วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2568

"ดร.สำราญ" จับมือเอไอวิเคราะห์แนวคิด “การเมืองโปร่งใสเพื่อประชาชนทั้งแผ่นดิน” ของพรรควิชชั่นใหม่ พบมุ่งคืนศรัทธาและโปร่งใสเชิงโครงสร้าง



ดร.สำราญ สมพงษ์ จับมือเอไอวิเคราะห์แนวคิด “การเมืองโปร่งใสเพื่อประชาชนทั้งแผ่นดิน” ของพรรควิชชั่นใหม่ พบสอดคล้องทฤษฎีสื่อสาร 5W1H ชี้ “พิเชษฐ์ สถิรชวาล” วางหมากการเมืองใหม่ด้วยการสื่อสารแบบมีส่วนร่วม มุ่งคืนศรัทธาและโปร่งใสเชิงโครงสร้าง


เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568  ดร.สำราญ สมพงษ์ นักวิชาการอิสระด้านพุทธสันติวิธี เปิดเผยผลการวิเคราะห์ร่วมกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในหัวข้อ “แนวคิดสร้างการเมืองโปร่งใสเพื่อประชาชนทั้งแผ่นดินของพรรควิชชั่นใหม่” โดยใช้กรอบทฤษฎีการสื่อสาร 5W1H (Who, What, When, Where, Why, How) เป็นเครื่องมือศึกษากลไกการสื่อสารเชิงนโยบายทางการเมือง

ผลการวิเคราะห์พบว่า พรรควิชชั่นใหม่ ซึ่งนำโดย นายพิเชษฐ์ สถิรชวาล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและคมนาคม มีแนวคิด “สร้างความโปร่งใสเชิงโครงสร้าง” ผ่านการสื่อสารแบบมีส่วนร่วม โดยเน้น “การคืนศรัทธา” และ “การสื่อสารตรงจากผู้นำสู่ประชาชน” ซึ่งสอดคล้องกับหลักการของ การสื่อสารเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม (Communication for Social Change) และสะท้อนอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่แท้จริงได้อย่างชัดเจน


การเมืองไทยในภาวะวิกฤตศรัทธา จุดกำเนิดของ “วิชชั่นใหม่”

ดร.สำราญระบุว่า บทวิเคราะห์ดังกล่าวเริ่มจากการพิจารณาบริบททางการเมืองไทยในปี 2568 ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ขาดความเชื่อมั่นต่อพรรคการเมืองจากปัญหาความไม่โปร่งใสและการใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน

ท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว กลุ่ม “วิชชั่นใหม่” (Vision Mai Group) ที่มีนายพิเชษฐ์ สถิรชวาลเป็นผู้นำ ได้ถือกำเนิดขึ้นในฐานะ “กลุ่มการเมืองทางเลือก” ที่ชูอุดมการณ์ “การเมืองโปร่งใสเพื่อประชาชนทั้งแผ่นดิน” พร้อมจัดเสวนาใหญ่หัวข้อ “ทางเลือก ทางรอด ทางออกประเทศไทย” เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2568 ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ เพื่อประกาศแนวคิด “การเมืองวิถีใหม่” และวางรากฐานเตรียมจัดตั้งพรรคอย่างเป็นทางการ


วิเคราะห์ตามกรอบทฤษฎี 5W1H

ดร.สำราญและทีมเอไอได้ใช้ทฤษฎีการสื่อสาร 5W1H เป็นกรอบในการวิเคราะห์ โดยพบประเด็นสำคัญดังนี้

  • Who (ใคร) — นายพิเชษฐ์และคณะผู้นำกว่า 100 คน จากอดีต ส.ส., ส.ว., ข้าราชการ และผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา เป็นผู้ส่งสารหลัก สะท้อนทุนทางสังคมและความน่าเชื่อถือในฐานะ “กลุ่มผู้นำที่ไม่หวังอำนาจ”

