วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2568

"ดร.สำราญ" ร่วมเอไอชี้ เอ็มโอยูแร่แรร์เอิร์ธ ไทย–สหรัฐฯเกิดได้แล้วอย่าคิด"เอ็มโอ CPTPP จะเกิดไม่ได้"

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568  ดร.สำราญ สมพงษ์ นักวิชาการอิสระด้านพุทธสันติวิธี อดีตผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ ปี 2535 พรรคเกษตรเสรี และปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรคแผ่นดินธรรม ร่วมกับระบบวิเคราะห์ของเอไอ ได้เผยแพร่บทวิเคราะห์เชิงยุทธศาสตร์เรื่อง “จาก CPTPP สู่เอ็มโอยูแร่แรร์เอิร์ธ ไทย–สหรัฐอเมริกา”

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชี้ให้เห็นแนวโน้มการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศไทยจาก “การค้าเสรี” สู่ “ความมั่นคงทางทรัพยากร” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจโลกในศตวรรษที่ 21


🔹 CPTPP: เส้นทางการค้าเสรีที่ไทยเคยพิจารณา

“CPTPP” หรือ ความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership) เป็นกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่พัฒนามาจาก TPP ซึ่งเดิมสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ผลักดัน ก่อนถอนตัวในปี 2017

ปัจจุบัน CPTPP มีสมาชิก 7 ประเทศ ได้แก่ เม็กซิโก, แคนาดา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์ และเวียดนาม รวมประชากรประมาณ 415.8 ล้านคน (ราว 6% ของประชากรโลก)
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ปี 2562 ไทยมีการค้ากับประเทศสมาชิก CPTPP รวมมูลค่า 1.14 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 23.6% ของการค้าไทยกับโลก

แม้ไทยยังไม่ได้เข้าร่วม CPTPP อย่างเป็นทางการ แต่แนวโน้มการเจรจาและการพิจารณาเข้าร่วมในช่วงที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นความพยายามของไทยในการปรับตัวเข้าสู่ “ระบบเศรษฐกิจโลกาภิวัตน์รุ่นใหม่” ที่เน้นการเปิดตลาดและมาตรฐานทางการค้า


🔹 ความกังวลและยุทธศาสตร์เชิงเลือกของไทย

อย่างไรก็ตาม ภาคเกษตรและภาคประชาชนจำนวนมากได้แสดงความกังวลต่อผลกระทบจาก CPTPP โดยเฉพาะในประเด็น สิทธิบัตรพันธุ์พืช (UPOV 1991) ที่อาจจำกัดสิทธิของเกษตรกรในการเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้เพาะปลูกต่อ ซึ่งอาจกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารในระยะยาว

การที่รัฐบาลไทยยังไม่ตัดสินใจเข้าร่วม CPTPP จึงถูกมองว่าเป็น “ยุทธศาสตร์เชิงเลือก” (Selective Strategy) ที่เปิดช่องให้ไทยสามารถรักษาความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจและการทูตกับทั้งสหรัฐฯ และจีนได้ในเวลาเดียวกัน


🔹 ไทย–สหรัฐฯ กับบันทึกข้อตกลงแร่แรร์เอิร์ธ: ยุทธศาสตร์ใหม่ปี 2568

ในปี 2568 ไทยและสหรัฐอเมริกาได้ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้าน แร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth Elements) ซึ่งถือเป็นพัฒนาการสำคัญในมิติ ภูมิรัฐศาสตร์เศรษฐกิจ (Geo-economic Strategy) ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

แร่แรร์เอิร์ธ คือกลุ่มธาตุโลหะหายาก 17 ชนิด ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น รถยนต์ไฟฟ้า สมาร์ตโฟน ชิปคอมพิวเตอร์ และอาวุธยุทโธปกรณ์ ปัจจุบัน จีนครองสัดส่วนตลาดแร่แรร์เอิร์ธกว่า 70% ของโลก ทำให้การกระจายแหล่งผลิตเป็นประเด็นความมั่นคงระดับโลก

ดังนั้น MOU ไทย–สหรัฐฯ จึงไม่ใช่เพียงข้อตกลงทางเศรษฐกิจ แต่ยังสะท้อนการที่ไทยเริ่มเข้ามามีบทบาทใน “ห่วงโซ่อุปทานเชิงยุทธศาสตร์” (Strategic Supply Chain) ของเทคโนโลยีสะอาด ซึ่งเป็นทิศทางเศรษฐกิจโลกหลังยุคโควิด–19


