ดิจิทัลสร้างสรรค์สังคมยั่งยืน ถ้าผู้นำเลือกใช้งานอย่างมีสติ : สำราญ สมพงษ์ นิสิตปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา มจร รายงาน
"Digital Consciousness สติกับยุคดิจิทัล" นับได้ว่าเป็นหัวข้อเสวนา "STAR TECH TALK" ที่สนใจ ที่เป็นส่วนหนึ่งของงาน "Digital Thailand Big Bang 2018" ที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี ในวันที่ 22 ก.ย.2561 โดยมีคนดังอย่าง"หนุ่ย" พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ "ซี" ฉัตรปวีณ์ ตรีชัชวาลวงศ์ และนายจอห์น รัตนเวโรจน์ ซีอีโอ บริษัท สแพลช อินเตอร์แอ็คทีฟ จำกัด เป็นซุปเปอร์เกสต์ของงาน
การเสวนาเริ่มด้วยการกล่าวถึงความสำคัญของ "เทคโนโลยี" ในยุคปัจจุบัน โดย ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และได้ชูความเป็นผู้นำ (Leadership)มีความคิดสร้างสรรค์เป็นแรงบันดาลใจให้กับสังคม สำคัญไม่แพ้กัน จึงเป็นที่มาของโครงการสร้างการตระหนักรู้ สู่การเป็น "ผู้นำความคิดทางด้านเทคโนโลยี" (STAR TECH 2018)ครั้งนี้
จุดที่น่าสนใจอยู่ที่งานนี้ใช้คำว่า "สติ" ยกมาเป็นเด็นของการเสวนา ดูเหมือนจะเป็นการนำคำว่า "สติ" มาเคาะสนิมอีกครั้ง หลังจากที่มีการนำคำนี้มาถกแถลงกันเมื่อครั้งคำว่า "ดิจิทัล" กำลังเริ่มบูม แต่ก็มีจุดที่น่าสังเกตคือการใช้ภาษาอังกฤษคือคำว่า "Consciousness" ความหมายตามพจนานุกรมก็แปลว่า "สติ" เช่นเดียวกับคำว่า "Mindfullness" ก็แปลว่าสติเช่นเดียวกัน จึงได้สอบถามผู้รู้ด้านภาษาอังกฤษได้รับคำตอบว่า "Consciousness" จะเน้นไปทาง "รูป" หรือ กายวิภาคศาสตร์ ส่วนคำว่า "Mindfullness" จะเน้นไปทาง "นาม" หรือทางศาสนา จึงทำให้พออนุมานได้ว่างานนี้เน้นทางด้านใด
แต่ผู้ที่ระุบุถึงความสำคัญของ "สติ" คือ ดร. ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) โดยระบุว่า เทคโนโลยีจะสามารถเปลี่ยนชีวิตของคนได้ คนที่สนใจและใช้งานเทคโนโลยีมาทำให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน นักธุรกิจหรือผู้ประกอบการทั้งรุ่นใหญ่ รุ่นเล็ก ที่นำเอาเทคโนโลยีมาใช้เพื่อพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพของธุรกิจ
"ดังนั้น จะเห็นว่าหากมีสติในการใช้งานเทคโนโลยีแล้วจะสามารถพาสังคมไทยก้าวไกลสู่สังคมโลกที่ไร้ขีดจำกัดด้วยเทคโนโลยีเต็มรูปแบบได้ ทั้งนี้ depa จึงได้จัดโครงการสร้างการตระหนักรู้ สู่การเป็น "ผู้นำความคิดทางด้านเทคโนโลยี" (STAR TECH 2018) ขึ้น" ผู้อำนวยการ depa กล่าว
จากการเสวนาครั้งนี้พอจะอุ่นใจได้ว่า สังคมไทยพอจะมีตัวเบรกคือ "สติ" แม้จะใช้คำว่า "Consciousness" ก็ตาม เพราะคำว่า "สติ" นี้เป็นตัวจักรสำคัญที่จะสร้างการตระหนักรู้โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรู้เท่าทันสื่อและเทคโนโลยี ยิ่งปัจจุบันนี้่ฝ่าย "รูป" หรือ "วัตถุ" ได้พัฒนามาถึงขึ้นปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ มนุษย์ก็หวั่นๆว่า เอไอจะคลองโลก ยากที่จะหาวิธีการแก้ไข เพราะเท่ากับว่า วัตถุหรือรูปพัฒนามาสู่แดน "นาม" หรือ "วิญญาณ" แล้ว
และยาหรือวัคซีนที่จะเป็นตัวแก้คือ "สติ" และจะต้องเป็นสติที่ไม่ธรรมดา จะต้องเป็นสติที่ผ่านการฝึกด้วย "สติปัฏฐาน" ถึงจะสามารถควบคุม "เอไอ" ได้ตามที่พระราชปริยัติกวี อธีการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้เคยระบุไว้ และศาสตร์ "สติปัฏฐาน" นี้ปัจจุบันก็ได้รับความสนใจจากโลกวันตะตกเป็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่ศาสตร์นี้ผู้ค้นพบจากฝั่งตะวันออก ซึ่งก็มีการศึกษาตามสำนักต่างๆ แต่ยังไม่เป็นระบบที่ชัดเจน ด้วยเหตุนี้วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มจร จึงได้เปิดหลักสูตร "สติและสมาธิ" ระดับปริญญาเอกอินเตอร์ขึ้นมาศึกษาควบคู่กับหลักสูตรสันติศึกษาอินเตอร์
ดังนั้น จึงไม่ต้องเป็นห่วงว่า "เอไอ" จะครองโลก เพราะหากผู้นำผ่านการฝึก"สติปัฏฐาน"แล้ว ย่อมจะนำ "เอไอ" ไปใช้่สร้างสรรค์โลกอย่างแน่นอน เพราะว่ามี "สติ" คู่กับ "เทคโนโลยี" คือมีความรู้คู่คุณธรรมนั่นเอง ทำให้สมดุล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น