  • What (สื่อสารอะไร) — พรรคเสนอแนวคิด “การเมืองโปร่งใส–ประชาชนเป็นศูนย์กลาง” โดยมีนโยบายหลักคือ พ.ร.บ.โปร่งใส ที่ใช้เทคโนโลยี AI ตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐ

  • When (เมื่อใด) — เปิดตัวในช่วง “วิกฤตศรัทธาทางการเมือง” สะท้อนจังหวะยุทธศาสตร์ที่มุ่งสื่อสารในช่วงสังคมต้องการการเปลี่ยนแปลง

  • Where (ที่ไหน) — ใช้เวทีเสวนาสาธารณะและพื้นที่สื่อมวลชน เพื่อสื่อสารแนวคิดอย่างเปิดเผย โปร่งใส และเข้าถึงได้

  • Why (ทำไม) — มีแรงจูงใจจาก “ความรักประเทศ” และ “การคืนศรัทธาให้การเมือง” ตามคำกล่าวของนายพิเชษฐ์ที่ยืนยันว่า “เราไม่ได้มาเพื่ออำนาจ แต่เพื่ออนาคตประเทศ”

  • How (อย่างไร) — ใช้รูปแบบการสื่อสารแบบมีส่วนร่วม เชิญผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา พร้อมใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือเสริมความโปร่งใส


แนวคิดประชาธิปไตยแบบใหม่และรัฐบาลเปิด

ผลการวิเคราะห์ยังชี้ว่า แนวคิด “การเมืองโปร่งใสเพื่อประชาชนทั้งแผ่นดิน” ของพรรควิชชั่นใหม่มีความเชื่อมโยงกับแนวคิด “ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม” (Participatory Democracy) และ “รัฐบาลเปิด” (Open Government) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของธรรมาภิบาล (Good Governance) ในยุคดิจิทัล

ดร.สำราญกล่าวเพิ่มเติมว่า “พรรควิชชั่นใหม่ไม่ได้เสนอเพียงนโยบาย แต่เสนอ กระบวนการทางการเมืองใหม่ ที่ประชาชนมีสิทธิเข้าถึงข้อมูล ตรวจสอบได้ และร่วมตัดสินใจตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งเป็นรากฐานของการสื่อสารทางการเมืองที่โปร่งใสอย่างแท้จริง”


สรุปและข้อเสนอแนะ

ผลการวิเคราะห์สรุปว่า พรรควิชชั่นใหม่ได้วางแนวคิด “การเมืองโปร่งใสเชิงข้อมูล” (Data Transparency Politics) ที่สอดคล้องกับทฤษฎี 5W1H อย่างครบถ้วน โดยเน้นการสื่อสารเพื่อสร้างศรัทธาและเสริมพลังประชาชนเป็นศูนย์กลาง

ดร.สำราญเสนอว่า พรรคควรต่อยอดโดยพัฒนา “กลไกสื่อสารสองทาง” ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อรับฟังความคิดเห็นประชาชนและรายงานผลนโยบายแบบเรียลไทม์ ซึ่งจะทำให้แนวคิด “โปร่งใสเพื่อประชาชนทั้งแผ่นดิน” เกิดขึ้นได้จริงและยั่งยืนในระยะยาว

วิเคราะห์แนวคิดสร้างการเมืองโปร่งใสเพื่อประชาชนทั้งแผ่นดินของพรรควิชชั่นใหม่สอดคล้องกับทฤษฎีการสื่อสาร 5W1H