🔹 การเปรียบเทียบเชิงยุทธศาสตร์

ประเด็นCPTPPMOU แร่แรร์เอิร์ธ ไทย–สหรัฐฯ
ลักษณะความร่วมมือพหุภาคี ครอบคลุมเศรษฐกิจและกฎระเบียบระหว่างประเทศทวิภาคี มุ่งด้านทรัพยากรและเทคโนโลยีแปรรูป
เป้าหมายหลักเปิดเสรีการค้าและการลงทุนเสริมความมั่นคงทางเทคโนโลยีและพลังงานสะอาด
ผลกระทบต่อเกษตรกรเสี่ยงต่อข้อจำกัดสิทธิบัตรพันธุ์พืชไม่กระทบโดยตรง แต่เปิดโอกาสด้านแรงงานเทคนิค
พันธมิตรหลักญี่ปุ่น–แคนาดา (กลุ่มแปซิฟิก)สหรัฐฯ และพันธมิตรเทคโนโลยีสะอาด
นัยทางภูมิรัฐศาสตร์ถ่วงดุลอิทธิพลจีนในเอเชียแปซิฟิกลดการพึ่งพาจีนในห่วงโซ่เทคโนโลยีโลก

🔹 ข้อเสนอเชิงนโยบายของ ดร.สำราญ และเอไอวิเคราะห์

  1. บริหารความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม
    การพัฒนาอุตสาหกรรมแร่แรร์เอิร์ธต้องอยู่ภายใต้กรอบ ESG (Environment, Social, Governance) เพื่อป้องกันผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม

  2. สร้างขีดความสามารถเทคโนโลยีในประเทศ
    ไทยควรใช้ MOU นี้เป็นโอกาสในการ ลงทุนวิจัย การแปรรูป และการรีไซเคิลแร่หายาก เพื่อยกระดับสู่ “ผู้ผลิตมูลค่าเพิ่ม” ไม่ใช่แค่ผู้ส่งออกวัตถุดิบ

  3. รักษาสมดุลภูมิรัฐศาสตร์
    ไทยต้องรักษาความสัมพันธ์ทั้งกับสหรัฐฯ และจีน เพื่อให้เกิด ดุลยภาพระหว่างเศรษฐกิจและความมั่นคงในระยะยาว


🔹 สรุป: ไทยบนเส้นทางใหม่แห่งภูมิรัฐศาสตร์เศรษฐกิจโลก

จากการวิเคราะห์ของ ดร.สำราญ และระบบเอไอพบว่า การเปลี่ยนผ่านจากแนวคิด “การค้าเสรี” (Free Trade) ของ CPTPP มาสู่ “ความมั่นคงทรัพยากร” (Resource Security) ของ MOU แร่แรร์เอิร์ธ แสดงให้เห็นว่าไทยกำลังก้าวสู่บทบาทใหม่ในฐานะ “ผู้เล่นเชิงยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาค”

บทวิเคราะห์สรุปว่า ไทยต้องเผชิญความท้าทายในการรักษาอธิปไตยทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมท่ามกลางการแข่งขันของมหาอำนาจโลก และ “อย่าคิดว่า เอ็มโอไทย–สหรัฐฯ จะไม่เกิดขึ้น” เพราะทิศทางความร่วมมือด้านทรัพยากรและเทคโนโลยีสะอาดกำลังกลายเป็นหัวใจของเศรษฐกิจโลกในยุคใหม่


📚 บรรณานุกรม

  • Ministry of Commerce, Thailand. (2562). รายงานการค้าระหว่างประเทศของไทยกับประเทศสมาชิก CPTPP.

  • Han, X. (2022). Rare Earth Elements and Global Supply Chain Security. Journal of Strategic Resources, 15(3).

  • ธีรยุทธ บุญมี. (2566). ภูมิรัฐศาสตร์เศรษฐกิจไทยในยุคแข่งขันเทคโนโลยีโลก. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

  • สำนักข่าวเศรษฐกิจการค้า. (2568). ไทย–สหรัฐฯ ลงนาม MOU แร่แรร์เอิร์ธ: จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจยุทธศาสตร์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้.

