พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช เป็นประติมากรรมพญานาคหินอ่อน วรกายสีขาวฮินดูเป็นพญานาคหินอ่อน ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยในขณะนี้ก่อสร้างภายในแหล่งท่องเที่ยวแก่งกะเบามีความสูง 11.11 เมตร ความยาว 51.40 เมตรตลอดลำตัว เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.50 เมตร
ตั้งอยู่บนฐานรองวงกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เมตร สูง 1.50 เมตร โดยพระราชรัตนโมลีเจ้าคณะจังหวัดมุกดาหารได้ตั้งชื่อให้ว่าพญาสีภุชงค์มุกดานาคราช
มีความเชื่อว่า ผู้ที่ได้มากราบไหว้สักการะและได้ลอดใต้องค์พญานาคจะมีความสุขสมหวังดังคำอธิษฐาน โดยเชื่อกันว่าผู้รอดซุ้มแรกหมายถึง การมีสุขภาพแข็งแรง
ซุ้มที่ 2 คือบริเวณใต้องค์พญานาคหมายถึงความร่ำรวยและซุ้มที่สามส่วนหาง หมายถึง ความสำเร็จโดยในวันนี้มีพิธีบวงสรวงพญาสีภุชงค์มุกดานาคราชและพิธีรำบวงสรวงถวายพญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช สะท้อนให้เห็นถึงคติความเชื่ออารยะธรรมท้องถิ่นดั้งเดิมของชุมชนแห่งลุ่มแม่น้ำโขง
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2560 เวลา 10.00. น. ดร.ไพฑูรย์ รักษ์ประเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานในพิธีบวงสรวง พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช และพิธีเปิดเทศกาลสงกรานต์วิถีพุทธ 4 แผ่นดินอินโดจีน
พร้อมด้วยนายปิติณัช นิธิศธานี นายอำเภอหว้านใหญ่ หัวหน้าส่วนราชการ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่งขามดงหมู ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในเขตพื้นที่และพี่น้องประชาชน ชาวอำเภอหว้านใหญ่
ร่วมกันสืบทอด วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทยเราเอาไว้ ตลอดจนการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนในท้องถิ่นสร้างความรักความสามัคคีและนำไปสู่ความเป็นชุมชนน่าอยู่อย่างยั่งยืน
แหล่งท่องเที่ยวแก่งกะเบาได้ดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติโดยได้รับการจัดสรรงบประมาณจากจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งได้ออกแบบโดยสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดมุกดาหารที่ได้ดำเนินการเรียบร้อยโดยได้รับงบประมาณก่อสร้างจำนวน 29 ล้าน 4 แสนบาท
ภายใต้ยุทธศาสตร์จังหวัดมุกดาหาร ที่ดำเนินการ 36 กิจกรรมในวาระครบรอบ 36 ปีจังหวัดมุกดาหารซึ่งกิจกรรมที่ได้ปรับปรุงและพัฒนาภายในแหล่งท่องเที่ยวแก่งกะเบาที่สำคัญประกอบด้วยประติมากรรมพญานาค ระเบียงชมธรรมชาติ ลานวัฒนธรรม 8 ชนเผ่าพื้นเมืองและลาน 12 นักษัตร
ใครเลยจะคิดได้ว่า “พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช เป็นประติมากรรมพญานาคหินอ่อน วรกายสีขาวฮินดูเป็นพญานาคหินอ่อน ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย” ดำเนินการจัดสร้าง และออกแบบโดย
