วันพุธที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2568

"ดร.สำราญ" ร่วม AI วิเคราะห์พรรคการเมืองไทยยุคใหม่: แนวโน้มสอดคล้อง “เศรษฐกิจพอเพียงเชิงนวัตกรรม” ของ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์


เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2568 ดร.สำราญ สมพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพุทธสันติวิธี ได้ร่วมกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) วิเคราะห์แนวโน้มพรรคการเมืองไทยปัจจุบันในประเด็น “พฤติการณ์ที่สอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงเชิงนวัตกรรม” (Sufficiency Innovation Economy: SIE) ซึ่งเสนอโดย ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

ผลการวิเคราะห์ชี้ว่า หลายพรรคการเมืองไทยเริ่มปรับตัวโดยยึดแนวคิด “จารีตผสานนวัตกรรม” เป็นแนวทางสร้างสมดุลระหว่างภูมิปัญญาไทยกับการพัฒนาเศรษฐกิจสมัยใหม่ สอดรับกับหลักการ “เติบโตโดยไม่สูญราก แข่งขันได้โดยไม่สูญคุณธรรม” ของ SIE


📘 พื้นฐานแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงเชิงนวัตกรรม (SIE)

แนวคิดของ ดร.สุวิทย์ มุ่งตอบโจทย์ “โลกที่พัฒนาเกินพอดี” โดยเสนอให้ประเทศไทยปลดล็อก “สามกับดักประเทศ” ได้แก่

  1. กับดักผลิตภาพ – ยกระดับจากแรงงานราคาถูกสู่นวัตกรรมมูลค่าสูง

  2. กับดักความเหลื่อมล้ำ – กระจายโอกาสทางเศรษฐกิจสู่ชุมชน

  3. กับดักการพึ่งพา – สร้างระบบพึ่งพาตนเองทางทุน เทคโนโลยี และองค์ความรู้

พร้อมเสนอสมการการพัฒนาที่ผสาน “รากแห่งจารีต” (ภูมิปัญญาและคุณธรรม) เข้ากับ “ปีกแห่งนวัตกรรม” (เทคโนโลยีและประสิทธิภาพ)

จารีต (Wisdom × Virtue) × ปฏิรูป (Innovation × Efficiency) = เศรษฐกิจพอเพียงเชิงนวัตกรรม (SIE)

ทั้งนี้ SIE ตั้งอยู่บนสามเป้าหมายหลัก ได้แก่

  • Resilience – ความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ

  • Inclusiveness – การเติบโตที่ทั่วถึง

  • Sustainability – ความยั่งยืนของทรัพยากรและสังคม


🏛️ พรรคการเมืองไทยกับแนวโน้ม SIE

การวิเคราะห์ของ ดร.สำราญ และ AI พบว่า พรรคการเมืองไทยจำนวนหนึ่งเริ่มมีแนวทางสอดคล้องกับหลัก SIE ในหลายมิติ ได้แก่

  1. พรรคที่เน้นเศรษฐกิจฐานรากและชุมชน
    พรรคที่มุ่งยกระดับเศรษฐกิจท้องถิ่นผ่านนโยบายเกษตรอินทรีย์ การท่องเที่ยวชุมชน และระบบพลังงานหมุนเวียนในหมู่บ้าน มีแนวทางตรงกับหลัก “จารีตทันสมัย” และ “เศรษฐกิจพอเพียงเชิงระบบ” เช่น การจัดตั้ง Sufficiency Innovation Zones (SIZ) เพื่อบ่มเพาะนวัตกรรมท้องถิ่น

  2. พรรคที่ส่งเสริมนวัตกรรมบนฐานคุณค่า
    บางพรรคมุ่งสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ใช้เทคโนโลยี AI และ Green Tech แต่ยังให้ความสำคัญกับ “จริยธรรมทางเทคโนโลยี” และ “การเข้าถึงที่เท่าเทียม” สะท้อนแนวคิด “Moralize Modernity” — ความทันสมัยที่มีคุณธรรม

  3. พรรคที่ยึดธรรมาภิบาลและคุณธรรมทางนโยบาย
    พรรคที่ให้ความสำคัญกับความโปร่งใส การมีส่วนร่วม และความรับผิดชอบทางการเมือง แสดงพฤติกรรมสอดคล้องกับหลัก “Virtue as Value” ของ SIE ซึ่งชี้ว่าการเมืองที่ดีต้องยึด “คุณธรรม” เป็นทุนทางนโยบาย


