วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561

"นพอนันต์ เสนาคำ"เซียนตัวจริงวัตถุมงคลสาย อ.เปล่ง บุญยืน “ฆราวาสจอมขมังเวทย์มหาเสน่ห์เมืองช้าง"





อ.เปล่ง บุญยืน อดีตคือผู้บริหารโรงเรียนใน อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ พระเกจิอาจารย์สายอีสาน กล่าวยกย่อง อ.เปล่ง โดยเรียกว่าคำแทนท่านว่า “อาจารย์ผู้เฒ่า” ทุกครั้ง ในขณะที่ลูกศิษย์ขนานนามยกให้เป็น "ฆราวาสจอมขมังเวทย์แห่งเมืองสุรินทร์" และ “ฆราวาสจอมขมังเวทย์มหาเสน่ห์แห่งแดนอีสาน”

ท่านเคยเล่าว่า สมัยที่ท่านเป็นนักศึกษา ได้หลบหนีเข้าป่าเนื่องจากขณะนั้นมีเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมืองรัฐบาลได้กวาดล้างคนที่มีความคิดเห็นต่างและท่านถูกกล่าวหาว่า เป็นพวกคอมมิวนิสต์ 

ท่านจึงหลบหนีเข้าป่าไปเจอท่านอาจารย์ภา มีเชื้อสายเขมรและเป็นพระที่มีวิชาอาคมแก่กล้าและขลังมาก อาจารย์ภาได้ชักชวนให้บวชด้วยกัน และตัดสินใจบวชออกเดินธุดงค์ไปทั่วป่าลึกทั้งในเขตสุรินทร์ ศรีสะเกษ

กระทั่งฝั่งเขมรและลาว ท่านฝึกจิตเจริญวิปัสสนากรรมฐานอยู่กลางป่าเป็นเวลากว่า ๑๐ ปี  เมื่อถึงเวลาอันสมควรท่านจึงขอลาสิกขากลับมาสู่เพศฆราวาสอีกครั้งเมื่อปี ๒๔๙๒ หลังจากนั้นอีก ๖ เดือนต่อมาท่านก็สอบบรรจุเป็นครูเริ่มชีวิตข้าราชการแต่นั้นมาจนเกษียณอายุราชการในตำแหน่งผู้บริหารโรงเรียนมัธยม ด้วยความสามารถทางจิตของท่าน ทำให้ท่านเสกอะไรก็ขลังมีพลังไปหมด ทำแบบรู้แจ้งเห็นจริงเชื่อถือได้พิสูจน์ได้ คนในเขตอีสานใต้ต่างรู้ซึ้งถึงกิตติศัพท์ของท่านดี




 ชื่อเสียงของ อ.เปล่ง เป็นที่เลืองลือระบือไกล เป็นที่รักใคร่และศรัทธาของชาวบ้านมาจวบจนทุกวันนี้ 

อ.เปล่ง ถึงแก่กรรมที่โรงพยาบาลสุรินทร์ด้วยโรคปอดบวมรุนแรงเมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ สิริอายุ ๘๗ ปี 

นายนพอนันต์ เสนาคำ นักธุรกิจส่งออกสินค้า ผู้นิยมสะสมพระเครื่องและวัตถุมงคลสาย อ.เปล่ง บุญยืน บอกว่า ก่อนหน้านี้ศึกษา และสะสมพระสายป่า สายปฏิบัติมาตลอด ชนิดที่เรียกว่าแอนตี้ฆราวาสแบบสุดๆ ไม่เชื่อและไม่นับถือด้วย  แต่มาถึงจุดพลิกผันเพราะโดนผู้หญิงคนหนึ่งทำเสน่ห์ ชนิดที่เรียกว่ามีอะไรยกให้เขาหมดแบบไม่มีเหตุผล ไปหาพระดี หมอเก่ง ที่ไหนก็แก้ไม่ได้  สุดท้ายมาได้เครื่องราง อ.เปล่ง บุญยืน ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปชนิดที่เรียกว่า จากหลังเท้าเป็นหน้ามือเลยทีเดียว