วิเคราะห์: จาก CPTPP สู่เอ็มโอยูแร่แรร์เอิร์ธ ไทย–สหรัฐอเมริกา

บทคัดย่อ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ความเชื่อมโยงเชิงยุทธศาสตร์จาก “ความตกลง CPTPP” (Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership) สู่ “บันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านแร่แรร์เอิร์ธ” ระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นพัฒนาการทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่สำคัญในปี พ.ศ. 2568 บทวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า แม้ไทยไม่ได้เข้าร่วมความตกลง CPTPP อย่างเป็นทางการ แต่แนวโน้มของการปรับนโยบายการค้าและทรัพยากรของรัฐสะท้อนให้เห็น “การเข้าสู่ห่วงโซ่เศรษฐกิจโลกแบบเลือกจุดยุทธศาสตร์” โดยมีแร่แรร์เอิร์ธเป็นทรัพยากรยุทธศาสตร์ใหม่ที่เชื่อมโยงผลประโยชน์ระหว่างไทย–สหรัฐฯ ภายใต้สมการการแข่งขันกับจีน


1. บทนำ

CPTPP (Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership) หรือ “ความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก” เป็นกรอบความตกลงทางการค้าเสรีที่พัฒนามาจาก TPP (Trans-Pacific Partnership) ซึ่งสหรัฐอเมริกาเคยเป็นผู้ผลักดัน ก่อนถอนตัวในปี ค.ศ. 2017

ปัจจุบัน CPTPP มีสมาชิก 7 ประเทศ ได้แก่ เม็กซิโก, แคนาดา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์ และเวียดนาม รวมประชากรประมาณ 415.8 ล้านคน หรือราว 6% ของประชากรโลก
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ในปี พ.ศ. 2562 ไทยมีการค้ากับ 7 ประเทศสมาชิก CPTPP รวมมูลค่า 1.14 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 23.6% ของมูลค่าการค้าไทยกับโลก

แม้ไทยยังไม่เข้าร่วม CPTPP อย่างเป็นทางการ แต่การพิจารณาเข้าร่วมในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้สะท้อนความพยายามของไทยในการปรับตัวเข้าสู่ “ระบบเศรษฐกิจโลกาภิวัตน์รุ่นใหม่” ที่เน้นการเปิดตลาด การปฏิรูประบบทรัพย์สินทางปัญญา และการลดอุปสรรคทางการค้า


2. ความกังวลและการเปลี่ยนผ่านเชิงนโยบาย

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีความกังวลจากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะ กลุ่มเกษตรกรไทย ที่มองว่าการเข้าร่วม CPTPP อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร สิทธิบัตรพันธุ์พืช และต้นทุนการผลิต เช่น การคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ (UPOV 1991) ซึ่งอาจจำกัดสิทธิของเกษตรกรในการเก็บเมล็ดพันธุ์เพื่อเพาะปลูกต่อ

ในขณะเดียวกัน การที่รัฐบาลไทยยังไม่ตัดสินใจเข้าร่วม CPTPP กลับสะท้อนการวางยุทธศาสตร์เชิงเลือก — คือการ “คงระยะห่างทางการค้าเสรี” เพื่อรักษาความยืดหยุ่นในการเจรจาทางเศรษฐกิจและการเมืองกับมหาอำนาจ

และในปี พ.ศ. 2568 ความเคลื่อนไหวใหม่ที่สำคัญคือการที่ไทยและ สหรัฐอเมริกา ได้ลงนามใน บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth Elements) ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนเชิงยุทธศาสตร์ของภูมิรัฐศาสตร์เศรษฐกิจไทย


3. แร่แรร์เอิร์ธ: ทรัพยากรยุทธศาสตร์ของศตวรรษที่ 21

“แร่แรร์เอิร์ธ” หมายถึง กลุ่มธาตุโลหะหายาก 17 ชนิดที่เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเทคโนโลยีชั้นสูง เช่น สมาร์ตโฟน รถยนต์ไฟฟ้า ชิปคอมพิวเตอร์ และอาวุธยุทโธปกรณ์ ปัจจุบัน จีนครอบครองตลาดแร่แรร์เอิร์ธมากกว่า 70% ของโลก ทำให้การกระจายแหล่งผลิตและแปรรูปแร่เหล่านี้เป็นประเด็นสำคัญทางความมั่นคงระดับโลก

การลงนาม MOU แร่แรร์เอิร์ธไทย–สหรัฐฯ จึงมีความหมายมากกว่าความร่วมมือด้านทรัพยากร เพราะสะท้อนการที่ไทยเริ่มมีบทบาทใน “ห่วงโซ่อุปทานยุทธศาสตร์” (Strategic Supply Chain) ของเทคโนโลยีสะอาดและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกหลังโควิด–19 ที่มุ่งสู่เศรษฐกิจพลังงานสะอาดและดิจิทัล


4. การวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบ: จาก CPTPP สู่ MOU แร่แรร์เอิร์ธ