🌏 SIE กับระบบเศรษฐกิจการเมืองโลก

แนวคิด SIE ยังสามารถเชื่อมโยงกับกรอบโลก 3 เสาหลัก ได้แก่

ระบบโลกการเชื่อมโยงกับ SIEตัวอย่างนโยบาย
SDGsการพัฒนาอย่างยั่งยืนคน–สิ่งแวดล้อมการสร้างงานที่มีคุณค่า เกษตรยั่งยืน
BCGผสานชีวภาพ หมุนเวียน สีเขียว กับภูมิปัญญาชุมชนเกษตรชีวภาพ การรีไซเคิลขยะชุมชน
ESGธรรมาภิบาลและจิตสำนึกทางสังคมการบริหารพรรคและองค์กรโปร่งใส

🧭 ข้อเสนอเชิงนโยบาย

เพื่อให้ SIE เกิดผลจริง ดร.สำราญเสนอให้ภาครัฐและพรรคการเมืองร่วมกันผลักดันกลไกใหม่ ได้แก่

  • การสร้าง SIE Index เพื่อวัดผลเชิงระบบ

  • การจัดตั้ง Sufficiency Innovation Academy สำหรับพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่

  • การบูรณาการเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมในระดับนโยบาย

  • การปลูกฝัง “Sufficiency-Innovation Mindset” ในระบบการศึกษา


✳️ บทสรุป

“เศรษฐกิจพอเพียงเชิงนวัตกรรม” ของ ดร.สุวิทย์ ไม่ได้เป็นเพียงแนวคิดเศรษฐกิจ แต่เป็นกรอบคุณค่าทางการเมืองที่ช่วยให้ประเทศไทย “เติบโตอย่างมีราก และแข่งขันอย่างมีคุณธรรม”
การที่พรรคการเมืองไทยเริ่มปรับนโยบายตามแนวทางนี้ สะท้อนการเปลี่ยนผ่านสู่ “การเมืองแห่งปัญญาและคุณค่า” ซึ่งอาจเป็นก้าวสำคัญของการปฏิรูปประเทศในทศวรรษใหม่


📚 เอกสารอ้างอิง

  • สุวิทย์ เมษินทรีย์. (2568). เศรษฐกิจพอเพียงเชิงนวัตกรรม (Sufficiency Innovation Economy). โพสต์เฟซบุ๊ก, 8 ตุลาคม 2568.

  • สำราญ สมพงษ์. (2568). การวิเคราะห์พรรคการเมืองไทยกับเศรษฐกิจพอเพียงเชิงนวัตกรรม.

  • พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช. (2542). ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง. สำนักงาน กปร.

  • United Nations. (2015). Sustainable Development Goals (SDGs).

  • MHESI. (2566). รายงานเศรษฐกิจนวัตกรรมและความยั่งยืนประเทศไทย.

วิเคราะห์พรรคการเมืองไทยปัจจุบันที่มีพฤติการณ์สอดคล้องกับ ดร.สุวิทย์: “เศรษฐกิจพอเพียงเชิงนวัตกรรม ปลดล็อก 3 กับดักประเทศ ผสานจารีต-นวัตกรรม”


บทคัดย่อ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์แนวคิด “เศรษฐกิจพอเพียงเชิงนวัตกรรม” (Sufficiency Innovation Economy: SIE) ที่ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ ได้นำเสนอในปี 2568 และพิจารณาว่าพรรคการเมืองไทยปัจจุบันมีพฤติการณ์หรือนโยบายใดบ้างที่สอดคล้องกับแนวคิดดังกล่าว โดยเฉพาะในมิติของการปลดล็อก “สามกับดักประเทศ” ได้แก่ กับดักผลิตภาพ กับดักความเหลื่อมล้ำ และกับดักการพึ่งพา ตลอดจนการผสาน “จารีต” กับ “นวัตกรรม” เพื่อสร้างสมดุลระหว่างภูมิปัญญาเดิมและการพัฒนาใหม่อย่างยั่งยืน ผลการวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่าหลายพรรคการเมืองไทยเริ่มขับเคลื่อนนโยบายที่สอดคล้องกับหลัก SIE ทั้งในเชิงการกระจายโอกาส การยกระดับเศรษฐกิจฐานราก การส่งเสริมเทคโนโลยีที่ยั่งยืน และการสร้างคุณธรรมทางนโยบายสาธารณะ โดยเฉพาะพรรคที่เน้นเศรษฐกิจชุมชน การศึกษาเชิงนวัตกรรม และธรรมาภิบาลแบบมีส่วนร่วม ซึ่งสะท้อนให้เห็นการพัฒนาที่ “เติบโตโดยไม่สูญราก แข่งขันได้โดยไม่สูญคุณธรรม”