พร้อมกัยนี้ นายนพอนันต์ เล่าให้ฟังว่า ใช้พระเครื่อง เครื่องราง และวัตถุมงคลของ อ.เปล่ง มาทุกรุ่น ซึ่งแต่ละอย่างล้วนมีประสบการณ์ทั้งสิ้น แต่ที่ถูกโฉลกมากที่สุด คือ กุมารทองในขวดน้ำมัน ซึ่งครั้งหนึ่งเมียเคยถามว่า  “แขวนพระมา ๓๐ ปี แล้วเอาอะไรมาแขวนมันจะได้ผลหรือ”  แต่เป็นเรื่องสุดจะเหลือเชื่อเพียง ๒ อาทิตย์ เมียกลับเปลี่ยนคำพูดใหม่ว่า  “พี่ๆ ใครมาขอแบ่งอย่าให้นะ ต่อให้มีเงินล้านก็ตาม”

ทั้งนี้จากการศึกษาและประวัติการสร้างเครื่องรางทุกชนิด พระเครื่องทุกรุ่นทุกพิมพ์ อ.เปล่ง สร้างด้วยความพิถีพิถันทุกขั้นตอน ท่านเคยกล่าวไว้ว่า  เวลาทำวัตถุมงคลหรือเครื่องรางให้คนเอาไปใช้ ต้องทำให้เต็มที่ ไม่ให้เสียชื่อ เมื่อเรียนรู้จริง ทำได้จริงจึงกล้ารับประกัน วัตถุมงคลหรือเครื่องรางผงพรายที่ปลุกเสกผงพรายเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และเป็นกุศลแก่พรายด้วย ไม่ได้ใช้พรายไปทำร้ายใคร 

ด้วยเหตุผลนี้อ.เปล่ง จึงได้นำคุณพรายเหล่านั้นมาสถิตอยู่ในวัตถุมงคลและเครื่องรางของท่าน จุดมุ่งหมาย คือ ให้พรายเหล่านั้นได้มาช่วยผู้ที่ครอบครอง  เพื่อให้พรายได้เกิดบุญและกุศลไปด้วย พรายไม่สามารถทำบุญเองได้ต้องอาศัยคนช่วยเหลือหรือทำบุญให้  การใช้พรายส่วนใหญ่จะเน้นหนักไปทางเรื่อง “มหาเสน่ห์” และช่วยเหลือผู้ครอบครองให้สมความมุ่งมาดปรารถนา ในสิ่งที่ไม่เกินกรรมของบุคคลเหล่านั้น

พร้อมกันนี้ นายนพอนันต์ ยังบอกด้วยว่า การเล่นสายพรายให้เฮี้ยนและขลังจำเป็นต้องท่องคาถาปลุกเสกพรายให้มีพลังด้วย  “จิเจรุนิ นะมะพะทะ” หรือ “จิเจรุนิจิตตัง เจตตะสิกัง รูปัง นิมิตตัง กุมาโรวา เจ้ารัก เจ้ายม กุมารทอง พรายทอง อาคัจฉาหิ เอหิ เอหิ นะมะพะทะ”  และหมั่นทำบุญถวายสังฆทานอุทิศส่วนบุญกุศลให้พราย จะได้มีพลังช่วยเหลือเราอย่างเต็มที่ ผู้ให้ก็จะกลายเป็นผู้รับสิ่งดีงามในไม่ช้าก็เร็ว 

อ.เปล่ง ไม่ได้กำหนดว่าต้องเซ่นไหว้หรือเลี้ยงด้วยอะไร แต่มีความเชื่อว่า การเลี้ยงพรายในวันโกนได้ผลมากกว่าวันอื่นๆ แต่ปัจจุบันเลี้ยงพรายและกุมารทุกวันเนื่องจากเขาให้คุณเราทุกวันเลยให้เขาทุกวันเช่นกันเป็นสิ่งตอบแทน” 

สำหรับคุณวิเศษแห่งของขลัง อ.เปล่ง นพอนันต์ บอกว่า อ.เปล่ง สร้างพระเครื่องและเครื่องรางของขลังอย่างจริงจังหลังจากเกษียณอายุราชการ ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศ  คนสิงคโปร์, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, จีน รวมถึงฮ่องกงก็ศรัทธาท่านบูชาวัตถุมงคลและเครื่องรางของท่านแล้วต่างมีประสบการณ์มากมาย

พระเครื่องที่ อ.เปล่งสร้างครั้งแรก เป็นพิมพ์พระขุนแผน ผู้ที่ได้รับแจกไปจากท่านต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันหมดว่าเป็นสุดยอดทางเมตตาจริงๆ เพราะพุทธคุณด้านเมตตามหาเสน่ห์ มหานิยม มหาละลวยแรงมากเป็นพิเศษ จนเป็นที่แสวงหาของศิษย์ จึงเรียกว่า "พระขุนแผนมหาเสน่ห์”



