วันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ปรัชญาพุทธปัญญาประดิษฐ์ปัญญาอนาคตใหม่


สำราญ สมพงษ นิสิตปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา มจร รายงาน

ห่างหายไปนานสำหรับการต่อแนวความคิดในหัวข้อ "ปรัชญาพุทธปัญญาประดิษฐ์" ที่ต้องหยุดพักก็เพราะช่วงนี้มีหน้าที่หลายอย่างที่ต้องทำ และการวางแผนในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำดุษฎีนิพนธ์ในหัวข้อ "พุทธนวัตกรรมการใช้สื่อออนไลน์เพื่อส่งเสริมสันติภาพของพระสงฆ์สู่สังคมไทย" ที่ยังต้องจมอยู่กับข้อมูล ขาดองค์ความรู้ในวิธีการวิจัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งทักษะปัญญา 3 ประการนั้นถือว่ายังอ่อนอยู่มากไม่เป็นปัญญาประดิษฐ์

ได้เรีียนปรัชญาทางสื่อออนไลน์อีกครั้งกับพระพรหมบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) หลังจากที่เคยเรียนปรัชญากับท่านเมื่อ 30 ปีกว่าในระดับปริญญาตรี รู้สึกสนุกไม่เครียด และมีความเข้าใจมากขึ้น มีความคิดในมุมปรัชญาหลายประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งทำให้รู้ว่า เรียนศาสนาก็เรียนตั้งคำถามในกรอบ (ความคิด) ส่วนเรียนปรัชญาคือเรียนตั้งคำถามนอกกรอบ อย่างเช่นแนวคิดของพุทธปรัชญาเถรวาทสำนักสรรพติกวาทินได้มีการศึกษาแนวคิดย้อนอดีตให้พระพุทธเจ้าตอบคำถามในปัจจุบัและมองอนาคต ทำให้เกิดความคิดว่า หากนำความปัญญาประดิษฐ์หรือ AI บูรณาการเชื่อแน่ว่าจะทำให้ได้คำตอบก็เป็นได้อย่างเช่นกรณีที่พระศรีลังกาเขียนหนังสือเข้าใจว่าชื่อเรื่องว่าหากพระพุทธเจ้ายังทรงมีชีวิตอยู่  หรืออย่างเช่นการหาคำตอบในคำถามที่พระพุทธเจ้าไม่ตอบโดย นาคารชุน จึงทำให้เป็นต้นกำเนิดตรรกเชิงพุทธขึ้นมา

ทั้งนี้พระพรหมบัณฑิตได้ระบุว่า "สัมมาทิฎฐิคือปรัชญาที่ถูกต้อง  และปรัชญาต้องมีทิฏฐิสามัญญตาถึงไม่ทะเลาะกัน"  และระบุว่า "ปรัชญาประเภททวินิยมที่เชื่อว่าจิตกับสสารมีอยู่จริง แต่ก็มีคำถามที่ยังไม่มีคำตอบคือแล้วจะเชื่อมกันอย่างไร" จึงทำให้เกิดความคิดว่า สันติศึกษาต้องเรียนแบบสัมมาปรัชญา

จึงทำให้เกิดความคิดว่าด้วยพัฒนาการของเทคโนโลยี AI และ IOT อาจจะสามารถตอบคำถามนี้ได้ พร้อมกันนี้เข้าใจว่า ปรัชญาคือศรัทธาในปัญญานั้นเอง และปรมัตถ์คือจริงในตัวมันเอง ไตรลักษณ์ และจิต เจตสิก รูป นิพพาน รวมถึงเข้าใจว่าโลกยุค disruption นี้จะเป็นตัวเสริมหลักไตรลักษณ์ได้เป็นอย่างดี


