วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2568

"ดร.สำราญ" จับมือ AI วิเคราะห์ “ศึกษิษฎ์ ศรีจอมขวัญ” โฆษกพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ผ่านมุมมองพุทธสันติวิธี


 

ชี้เป็นนักการเมืองรุ่นกลาง–รุ่นใหม่ ที่เชื่อมโยงการสื่อสารเชิงนโยบายกับความสงบและความเข้าใจในสังคมการเมืองไทย


เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2568
ดร.สำราญ สมพงษ์ นักวิชาการอิสระด้านพุทธสันติวิธี อดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดศรีสะเกษ พรรคเกษตรเสรี และสมาชิกพรรคแผ่นดินธรรม เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับ ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำการศึกษาวิเคราะห์เชิงวิชาการในหัวข้อ “ศึกษิษฎ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรคเพื่อไทยคนใหม่ กับบริบทการสื่อสารเชิงพุทธสันติวิธี”

ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า ศึกษิษฎ์เป็นบุคคลที่มีความโดดเด่นในด้าน “การสื่อสารอย่างมีเหตุผลและสมดุล” ซึ่งสอดคล้องกับหลักพุทธสันติวิธี โดยเฉพาะในมิติการใช้ถ้อยคำเพื่อสร้างความเข้าใจมากกว่าความขัดแย้งในสนามการเมืองที่มักเต็มไปด้วยการปะทะเชิงวาทกรรม


🔹 วิเคราะห์ 3 มิติ: พื้นฐาน–นโยบาย–ความท้าทาย

ดร.สำราญอธิบายว่า การวิเคราะห์แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่
(1) พื้นฐานบุคคลและเส้นทางการเมือง
(2) ความเชี่ยวชาญทางนโยบายและการสื่อสาร
(3) โอกาสและความท้าทายของบทบาทโฆษกพรรค

จากข้อมูลพบว่า ศึกษิษฎ์ ศรีจอมขวัญ เป็นที่รู้จักในฐานะ “นักคิดเศรษฐกิจรุ่นใหม่” ของพรรคเพื่อไทย โดยมีบทบาทสำคัญทั้งในฐานะรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และเป็นหนึ่งในทีม Think Tank ของพรรค
เขาจบการศึกษาด้าน Economics & Political Science จากสหรัฐอเมริกา และปริญญาโท MBA ด้านการเงินและการตลาด จากศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เส้นทางการทำงานของเขาเกี่ยวข้องกับนโยบายเศรษฐกิจ เช่น โครงการ Entertainment Complex ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายที่จุดประกายการถกเถียงทางสังคมอย่างกว้างขวาง


🔹 โอกาสและความท้าทาย

ในเชิงการเมือง ดร.สำราญระบุว่า การแต่งตั้งศึกษิษฎ์เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทยมีความหมายเชิงกลยุทธ์ เพราะสะท้อนถึง “การเปลี่ยนผ่านทางภาพลักษณ์” จากพรรคที่ถูกมองว่าเป็นของคนรุ่นเก่า ไปสู่พรรคที่เปิดพื้นที่ให้คนรุ่นกลางและรุ่นใหม่มีบทบาทมากขึ้น

“ศึกษิษฎ์คือสะพานเชื่อมทางการเมืองระหว่างคนรุ่นก่อนกับคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในยุคที่ความเห็นทางสังคมแตกแยกและสื่อสารเร็วเกินเข้าใจ”
— ดร.สำราญ สมพงษ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่สำคัญของเขาคือการรักษาสมดุลระหว่าง การเป็นโฆษกเชิงนโยบาย ที่ต้องชัดเจน และ การสื่อสารเชิงสันติวิธี ที่ต้องสร้างความเข้าใจมากกว่าความขัดแย้ง ซึ่งเป็นหัวใจของการเมืองเชิงสร้างสรรค์


🔹 มิติพุทธสันติวิธี: การสื่อสารเพื่อความเข้าใจ

ในมุมมองของดร.สำราญ การสื่อสารของศึกษิษฎ์มีลักษณะ “อิงเหตุผลและมุ่งความเข้าใจ” มากกว่าการตอบโต้เชิงอารมณ์ ซึ่งสอดคล้องกับหลักพุทธสันติวิธี 4 ประการ ได้แก่

  1. การฟังอย่างเข้าใจ (โยนิโสมนสิการ)

  2. การพูดอย่างไม่เบียดเบียน (สัมมาวาจา)

  3. การใช้เหตุผลแทนอารมณ์ (ปัญญา)

  4. การสื่อสารเพื่อประโยชน์ส่วนรวม (อุเบกขาเชิงสร้างสรรค์)

เขาจึงมองว่าหากศึกษิษฎ์สามารถคงแนวทางนี้ไว้ได้ จะเป็น “ต้นแบบของนักสื่อสารการเมืองยุคใหม่” ที่ใช้ปัญญาแทนการปะทะ


🔹 สรุป

บทวิเคราะห์สรุปว่า ศึกษิษฎ์ ศรีจอมขวัญ คือบุคคลที่สะท้อน ทิศทางใหม่ของพรรคเพื่อไทย ที่ต้องการสื่อสารบนฐานของเหตุผล นโยบาย และความเข้าใจ โดยมีจุดแข็งคือความเชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจและทักษะการอธิบายเชิงวิเคราะห์
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังคงอยู่ที่การรักษาสมดุลระหว่างการเป็น “นักการเมืองมืออาชีพ” และ “ผู้สื่อสารเชิงพุทธสันติวิธี” ซึ่งอาจเป็นแบบอย่างใหม่ของการเมืองไทยในอนาคต


🟤 คำกล่าวปิดท้ายของ ดร.สำราญ สมพงษ์

“ในยุคที่การเมืองขับเคลื่อนด้วยอารมณ์และความเร็ว การมีนักสื่อสารที่พูดด้วยเหตุผลและสติคือสิ่งจำเป็น — และศึกษิษฎ์ ศรีจอมขวัญ อาจเป็นหนึ่งในความหวังนั้น”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นายกฯลาวดวงตาเห็นธรรมพุทธ หวังเสริมแกร่งเป็นฐานพัฒนาประเทศ

บทวิเคราะห์เชิงยุทธศาสตร์: นายกรัฐมนตรีลาวกับข้อเรียกร้องให้พระพุทธศาสนามีบทบาทที่แข็งแกร่งในกระบวนการพัฒนาประเทศ: พลวัตใหม่แห่งรัฐสังคมนิยม...