เมื่อพระขุนแผนรุ่นแรกหมดไปลูกศิษย์หลายคนหลายคณะที่ไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของจึงขอร้องให้ท่านสร้างขึ้นอีก ซึ่งท่านเมตตาก็สร้างให้ตามประสงค์จนถึงปัจจุบันมีมากถึง ๗ รุ่น ดังนี้ ๑.พระขุนแผนมหาเสน่ห์ (ป.๑)  ๒.พระขุนแผนชมตลาด (ป.๒)  ๓.พระขุนแผนสยบมาร  ๔.พระขุนแผนสะกดทัพ  ๕.พระขุนแผนพราย ๕๙ ตน 
๖.ขุนแผนหลังพระอินทร์ทรงช้าง และสมเด็จจอมสุรินทร์ และ๗.ขุนแผนพิมพ์สยบมารรุ่นบูชาครู ๘๔ ปี 

ส่วนเครื่องรางของขลัง ท่านสร้างไว้มากมายหลายชนิด อาทิ อิ้นคู่มหาเสน่ห์ ที่มีอานุภาพทางเมตตามหาเสน่ห์อย่างสูงสุด  ใครเห็นใครรัก หญิง ชายหลง ผู้ใหญ่เมตตา นับเป็นวัตถุมงคลที่สร้างชื่อเสียงให้ท่านเป็นอย่างมาก รัก-ยม ท่านอาจารย์เมตตาปลุกเสกจนมีฤทธิ์ช่วยผู้บูชาทำมาหากิน ทำมาค้าขาย เรียกลูกค้าเรียกคนเข้าร้าน เรียกงาน เรียกเงินเรียกทอง เฝ้าบ้านและตามจะเรียกใช้  สีผึ้ง จะเน้นทางเมตตาค้าขาย ลูกอมเพชรกลับ คุณพิเศษด้านกลับร้ายกลายเป็นดี ตะกรุดโทน มีพุทธคุณครบทุกด้านไม่ว่าจะเป็นมหาเสน่ห์ มหาโชค มหาลาภ มหาอุด ตะกรุดพญางูเหลือม ดีทางเรียกเงินเรียกทอง ทำมาหากินสะดวกสบาย โชคลาภเงินทองเข้ามาหาเอง เหมือนพญางูเหลือมที่สัตว์เล็กใหญ่พากันมาให้กินโดยไม่ต่อสู้ขัดขืน  ปลัดขิก เมตตา ค้าขาย กันเขี้ยวงา  นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายชนิดเช่น ผ้ายันต์ต่างๆ
   

สำหรับความนิยมเครื่องรางและวัตถุมงคล อ.เปล่ง นายนพอนันต์ บอกว่า คุณวิเศษในวัตถุมงคล อ.เปล่ง นั้น ทุกชนิดไม่ต่างกัน แต่ถ้าจะจัดตามราคาซึ่งมีการหาเช่ากันนั้น มีดังนี้ ๑.ขุนแผนพราย ๕๙ ตน ซึ่งเป็นที่นิยมของคนจีน ไต้หวัน รวมทั้งฮ่องกงเป็นอย่างยิ่ง แรกๆ มีการเช่าหากันราคา ๓,๐๐๐ บาท แต่ทุกวันนี้ต้องมีอย่างน้อย ๓๐,๐๐๐ บาท  ๒.ขุนแผนพราย ป.๑ (อ.เปล่ง รุ่น ๑) ราคาอยู่ที่หลักหมื่นปลายๆ ๓.ขุนแผนพราย ป.๒ (อ.เปล่ง รุ่น ๒) ราคาอยู่ที่หลักหมื่นกลางๆ ๔.ขุนแผนสะกดทัพราคาหลักหมื่นกลางๆ  ๕.ขุนแผนสยบมารราคา ๒-๓ หมื่นบาท  ผู้ที่มีข้อสงสัยเรื่องวัตถุมงคลสาย อ.เปล่ง สามารถเข้าชมภาพหรือหาข้อมูลได้ที่ 
“http://www.thaprachan.com/นพอนันต์9” 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แนะนำหนังสือนิยายอิงธรรมะ: มนต์รักจีพีที

  เนื้อหาหนังสือนิยายอิงธรรมะ: มนต์รักจีพีที บทนำ ฉากเปิด : สันติเดินทางกลับบ้านเกิดในชนบท หลังผิดหวังจากชีวิตในเมืองใหญ่และความรักที่ไม่สมห...