วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561

หลวงพ่อขันตี ญาณวโรอริยะแห่งพระสายป่า วัดป่าม่วงไข่ อ.ภูเรือ จ.เลย ในความศัทธาของ “เสี่ยโต่ง ขอนแก่น”



หลวงพ่อขันตี ญาณวโรอริยะแห่งพระสายป่า วัดป่าม่วงไข่ อ.ภูเรือ จ.เลย ในความศัทธาของ “เสี่ยโต่ง ขอนแก่น”

พระป่าที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ

ปัจจุบันนี้ยังมีหลายสิบรูป และหนึ่งในจำนวนนี้ คือ หลวงพ่อขันตี ญาณวโร เจ้าอาวาสวัดป่าม่วงไข่ ต.สานตม อ.ภูเรือ จ.เลย

ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๘๖ ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะแม เป็นชาวขอนแก่นโดยกำเนิด

ปัจจุบันสิริอายุ ๘๕ ปี พรรษาที่ ๖๖ เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๗ ณ พัทธสีมา วัดศรีจันทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น

เมื่ออุปสมบทได้ ๑ ปี พ.ศ.๒๕๐๘ ท่านได้ติดตามมาปฏิบัติจำพรรษาอยู่กับ “หลวงปู่คำดี ปภาโส” ที่วัดถ้ำผาปู่นิมิตร ต่อมาได้ย้ายไปพำนักจำพรรษา และอุปัฏฐากดูแล “หลวงปู่ชอบ ฐานสโม” ที่วัดป่าโคกมน เนื่องจากในขณะนั้นหลวงปู่ชอบป่วยเป็นอัมพาต

วัดป่าสันติธรรม หรือวัดป่าห้วยเดื่อ เป็นวัดที่หลวงพ่อขันตี ญาณวโร ได้เป็นผู้นำพาสร้างวัดป่าแห่งหนึ่งอยู่ที่บ้านห้วยเดื่อ อ.วังสะพุง จ.เลย และดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส โดยท่านพำนักอยู่จำพรรษา ณ วัดป่าห้วยเดื่อ (วัดป่าสันติธรรม) เป็นเวลายาวนานถึง ๒๕ ปี

หลังจากนั้นหลวงพ่อขันตีไปพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าหนองแซง ต.หนองบัวบาน อ.หนองวัวชอ จ.อุดรธานี ก่อนย้ายมาอยู่จำพรรษาที่วัดหลวงปู่ขาว อนาลโย คือ วัดถ้ำกองเพล ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู สุดท้ายได้ย้ายมาอยู่จำพรรษาที่วัดป่าม่วงไข่ จนถึงปัจจุบัน

ทุกวันนี้วัดป่าม่วงไข่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นวัดถูกต้องตามกฎหมายแล้ว โดยตั้งอยู่บริเวณภูน้อย ติดกับหมู่บ้านม่วงไข่ ห่างจากถนนสายเลย-ด่านซ้ายที่หมู่บ้านโนนสมบูรณ์ ลึกเข้าไปประมาณ ๕ กิโลเมตร

แต่เดิมการเดินทางเข้าวัดป่าม่วงไข่ต้องเดินเท้าเข้าไป โดยเฉพาะหน้าฝนลำบากมาก แต่ปัจจุบันเส้นทางคมนาคมสะดวกสบาย การเดินทางสะดวกราบรื่น

พื้นที่โดยรอบบริเวณวัดป่าม่วงไข่ ยังคงสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์เอาไว้ ตั้งแต่ครั้งยุคของหลวงปู่ชอบเป็นต้นมาจนกระทั่งถึงยุคหลวงพ่อขันตี

ด้วยมีทิวทัศน์บรรยากาศที่สวยงามมาก นับว่าวัดป่าม่วงไข่ยังสามารถคงสภาพป่าที่สมบูรณ์ เหลือไว้เป็นสมบัติทางธรรมชาติสืบต่อไป

ปัจจุบันวัดป่าม่วงไข่ได้มีการพัฒนาไปอย่างมากมาย ทั้งยังเป็นแหล่งปฏิบัติธรรม นอกจากนี้ได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์รวบรวมอัฐบริขารของหลวงปู่ชอบไว้ด้วย ส่วนหนึ่งที่ควรจะต้องพัฒนาโดยเฉพาะสิ่งแวดล้อม

ตรงบริเวณพิพิธภัณฑ์และศาลาการเปรียญที่ยังมีต้นไม้ใหญ่ไม่มากนัก ทำให้พื้นที่ดูโล่ง ดังนั้นวัดและชุมชนจะต้องร่วมแรงร่วมใจในการพัฒนาวัดแห่งนี้ด้วยการปลูกต้นไม้ให้ดูเป็นวัดที่เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมให้สมกับเป็นวัดเก่าแก่โดยแท้

สำหรับภาพพระองค์เป็นพระหลวงพ่อขันตี ที่สร้างโดยนายศุภกนก์ธีร์ อนุศรี หรือที่รู้กันในนาม “เสี่ยโต่ง ขอนแก่น” นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังแห่งภาคอีสาน และ ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ และฝ่ายประสานงาน ประกวดพระเครื่อง ๒๐ จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เสี่ยโต่ง บอกว่า การสร้างพระเครื่องของพระป่าส่วนใหญ่จะเป็นเหรียญเนื้อทองแดงและเนื้อผง ส่วนเนื้อที่ทำจากโลหะมีค่า เช่น ทองคำ เงิน นวโลหะ

รวมทั้งเหรียญลงยาจะทำให้เช่าเฉพาะในหมู่คณะเท่านั้น โดยลูกศิษย์จะได้นำส่วนต่างของการให้เช่ามาทำแจกฟรี

คำสอนหนึ่งของหลวงพ่อขันตี ที่เสี่ยโต่ง ขอนแก่น ยึดปฏิบัติมาโดยตลอดคือ

"ทุกขะโต ทุกขะถานัง หมายถึง ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว"

และคำสอนที่ว่า

"ให้สุขแก่ท่านสุขนั้นย่อมถึงตัว หรืออยากได้สุขต้องให้สุขก่อน"

ติดตามกิจกรรรม ของ "เสี่ยโต่ง ขอนแก่น"
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=320770182017727&id=100022542427664

1 ความคิดเห็น:

"โคกหนองนาโมเดล" จากจุดเริ่มต้นชุมชนแห่งความเอื้ออาทร ผ่านหลักธรรมแห่งการให้

โครงการ "โคกหนองนาโมเดล" เป็นตัวอย่างที่สำคัญในการพัฒนาชุมชนผ่านหลักธรรมและแนวคิดของการให้ ซึ่งมีศักยภาพในการสร้างความยั่งยืนในชุม...