ประเด็นCPTPPMOU แร่แรร์เอิร์ธ ไทย–สหรัฐฯ
ลักษณะความร่วมมือความตกลงพหุภาคี (Multilateral) ครอบคลุมเศรษฐกิจ การค้า และกฎระเบียบระหว่างประเทศความร่วมมือทวิภาคี (Bilateral) เน้นด้านทรัพยากรธรรมชาติและเทคโนโลยีแปรรูป
เป้าหมายหลักเปิดเสรีการค้าและการลงทุนเสริมความมั่นคงทางเทคโนโลยีและพลังงานสะอาด
ผลกระทบต่อเกษตรกรอาจเพิ่มการแข่งขันและข้อจำกัดทางสิทธิบัตรพันธุ์พืชไม่กระทบโดยตรง แต่สร้างโอกาสในอุตสาหกรรมต่อเนื่องและแรงงานเทคนิค
ความเชื่อมโยงเชิงยุทธศาสตร์ยึดโยงกับกลุ่มประเทศแปซิฟิก โดยมีญี่ปุ่นและแคนาดาเป็นแกนกลางยึดโยงกับสหรัฐฯ และพันธมิตรในระบบเศรษฐกิจเทคโนโลยีสะอาด
นัยทางภูมิรัฐศาสตร์เป็นกรอบถ่วงดุลอิทธิพลของจีนในเอเชีย–แปซิฟิกเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์สหรัฐฯ เพื่อลดการพึ่งพาจีนในห่วงโซ่เทคโนโลยี

การเปลี่ยนผ่านจากแนวคิด “เปิดการค้าเสรี” (Free Trade) ของ CPTPP มาสู่ “ความมั่นคงทรัพยากร” (Resource Security) ของ MOU แร่แรร์เอิร์ธ แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยกำลังปรับยุทธศาสตร์สู่การเป็น “ผู้เล่นเชิงยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาค” ที่เน้นความสมดุลระหว่างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจกับความมั่นคงทางการเมือง


5. ข้อเสนอเชิงนโยบาย

  1. การบริหารความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม
    การพัฒนาอุตสาหกรรมแร่แรร์เอิร์ธต้องอยู่ภายใต้กรอบ ESG (Environment, Social, Governance) เพื่อป้องกันผลกระทบต่อชุมชนและทรัพยากรธรรมชาติ

  2. การสร้างขีดความสามารถเทคโนโลยีในประเทศ
    ไทยควรใช้โอกาสจาก MOU นี้ในการลงทุนด้านการวิจัย การแปรรูป และการรีไซเคิลแร่หายาก เพื่อไม่ให้ตกอยู่ในสถานะเพียง “ผู้ส่งออกวัตถุดิบ”

  3. การสร้างสมดุลทางภูมิรัฐศาสตร์
    ไทยควรรักษาความสัมพันธ์ทั้งกับสหรัฐฯ และจีน เพื่อให้เกิดการถ่วงดุลทางเศรษฐกิจในระยะยาว


6. สรุป

จาก CPTPP ที่สะท้อนการเชื่อมโยงเศรษฐกิจในภูมิภาค สู่ MOU แร่แรร์เอิร์ธ ไทย–สหรัฐฯ ที่แสดงถึงการเข้าร่วมในห่วงโซ่ยุทธศาสตร์ระดับโลก ไทยได้แสดงให้เห็นถึง “การเปลี่ยนผ่านเชิงยุทธศาสตร์จากการค้าเสรีสู่ความมั่นคงทรัพยากร” การก้าวย่างดังกล่าวไม่เพียงเป็นเรื่องเศรษฐกิจ หากแต่เป็นจุดทดสอบความสามารถของไทยในการรักษาอธิปไตยทางนโยบาย เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมท่ามกลางการแข่งขันของมหาอำนาจโลกในศตวรรษที่ 21


บรรณานุกรม (เบื้องต้น)

  • Ministry of Commerce, Thailand. (2562). รายงานการค้าระหว่างประเทศของไทยกับประเทศสมาชิก CPTPP.

  • Han, X. (2022). Rare Earth Elements and Global Supply Chain Security. Journal of Strategic Resources, Vol. 15(3).

  • ธีรยุทธ บุญมี. (2566). ภูมิรัฐศาสตร์เศรษฐกิจไทยในยุคแข่งขันเทคโนโลยีโลก. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

  • สำนักข่าวเศรษฐกิจการค้า. (2568). ไทย–สหรัฐฯ ลงนาม MOU แร่แรร์เอิร์ธ: จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจยุทธศาสตร์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นายกฯลาวดวงตาเห็นธรรมพุทธ หวังเสริมแกร่งเป็นฐานพัฒนาประเทศ

บทวิเคราะห์เชิงยุทธศาสตร์: นายกรัฐมนตรีลาวกับข้อเรียกร้องให้พระพุทธศาสนามีบทบาทที่แข็งแกร่งในกระบวนการพัฒนาประเทศ: พลวัตใหม่แห่งรัฐสังคมนิยม...