“นายนิภัทร์ สุวาส” หรือชื่อที่คนในวงการรู้จักกันในนาม “นิภัทร์ สมาร์ทอิมเมจ” ผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทอิมเมท จำกัด จ.สกลนคร ซึ่งเป็น บริษัทที่รับปั๊มเหรียญ พระผง วัตถุมงคลทุกชนิด รวมทั้งสร้างประติมากรรมกลางแจ้ง ทั้งพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ อนุสาวรีย์ ฯลฯ
ผลงานของนิภัทร์ สมาร์ทอิมเมจ ที่คุ้นตาของคนทั่วไป เช่น ประติมากรรมปลาใบ ทำด้วยทองสำริด ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่ริมทะเลอ่าวนาง จ.กระบี่
สิงห์ปาร์ค เชียงราย หรือ ที่หลายคนรู้จักในนาม "ไร่บุญรอด" ตั้งอยู่ริมถนนสายเด่นห้า-ดงมะดะ ห่างจากเขตชุมชนเมืองเชียงราย ประมาณ 9 กิโลเมตร
อนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง(ปุม)อนุสาวรีย์เป็นรูปหล่อทองเหลืองรมดำ สูง 2.2 เมตร มือขวาถือของ้าว อันเป็นการแสดงถึงความเก่งกล้าสามารถของท่านในการบังคับช้างศึกและเป็นเครื่องแสดงว่าสุรินทร์เป็นเมืองช้างมาแต่ดึกดำบรรพ์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานระลึกถึงผู้สร้างเมืองท่านแรก
นิภัทร์ สมาร์ทอิมเมจ บอกว่า หากทำอะไรแล้ว ต้องทำให้ดีที่สุด หากผิดพลาดจะได้ไม่ไปโทษคนอื่นๆ เราต้องโทษตัวเราเองว่ายังดีไม่พอ ของจริง รังสรรค์ให้สุดฝีมือ ฝากฝีมือไว้บนแผ่นดิน
แค่หากผิดหรือไม่สำเร็จจะไม่โทษคนอื่นไม่คิดว่าใครผิดใครถูก ต้องโทษตัวเราเองว่ายังไม่ดีพอ การที่ไปโทษคนโน้นคนนี้ มันก็ไปการโยนความผิดให้คนอื่นมันไม่ควรเพราะไม่มีใครผิดตัวเราเองนี้เละที่ผิดที่คิดการยังไม่ดีฝีมือไม่เข้าขั้น หมั่นบอกตัวเองว่าครั้งต่อไปต้องดีกว่านี้ ไปโทษคนอื่นๆ ใครรู้เขาเขาจะหัวเราะเอานะได้เงินแต่ล่ะครั้ง มันก็ต้องทำงานไม่อะไรได้มาง่ายๆ
“ผมมักจะลงมือทำอะไร ด้วยตัวเองให้เป็นสักก่อน รู้ให้ท่องแท้ และจึงจะไปแนะนำคนอื่นๆได้สอนคนอื่นได้ หากเรายังไม่รู้จริงแล้ว เราจะไปสอนคนอื่นๆได้อย่างไร” นิภัทร์ สมาร์ทอิมเมจ กล่าว
พร้อมกันนี้ นิภัทร์ สมาร์ทอิมเมจ ยังบอกด้วยว่า ทุกครั้งที่ได้รับความไว้วางใจให้สร้างประติมากรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม จะต้องขึ้นชื่อว่าทุ่มเททำทุกๆ อย่างให้ถึงคำว่าที่สุด แต่เรื่องของผลกำไรไม่จำเป็นต้องมากที่สุด เพราะที่สุดของการทำงาน คือ ความภูมิใจที่ได้สร้างผลงานไว้เป็นมรดกของแผ่นดินไท ประติมากรรมกลางแจ้งทุกชิ้นงาน จะถูกออกแบบให้แข็งแรง คงทนต่อทุกสภาพสภาวะอากาศ ซึ่งแต่ละชิ้นจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี ซึ่งมันบ่งบอกว่า ผลงงานของ สมาร์ทอิมเมจ จะอยู่คู่แผ่นดินไทย และอวดสายตาชาวโลกหลายร้อยๆ ล้านคู่ไปกว่า 100 ปี
นิภัทร์ สมาร์ทอิมเมจ พูดทิ้งท้ายไว้ย่างน่าคิดว่า "อาชีพหลักและงานประจำทำแล้วได้เงิน ส่วนการสร้างพระแม้ว่าไม่ได้เงินแต่ได้บุญ" ติตามผลงานของ “นิภัทร์ สมาร์ทอิมเมจ”ได้ที่https://www.facebook.com/profile.php?id=100014341083111
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น