วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2561

มติสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก มอบเวียดนามเจ้าภาพจัดงานวิสาขบูชาโลกปี62







วันที่ 22 ก.ย.2561  ห้องประชุม 401 อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พระพรหมบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค 2 เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส วรวิหาร ประธานสภาวันวิสาขบูชาโลก เป็นองค์ประทานการประชุมคณะกรรมการสมาคมสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก (ICDV) เพื่อเตรียมจัดโครงการจัดกิจกรรมวิสาขบูชานานาชาติ ครั้งที่ 16 ซึ่งมีพระราชปริยัติกวี อธิการบดี มจร  โดยมีคณะกรรการ ผู้บริหาร คณาจารย์ นักวิชาการ เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  การจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชานานาชาติ ครั้งที่ 16 หรือปี 2562 ประเทศเวียดนามเสนอเป็นเจ้าภาพ โดยที่ประชุมมีมติ ดังนี้ 1. จัดเฉลิมฉลอง Day of Vesak 2019(2562)  ที่ประเทศเวียดนาม เมือง Hanam ห่างจาก Hanoi 70 กม.  2. จัดงาน 4 วัน คือวันที่  12-14 พ.ค. 2562 ที่ประเทศเวียดนาม และวันที่ 4 คือวันที่  16 พ.ค.2562 จัดการเฉลิมฉลองที่ศูนย์ประชุมสหประชาติ กรุงเทพฯ  และ 3. หัวข้อการเฉลิมฉลองคือ 

แนวทางพุทธศาสนาสู่ภาวะผู้นำระดับโลกเพื่อสังคมที่ยั่งยืน  (Main Theme): Buddhist Approach to Global Leadership for Sustainable Societies

พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส,รศ.ดร. ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เคยกล่าวไว้เมื่อคราวเดินทางไปนครโฮจิมินท์ ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 10 ส.ค.2561 ว่า ตั้งใจไว้หลายเดือนว่าจะเดินทางมาประเทศเวียดนาม  ประกอบกับคณะสงฆ์เวียดนามกลุ่มใหญ่นำโดยรองพระสังฆราชเวียดนามและรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาเวียดนาม เมืองโฮจิมินห์ ได้เดินทางไปพบ ศ.ดร.พระพรหมบัณฑิต เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2561 ที่มหาจุฬาฯที่ผ่านมา โดยการนำหนังสือของรัฐบาลประเทศเวียดนามและคณะสงฆ์ประเทศเวียดนามแจ้งแสดงเจตจำนงค์ในการเป็นเจ้าภาพจัดงานวิสาขบูชาโลกครั้งที่ 16  ที่ประเทศเวียดนาม ในปี 2562


ครั้งนั้นได้ปรึกษาหารือแนวทางการทำงานร่วมกันระหว่างวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มจร กับมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาเวียดนาม เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ภายใต้บันทึกลงนามความร่วมมือที่ทั้งสองมหาวิทยาลัยได้ลงนามร่วมกันประมาณ 10 ปีก่อน จึงเป็นที่มาของการรับนิมนต์เดินทางมาประเทศเวียดนามดังกล่าว 

"ผลการดำเนินการครั้งนี้ ในฐานะเลขาธิการกรรมการสมาคมสภาสากลวันวิสาขบูชาโลกได้เข้าพบและรับฟังแนวทางการเตรียมตัวนำเสนอตัวเพื่อเป็นเจ้าภาพจัดงานวันวิสาขบูชาวันสำคัญสากลของโลก ครั้งที่ 16 ที่ประเทศเวียดนาม กับคณะสงฆ์เวียดนามทั้งรองพระสังฆราชและอธิการบดีมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสตร์เวียดนาม พระธรรมาจารย์ติช ตริ กวาง รวมถึงรองอธิการบดีและพระสงฆ์ผู้ใหญ่หลายรูป ก่อนที่คณะสงฆ์เวียดนามจะเดินทางไปร่วมประชุมเพื่อแจ้งความจำนงค์อย่างเป็นทางการต่อคณะกรรมการสมาคมสภาสากลวันวิสาขบูชาโลกที่จะประชุมระหว่างวันที่  23-24 กันยายน 2561 ที่มหาจุฬาฯ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ช่วงนี้เป็นการจัดทำข้อเสนอเพื่อให้คณะกรรมการสมาคมสภาสากลวันวิสาขบูชาโลกให้ความเห็นชอบต่อไป" พระมหาหรรษา  กล่าวและว่า 