1. บทนำ

ประเทศไทยในปัจจุบันเผชิญการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี ในโลกที่ “พัฒนาเกินพอดี” อันทำให้ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมักสวนทางกับสมดุลทางจริยธรรมและสิ่งแวดล้อม แนวคิดของ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ จึงนำเสนอ “เศรษฐกิจพอเพียงเชิงนวัตกรรม” (SIE) เพื่อเป็นกรอบคิดใหม่ของการพัฒนาไทยที่มีทั้ง ราก (จารีต ภูมิปัญญา และคุณธรรม) และ ปีก (นวัตกรรม เทคโนโลยี และประสิทธิภาพ)

ในบริบททางการเมือง พรรคการเมืองในยุคปัจจุบันจึงมิได้แข่งขันกันเพียงในเชิงนโยบายเศรษฐกิจหรือสังคมเท่านั้น แต่ยังแข่งขันในเชิง “คุณค่าพื้นฐานของการพัฒนา” ซึ่ง SIE ได้กลายเป็นต้นแบบแนวคิดใหม่ที่สะท้อนสมดุลระหว่างความทันสมัยและความยั่งยืน


2. กรอบแนวคิด: เศรษฐกิจพอเพียงเชิงนวัตกรรม (SIE)

แนวคิด SIE ประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญดังนี้

  1. การปลดล็อก 3 กับดักประเทศ

    • กับดักผลิตภาพ: พัฒนาจากแรงงานราคาถูกสู่นวัตกรรมมูลค่าสูง

    • กับดักความเหลื่อมล้ำ: ขยายผลประโยชน์สู่ชุมชน ลดความกระจุกของความเจริญ

    • กับดักการพึ่งพา: สร้างระบบพึ่งพาตนเองด้านทุน เทคโนโลยี และความรู้

  2. สมการแห่งการพัฒนา

    จารีต(Wisdom×Virtue)×ปฏิรูป(Innovation×Efficiency)=เศรษฐกิจพอเพียงเชิงนวัตกรรม(SIE)จารีต (Wisdom × Virtue) × ปฏิรูป (Innovation × Efficiency) = เศรษฐกิจพอเพียงเชิงนวัตกรรม (SIE)
  3. สามเป้าหมายหลักของ SIE

    • Resilience (ความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ)

    • Inclusiveness (การเติบโตที่ทั่วถึง)

    • Sustainability (ความยั่งยืนของทรัพยากรและสังคม)

  4. สามหลักการขับเคลื่อน

    • Sufficiency as Foundation

    • Innovation as Force

    • Virtue as Value

แนวคิดดังกล่าวไม่เพียงเป็นหลักการเศรษฐกิจ แต่ยังเป็น “รากฐานทางอุดมการณ์ทางการเมือง” ที่พรรคต่าง ๆ สามารถใช้เป็นทิศทางในการสร้างนโยบายพัฒนาประเทศได้อย่างยั่งยืน


3. การวิเคราะห์พรรคการเมืองไทยที่มีพฤติการณ์สอดคล้องกับ SIE

3.1 พรรคที่มุ่งเน้นเศรษฐกิจฐานรากและชุมชน

พรรคการเมืองหลายพรรคเริ่มนำแนวทาง “เศรษฐกิจพอเพียงเชิงระบบ” เข้ามาเป็นกรอบในการพัฒนานโยบาย เช่น นโยบายเศรษฐกิจฐานราก เกษตรอินทรีย์ การท่องเที่ยวชุมชน หรือระบบพลังงานทดแทนในระดับหมู่บ้าน ซึ่งสะท้อนหลักการ “จารีตทันสมัย” และ “พอเพียงที่ขยายผล” ตามแนว SIE

ลักษณะพฤติการณ์ที่สอดคล้องกับแนวคิดนี้ ได้แก่

  • สนับสนุนการสร้าง Sufficiency Innovation Zones (SIZ)

  • การจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมชุมชนที่เชื่อมโยงมหาวิทยาลัยและภาคเอกชน

