'รมต.แก้จน-ศิลปิน-ตร.-นักวิจัย-นักข่าว' AIเป็นหมดมนุษย์จะทำอะไร : สำราญ สมพงษ์ นิสิตปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา มจร รายงาน
โลกป่วน (Disruption)หรือตรงกับหลักธรรมในพระพุทธศาสนาคือ "อนิจจัง" ไม่แน่นอนมีการเปลี่ยนแปลง ทุกวันนี้รวดเร็วเพราะเทคโนโลยี ถ้าไม่มีหัวใจนักปราชญ์หรือพหุสูตรคือ สุ คือฟังมากกว่าพูดเก็บข้อมูลมากๆ (Big Data-สุตมยปัญญษ) ไม่ใช่สักว่าแต่ฟัง จิ คิดวิเคราะห์ (จินตามยปัญญา) ปุ รู้จักตั้งคำถามรู้จักสัมภาษณ์ รู้จักจำประเด็น ลิ เขียน (ภาวนามยปัญญา) ดูดข้อมูลต่างๆ นั้นมาเป็นของ แล้วทำการเผยแพร่หรือสื่อสารด้วยสื่อออนไลน์ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาร์แกรม ยูทูป รู้จักทฤษฎีการสื่อสาร SMCR และ 5W1H โพสต์ในสิ่งที่เป็นประเด็นน่าสนใจ ทัศนคติบวก มีทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 และต้องมีเครือข่าย (IOT) คนไม่มีเพื่อนเป็นใหญ่ยาก
โลกทางด้านวัตถุ (รูป) ได้พัฒนามาเทียบจิตวิญญาณ(นาม) ที่ประสาทสัมผัสเทียบมนุษย์ซึ่งเรียกว่า ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ก็มีการหวั่นๆ ว่า จะครอบครองโลกหรือไม่ ส่งผลให้มนุษย์มีการตื่นตัว ตื่นรู้ แต่ไม่ใช่ตื่นตูม ต้องตื่นรู้แบบมีสติ ก็คือปัญญาต้องคู่กับสติหรือมีสติกำกับ นั่นก็แสดงว่ามนุษย์จะใช้ AI ก็ต้องใช้แบบมีสติ
ต้องยอมรับว่า ปัจจุบันนี้คนไทยทั้งพระและโยมต่างก็ตื่นตัวกับ AI จากการติดตามสำรวจตามสื่อต่างๆ ในวันปิยมหาราชนี้ก็มีการกล่าวถึงรายงานถึง AI ไม่น้อยกว่า 10 ชิ้นงาน มาที่พระก่อนอย่างพระราชปริยัติกวี,ศ.ดร. อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ได้เตื่อนสติว่า "เมื่อมีการพัฒนาวัตถุมาถึงขั้น AI ก็ควรจะพัฒนาทางด้านจิตใจควบคู่กันไปด้วย" และนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่พระราชปริยัติกวีที่กล่าวถึงแสดงว่าพระก็ตื่นตัว
นั้นก็คือให้เอาสติไปคู่กับปัญญา เป็น "สติปัญญา" ที่มีความหมายเอาสติไปกำกับปัญญา ไม่ได้มีหมายที่เน้นด้านปัญญาเพียงอย่างเดียวเหมือนนักปราชญ์ไทยให้ความหมายไว้ อย่างเช่นพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554ได้ให้ความหมายคำว่า "สติปัญญา" ถ้าเป็นคำนามหมายถึงปัญญารอบคอบ ปัญญารู้คิด เช่น เขาเป็นคนมีสติปัญญาดี เมื่อศึกษาทฤษฎีทางสติปัญญาแล้วส่วนใหญ่จะเน้นทางด้านสมองหรือวัตถุมากกว่าทางด้านจิตวิญญาณ จึงตั้งสมมติฐานว่า คนไทยเข้าใจคำว่า "สติปัญญา" ถูกต้องมากน้อยเพียงใด
ทีนี่มาดูว่าโยมมีการกล่าวถึงแนวทางในการนำ AI ไปใช้ประโยชน์อย่างไรหรือเป็นอะไร
1.รัฐมนตรีแก้จน