ส่วนด้านความร่วมมือด้านการศึกษานั้น ได้เปิดสนามสอบชิงทุน 5 ทุน ที่สนามสอบเมืองโฮจิมินห์สำหรับนิสิตที่มีความสามารถพิเศษทั้งพระภิกษุ ภิกษุณี และบุคคลทั่วไป ให้มาเรียนหลักสูตรปริญญาตรี สาขาพระพุทธศาสนา ที่วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มจร ผลการดำเนินการมีผู้เข้าสอบชิงทุนประมาณ 30 รูป/คน โดยมีรองอธิการบดีทั้ง 2 รูป คือ ศ.ดร.เลอ มัน ทัต และ ศ.ดร.ติช นัท ตือ ได้ร่วมเป็นพยาน สอบสัมภาษณ์ และข้อเขียน 

และได้โรดโชว์วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มจร  เพื่อให้นิสิตทั้งระดับปริญญาตรี และโท ของปรเทศเวียดนาม ได้เข้าใจและรับทราบการจัดการศึกษาของผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มจร ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจมาเรียนในปัจจุบันและอนาคต และได้นำเสนอแง่มุมของมหาจุฬาฯ แก่นิสิตและคณาจารย์ในหอประชุมใหญ่ ราว 2,500 รูป/คน เป็นที่น่าสังเกตว่า จากข้อมูลเชิงลึกนั้น คณะสงฆ์ประเทศเวียดนามส่วนใหญ่จะส่งไปเรียนที่ประเทศศรีลังกา อินเดีย และพม่ามากกว่าประเทศไทย สาเหตุมาจากตัวแปรที่น่าสนใจหลายประการ ซึ่งจะนำไปวางแผนการทำงานต่อไป


ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มจร กล่าวด้วยว่า สิ่งที่น่าสนใจ คือ ได้สังเกตเห็นพระภิกษุและภิกษุณีรุ่นใหม่ของเวียดนาม มุ่งมั่นและตั้งใจศึกษาทั้งปริยัติ และปฏิบัติอย่างแข็งขัน อีกทั้งมีศักยภาพในการสื่อสารทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีนอย่างคล่องแคล้ว เชื่อมั่นว่าในอนาคตอันใกล้นี้ การศึกษาพระพุทธศาสนาในประเทศเวียดนามทั้งในระดับชาติและนานาชาติจะมีความเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะขณะนี้คณะกำลังเตรียมบุคลากรและเตรียมสถานที่รองรับการศึกษาทุกระดับ และกำลังนำพระพุทธศาสนาไปเชื่อมกับองค์ความรู้สมัยใหม่เพื่อตอบโจทย์ของสังคมประเทศเวียดนามที่กำลังเจริญเติบโตทางธุรกิจ เพื่อให้สังคมสามารถมีความสุข และอยู่ร่วมกับโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างประสานสอดคล้องต่อไป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"โคกหนองนาโมเดล" จากจุดเริ่มต้นชุมชนแห่งความเอื้ออาทร ผ่านหลักธรรมแห่งการให้

โครงการ "โคกหนองนาโมเดล" เป็นตัวอย่างที่สำคัญในการพัฒนาชุมชนผ่านหลักธรรมและแนวคิดของการให้ ซึ่งมีศักยภาพในการสร้างความยั่งยืนในชุม...