  • การบูรณาการนโยบาย SDGs, BCG, และ ESG เข้ากับระดับพื้นที่

3.2 พรรคที่ส่งเสริมนวัตกรรมบนฐานคุณค่า

บางพรรคเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น AI, Green Tech, หรือการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับจริยธรรมทางเทคโนโลยี การใช้ข้อมูลอย่างโปร่งใส และการไม่ทิ้งกลุ่มเปราะบาง ซึ่งสะท้อนแนวทาง “Moralize Modernity” — ความทันสมัยที่มีคุณธรรม

3.3 พรรคที่เน้นธรรมาภิบาลและคุณธรรมทางนโยบาย

อีกกลุ่มหนึ่งสะท้อนแนวทาง “Virtue as Value” ของ SIE โดยเน้น Governance ที่โปร่งใส มีส่วนร่วม และตรวจสอบได้ รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองที่ลดความแตกแยก เน้นคุณธรรมและความรับผิดชอบต่อประชาชน


4. การเชื่อมโยงแนวคิด SIE กับระบบเศรษฐกิจการเมืองไทย

การนำ SIE มาใช้ในระดับพรรคการเมืองสามารถเชื่อมโยงกับกรอบโลก 3 เสาหลักได้อย่างลงตัว

ระบบโลกการเชื่อมโยงกับ SIEตัวอย่างในนโยบายพรรค
SDGsการพัฒนาอย่างยั่งยืนในมิติคน-สิ่งแวดล้อมสร้างงานที่มีคุณค่า ส่งเสริมเกษตรยั่งยืน
BCGการผสานเศรษฐกิจชีวภาพ หมุนเวียน และสีเขียวกับภูมิปัญญาชุมชนเกษตรชีวภาพ การรีไซเคิลขยะชุมชน
ESGธรรมาภิบาลและจิตสำนึกทางสังคมการบริหารองค์กรทางการเมืองอย่างโปร่งใส

5. วิพากษ์และข้อเสนอเชิงนโยบาย

แม้แนวคิด SIE จะเริ่มถูกสะท้อนในนโยบายหลายพรรค แต่ยังมีความท้าทายสำคัญคือ

  1. การขาดกลไกวัดผลเชิงระบบ (SIE Index)

  2. การบูรณาการระหว่างหน่วยงานรัฐ ท้องถิ่น และภาคเอกชน

  3. การขาดการปลูกฝัง “Sufficiency-Innovation Mindset” ในเยาวชน

ดังนั้น พรรคการเมืองไทยควรผลักดันให้มี

  • การสร้าง “Sufficiency Innovation Academy” เพื่อบ่มเพาะผู้นำรุ่นใหม่

  • การบูรณาการนโยบายเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกัน

  • การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่เกื้อหนุนเศรษฐกิจพอเพียง


6. บทสรุป

“เศรษฐกิจพอเพียงเชิงนวัตกรรม” ของ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ เป็นแนวคิดที่ผสานความเป็นไทยเข้ากับความเป็นสากล โดยยืนอยู่บนฐานคุณธรรมของพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง และต่อยอดด้วยพลังแห่งนวัตกรรมสมัยใหม่ พรรคการเมืองไทยที่สามารถบูรณาการแนวคิดนี้ได้จริง จะเป็นพรรคที่ไม่เพียงตอบโจทย์เศรษฐกิจ แต่ยังตอบโจทย์ “จิตวิญญาณของการพัฒนา”

ดังคำสรุปที่สอดคล้องกับสาระของ SIE —

“ประเทศไทยจะเติบโตได้โดยไม่สูญราก และแข่งขันได้โดยไม่สูญคุณธรรม”


เอกสารอ้างอิง

  • สุวิทย์ เมษินทรีย์. (2568). เศรษฐกิจพอเพียงเชิงนวัตกรรม (Sufficiency Innovation Economy). โพสต์เฟซบุ๊ก, 8 ตุลาคม 2568.

  • พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช. (2542). ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง. สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ.

  • United Nations. (2015). Sustainable Development Goals (SDGs).

  • Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation (MHESI). (2566). รายงานเศรษฐกิจนวัตกรรมและความยั่งยืนประเทศไทย.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นายกฯลาวดวงตาเห็นธรรมพุทธ หวังเสริมแกร่งเป็นฐานพัฒนาประเทศ

บทวิเคราะห์เชิงยุทธศาสตร์: นายกรัฐมนตรีลาวกับข้อเรียกร้องให้พระพุทธศาสนามีบทบาทที่แข็งแกร่งในกระบวนการพัฒนาประเทศ: พลวัตใหม่แห่งรัฐสังคมนิยม...