมาพรรคไทยสร้างไทยลงพื้นที่พูดคุยกับเกษตรกร พบว่าขายข้าวสารได้เพียงกิโลกรัมละประมาณ 10 บาท บางพื้นที่ขายได้ราคาต่ำกว่ากิโลกรัมละ 5 บาทเท่านั้น
ปัญหาประการต่อมาที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีนี้คือภัยแล้งเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ทำให้ขาดแคลนน้ำสำหรับการเพาะปลูก พรรคไทยสร้างไทยจึงเสนอว่าต้องมีการปฏิรูประบบชลประทานทั้งระบบโดยเร็ว และตนมองว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรหากจะสละรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ สักหนึ่งเส้น เพื่อทำระบบชลประทานใหม่ทั้งระบบในจังหวัดพื้นที่แห้งแล้ง
นอกจากนี้ นายสุพันธุ์ ย้ำว่าจะต้องมีการช่วยเหลือเรื่องต้นทุนโดยต้องทำให้ราคาปุ๋ยถูกลงเพราะไม่สามารถทราบได้ว่าสงครามจะยุติลงเมื่อไหร่และยังไม่มีแนวโน้มว่าสงครามจะยุติในเร็ววัน ขณะเดียวกันก็ต้องลดช่องว่างระหว่างผลผลิตต้นน้ำกับปลายน้ำ โดยเฉพาะเรื่องของโรงสีและพ่อค้าคนกลาง ที่อาจจะต้องเพิ่มโรงสีชุมชน หรือการจัดหาตลาดที่ไม่ได้ผ่านพ่อค้าคนกลาง การทำตลาดแบบ Farm to Market เพื่อให้เกษตรกรได้รับรายได้จากผู้บริโภคโดยตรง ลดบทบาทของพ่อค้าคนกลางลง มีการ Matching ระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภคโดยตรง
และปัญหาที่สำคัญที่สุดอีกปัญหาหนึ่งคือ การพัฒนาพันธุ์ข้าว ที่ประเทศไทยเองพัฒนาได้ช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศคู่แข่ง ทั้งๆ ที่เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางด้านชีวภาพแต่กลับมีข้าวอยู่ในตลาดโดยเฉพาะตลาดส่งออกอยู่ไม่กี่สายพันธุ์ และเน้นแต่การผลิตในปริมาณมาก ซึ่งการผลิตโดยเน้นปริมาณอาจไม่ตอบโจทย์โลกปัจจุบันที่ต้องการความหลากหลายและสิ่งใหม่ๆตลอดเวลา แต่อาจเปลี่ยนมาเน้นความหลากหลายแทน และนำเสนอเรื่องราวที่มาที่ไปของข้าวแต่ละสายพันธุ์ สร้างอุปสงค์ใหม่ๆ ให้กับข้าวไทยโดยนำเสนอสายพันธุ์ใหม่ๆ หรือสายพันธุ์ที่ยังไม่เป็นที่นิยมมากให้กับตลาดแทน
นายสุพันธุ์ระบุว่า ปัญหาของวิธีคิดเรื่องการเกษตรไทยในปัจจุบันคือเรามักจะคิดว่าผลิตอย่างไรให้ได้ปริมาณมากเพื่อจะส่งออกได้มาก และคาดหวังว่าจะได้รายได้ที่มากตาม แต่กลับไม่ได้คิดว่าจะทำอย่างไรให้ผลิตให้ได้คุณภาพสูง เพื่อให้ได้ราคาที่สูงตามคุณภาพโดยไม่ต้องเน้นแต่ปริมาณอย่างเดียว พร้อมทั้งเน้นการปลูกพืชหมุนเวียนในช่วงที่ไม่ได้เพาะปลูกข้าวเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ทั้งปี และคาดหวังว่ารัฐบาลใหม่ที่จะตั้งขึ้นมาจะเข้าใจเรื่องดังกล่าว และแก้ไขปัญหาให้พี่น้องเกษตรกรได้ ไม่ใช่มีแต่ออกนโยบายแทรกแซงกลไกตลาด
@siampongnews #ข้าวหงษ์ทอง ♬ Sunrise - Official Sound Studio
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น