นายสุทธิพงศ์ ธัชยพงษ์ นักวิจัยศูนย์เนคเทค บอกว่า ตอนนี้ประเทศไทยอยู่ระหว่างการวิจัยโดยใช้เทคโนโลยี "ดีฟเลิร์นนิ่ง" วิเคราะห์หาพื้นที่ยากจนได้แม่นยำและช่วยแก้ปัญหาได้มากขึ้น มาเปรียบเทียบกับข้อมูลรายได้ในการชี้วัดความยากจนแล้วนำเสนอข้อมูลผ่านแพลตฟอร์ม ชื่อ "TPMAP" ทั้งนี้ ในอนาคตอยากเห็นภาพ Non-Traditional Data ซึ่งเป็นข้อมูลจากเอไอรวมกับ Traditional Data เป็นข้อมูลสำรวจการลงทะเบียน จะทำให้ TPMAP สมบูรณ์ขึ้น (คอลัมน์: กรุงเทพมอนิเตอร์: 'เอไอ'วิเคราะห์ชี้เป้าคนยากจน)
2.ศิลปินวาดรูปประมูลได้
รศ.ดร.ชุติสันต์ เกิดวิบูลย์เวช รองศาสตราจารย์ (เทคโนโลยีสารสนเทศ)สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ก็บอกว่า "นอกจากการประมูลภาพศิลปะที่วาดโดยปัญญาประดิษฐ์แล้วตอนนี้ยังมีการทดลองนำปัญญาประดิษฐ์มาวาดภาพศิลปะเลียนแบบมนุษย์แล้ว"
3.ตำรวจจราจร
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม บอกว่า "ระยะที่ 2 มีแผนที่จะใช้ระบบ AI เข้ามาบริหารจัดการเปิดสัญญาณ ไฟจราจรตามสี่แยก โดยใช้ข้อมูล Big Data บริหาร โดยจะใช้ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี (62-66) ซึ่งมูลนิธิโตโยต้า สนับสนุนงบ 110 ล้านบาท และอาจจะขยายผลไปยังบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิต่อไป เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล"
4.นักวิจัยนักวิเคราะห์ข้อมูล
นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม บอกว่า จะนำปัญญาประดิษฐ์ หรือ "AI" มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ทั้งสถิติการค้าของทุกประเทศทั่วโลก สัญญาณจากแหล่งข้อมูลต่างๆ เพื่อวางแผนและยุทธศาสตร์สินค้าไทยที่จะบุกเข้าไปยังตลาดต่างๆ
5.นักธุรกิจออนไลน์
ดร.อธิป อัศวานันท์ atip@alumni.uchicago.edu http://drjoke.com บอกว่า AI กำลังถูกพัฒนาเป็นอีกหนึ่งช่องทาง (Channel) ในการเข้าถึงการซื้อขายสินค้าในระบบดิจิทัล
6.นักข่าว
"สุทธิชัย หยุ่น" ระบุในคอลัมน์กาแฟดำว่า "AI เป็นได้ทั้งส่วนเสริมและตัวทำลายอาชีพของคนข่าวในยุคนี้ สำนักข่าวซินหัวของจีนเพิ่งประกาศว่า กำลังจะยกเครื่องห้องข่าวใหม่ด้วยการใช้ AI มาช่วยในการหาข่าว เขียนข่าว และนำเสนอข่าว เพราะหากหุ่นยนต์สามารถหาข่าว เรียบเรียงข่าว นำเสนอข่าวแทนมนุษย์ได้ คนข่าวเองจะมิตกงานกันเป็นแถวอีกรอบหรือ มันคือการผสมผสานของ cloud computing, Internet of Things (IoT), Big Data และ AI เข้ามาในกระบวนการผลิตข่าว อีกปีสองปี AI ก็ทำข่าวรูทีนได้หมด(http://www.bangkokbiznews.com/blo g/detail/643624,13 มกราคม 2561)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น