และทำให้รู้ว่าเรามีสมองซีกขวามากกว่าซีกซ้าย จึงทำให้ไม่รวยแม้จะรู้วิธีรวยก็ตาม แต่ในชีวิตนั้นจะต้องบริหารให้สมดุล การเรียนปรัชญาเป็นฐานในการเรียนระดับปริญญาโทและเอกได้เป็นอย่างดี  แต่ก็นั่นแหละสมองไม่สมดุลสนุกมากไปหน่อยหากรอบไม่เจอจึงต้องพัฒนาสมองซีกซ้ายให้สมดุล ถึงจะทำให้การตั้งคำถามไม่ออกนอกกรอบจมอยู่กับข้อมูล ความจริงแล้วก็คือหลักปัญญา 3 ประการนั่นเอง ถามว่าระบบการศึกษาไทยปัจจุบันพัฒนาบนฐานปัญญา 3 ประการนี้สมดุลในแต่ละช่วงวัยหรือไม่ สุตมยปัญญาก็คือ Big Data จินตามยปัญญาก็คือ วิเคราะห์ และภาวนามยปัญญาก็คือสังเคราะห์ ให้เป็น ไม่เช่oนั้นแล้วแพ้ AI แน่นอน 

แต่ในช่วงที่ผ่านมานั้นก็มีข้อมูลเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์เข้าอย่างต่อเนื่องรวมถึงการให้ทบทวนวรรณกรรมเกี่ยวกับปรัชญาทำให้เกิดแนวความคิดที่สอดประสานกับปัญญาประดิษฐ์ รวมถึงล่าสุดมีข้อมูลที่ "สตีเวน ฮอว์คิง" นักฟิสิกส์ผู้มีชื่อเสียง เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีอัจฉริยภาพในระดับต้นๆในยุคปัจจุบัน ที่เพิ่งเสียชีวิตลงเมื่อเดือนมีนาคม 2561 ที่ผ่านมาด้วยวัย 76 ปี ได้กล่าวว่า "ปัญญาประดิษฐ์จะพัฒนาจนฉลาดกว่ามนุษย์ และการเดินทางข้ามกาลเวลาเป็นเรื่องที่ไม่ใช่แค่จินตนาการ"  ระบุในหนังสือเล่มสุดท้ายในชีวิตของเขา ตามที่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงาน

พร้อมกันนี้มีแนวความคิดเกี่ยวกับผู้นำในอนาคตนั้นจะเป็นผู้นำที่มีคุณภาพ คุณวุฒิ และคุณธรรม แล้วระดมคน ปัญญาชน  คนเก่ง ผู้เชี่ยวชาญ นักวิทยาศาสตร์ เห็นความสำคัญของเทคโนโลยี  ปัญญาประดิษฐ์  โดยยึดแนวความคิดของเติ้งเสี่ยวผิงที่ว่าแมวไม่ต้องคำนึ่งว่าจะเป็นสีดำหรือขาวสามารถจับหนูได้เป็นพอ เรียนแบบโลกตะวันตก แล้วนำมาประยุกต์ใช้อย่างลีกวนยูผู้นำประเทศสิงคโปร์ที่วางยุทธศาสตร์ ออกแบบ วางแผน กำหนด เป้าหมาย อนาคตของประเทศ ด้วยการตั้งตัว เตรียมตัว เตรียมพร้อม เตรียมการและก็เตรียมใจ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาประชากรด้วยศึกษา วิจัย เรียน รู้  เพื่อรองรับตลาดแรงงาน 

รวมถึงจะต้องพัฒนาคนใหม่ยุคปัจจุบันคือคนเจน Z เป็นเด็กยุคใหม่ยุคดิจิทัล ที่รอไม่ไหว ความอดทนต่ำ เบื่อง่าย  ใช้ชีวิต “Slow Life” มาก  ดังนั้นการเรียนรู้จะต้องด้วยการลงมือปฏิบัติจริง (Active Learning styles) การเรียนรู้จะต้องทุกเวลา เพราะปัจจุบันนี้มีการใช้ Smart Phone และ Tablet แหล่งเรียนรู้มาก  สื่อ เทคโนโลยีก็มาก และทันสมัย  ครูควรมีหน้าที่เพียงผู้สังเกต ผู้ร่วมเรียนรู้  และตั้งคำถามปลายเปิดให้คิดใคร่ครวญ (reflection)และผลลัพธ์ Learning outcome) ของผู้เรียนที่มีลักษณะเป็น"นัก" "คิด" (ไตร่ตรองและสังเกต)  การเปลี่ยนแปลงกระบวนการทางความคิด (mindset)เป็นกระบวนการทางความคิดเพื่อการเติบโต (Growth mindset) "ทฤษฎี" (ที่สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง) "แสดง" (ปฏิบัติ)
"พูด" (สะท้อนการเรียนรู้สิ่งที่เขาค้นพบ) 


แล้วศาสนาจะปรับตัวอย่างไรถึงจะเกิดให้เกิดประโยชน์กับคนรุ่นเจน Z 

อันดับแรกจะต้องนิยมคำว่า "ศาสนา" ให้ตรงจริตของคนกลุ่มนี้ คือศาสนาจะต้องเป็นเครื่องมือ (Tool) หรือเป็นวิธีการอย่างเช่น เข็มทิศ แผนที่ กรอบความคิด ทฤษฎี เช่นทฤษฎีการสื่อสารคือ SMCR เป็นต้น  เพื่อเป็นตัวช่วยที่จะเดินทาง ดำเนินการ หรือพัฒนาบุคลิกภาพ พฤติกรรม สติปัญญาที่สามารถวิเคราะห์สังเคราะห์ได้ดี การอยู่ร่วมกับสังคมได้ขึ้น เพื่อสำเร็จหรือไปถึงสุดมุ่งหมายหรือเป้าหมายในระยะเวลาที่เร็วขึ้นโดยไม่หลงทาง อันจะเป็นตัวช่วยพัฒนาคนให้มีทักษะในศตวรรษที่ 21  ที่เป็นยุคดิจิทัลที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่เรียกว่า Disruption เป็นยุคที่หุ่นยนต์หรือปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอที่จะมีความสามารถเท่าทันและแทนที่มนุษย์ในหลายๆ ด้านเทคโนโลลีมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ส่งเสริมให้วัยรุ่นสามารถสื่อสารกันอย่าง 3 ร คือ รวดเร็ว เร้าร้อน  ไร้พรมแดน ดังนั้น วัยรุ่นต้องมีสติ ปัญญาที่สามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลข่าวสาร ถึงจะทำให้เป็นคนมีทักษะในการรู้เท่าทันสือได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวเสมือนจริงหรือข่าวปลอมแต่เราเข้าใจว่าเป็นข่าวจริง

ศาสนาจะมีบทบาทจะต้องเป็นตัวช่วยในการพัฒนาทักษะของประชากรในสังคมทั้งทางด้านการวิเคราะห์สังเคราะห์ข้อมูลข่าวสารมีความสามารถเท่าทัน เทียบเท่าปัญญาประดิษฐ์ และใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่างสร้างสรรค์ โดยปรับแผนการเผยแผ่ศาสนาให้ทันสมัยใช้สื่อไอที เทคโนโลยี่ ที่เข้ากับวัยรุ่นได้และเข้าใจง่าย รวดเร้วและสอนให้เข้าใจในแก่นแท้ของศาสนาทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติธรรมให้เกิดสติ สมาธิ ปัญญา (สมถ-วิปัสสนา) ภายในพร้อมนำไปปฏิบัติให้เกิดผลจริงต่อการดำเนินชีวิต โดยจะเป็นตัวช่วยให้มนุษย์ทำปัญญาประดิษฐ์ให้เป็นสัมมาปัญญาประดิษฐ์ให้งานอย่างสร้างสรรค์ จึงนับว่าเป็นปัญญาแห่งอนาคต

จึงทำให้เกิดความคิดว่า ปรัชญาพุทธปัญญาประดิษฐ์นี่เองคือ "ปัญญาอนาคตใหม่"  ดังนั้น นักการเมืองที่ต้องการที่มีนโยบายพัฒนาอนาคตประเทศไทยใหม่ เข้าใจประเด็นพุทธปัญญาประดิษฐ์นี้หรือยัง ไม่เช่นนั้นก็คงจะนำมิจฉาปัญญาประดิษฐ์มาเป็นพื้นฐานในการพัฒนาประเทศ ก็ยังจะไม่พอเพียง ไม่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนอย่างที่สร้างฝัน ทำให้ประเทศไทยอยู่ในกระแสสุดโต่งสองทางอยู่เช่นเดิม ไม่ได้มีส่วนในการสร้างสันติภาพให้แก่โลกแต่อย่างใด















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แนะแนวทางการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐบาลไทยอย่างยั่งยืน

การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบต้องการแนวทางที่เป็นระบบและยั่งยืน โดยใช้หลักการพุทธสันติวิธีและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นกรอบในการดำเนินการ ทั้งนี้การ...