ผู้เขียน: ———


บทคัดย่อ

บทความนี้มุ่งวิเคราะห์แนวคิด “สร้างการเมืองโปร่งใสเพื่อประชาชนทั้งแผ่นดิน” ของพรรควิชชั่นใหม่ ซึ่งนำโดยนายพิเชษฐ์ สถิรชวาล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและคมนาคม โดยใช้กรอบ ทฤษฎีการสื่อสาร 5W1H (Who, What, When, Where, Why, How) เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์เชิงระบบ เพื่อทำความเข้าใจกลไกการสื่อสารทางการเมืองที่พรรควิชชั่นใหม่ใช้ในการเสนอ “การเมืองวิถีใหม่” ที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ผลการวิเคราะห์พบว่า พรรควิชชั่นใหม่มีแนวคิดที่มุ่งสร้าง “ความโปร่งใสเชิงโครงสร้าง” ผ่านการสื่อสารแบบมีส่วนร่วม โดยเน้น “การคืนศรัทธา” และ “การสื่อสารตรงจากผู้นำสู่ประชาชน” ซึ่งสอดคล้องกับหลักการของการสื่อสารเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม (Communication for Social Change) และสามารถสะท้อนอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่แท้จริงได้อย่างเป็นรูปธรรม


1. บทนำ

สถานการณ์การเมืองไทยในช่วงปี พ.ศ. 2568 เผชิญวิกฤตศรัทธาและความไม่ไว้วางใจจากประชาชนต่อพรรคการเมืองหลายกลุ่ม อันเนื่องมาจากปัญหาความไม่โปร่งใส การใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ส่วนตน และการขาดการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพระหว่างรัฐกับประชาชน ภายใต้บริบทนี้ กลุ่ม “วิชชั่นใหม่” (Vision Mai Group) นำโดย นายพิเชษฐ์ สถิรชวาล จึงถือกำเนิดขึ้นในฐานะ “กลุ่มการเมืองทางเลือก” ที่ประกาศอุดมการณ์สร้าง “การเมืองโปร่งใสเพื่อประชาชนทั้งแผ่นดิน”

การจัดเสวนาใหญ่หัวข้อ “ทางเลือก ทางรอด ทางออกประเทศไทย” เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2568 ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการประกาศแนวคิดการเมืองวิถีใหม่ ที่มุ่งคืนศรัทธาให้กับระบบการเมืองไทยและเตรียมจัดตั้งพรรคอย่างเป็นทางการ

เพื่อให้เข้าใจสาระสำคัญของแนวคิดดังกล่าว บทความนี้จึงนำทฤษฎี 5W1H ซึ่งเป็นกรอบพื้นฐานของการสื่อสารมาใช้ในการวิเคราะห์เชิงลึกถึงการส่งสารทางการเมืองของพรรควิชชั่นใหม่


2. กรอบแนวคิดทางทฤษฎี: ทฤษฎีการสื่อสาร 5W1H

ทฤษฎี 5W1H เป็นแนวคิดพื้นฐานในการวิเคราะห์การสื่อสาร ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 6 ประการ ได้แก่

  • Who (ใคร) — ผู้ส่งสารหรือผู้สื่อสาร

  • What (สื่อสารอะไร) — เนื้อหาหรือสารที่ต้องการส่ง

  • When (เมื่อใด) — ช่วงเวลาและบริบทของการสื่อสาร

  • Where (ที่ไหน) — พื้นที่หรือเวทีในการสื่อสาร

  • Why (ทำไม) — วัตถุประสงค์หรือแรงจูงใจของการสื่อสาร

  • How (อย่างไร) — วิธีการหรือกระบวนการสื่อสาร

กรอบแนวคิดนี้ช่วยให้เข้าใจได้ว่า การสื่อสารใด ๆ ไม่เพียงเกี่ยวข้องกับ “การส่งข้อมูล” เท่านั้น แต่ยังสะท้อนเจตจำนงทางสังคม การเมือง และอุดมการณ์ของผู้สื่อสารด้วย


3. การวิเคราะห์ตามกรอบ 5W1H

3.1 Who — ผู้สื่อสาร: นายพิเชษฐ์ สถิรชวาลและคณะ

นายพิเชษฐ์ในฐานะผู้นำกลุ่ม “วิชชั่นใหม่” เป็นผู้ส่งสารหลักของแนวคิด “การเมืองโปร่งใสเพื่อประชาชน” ร่วมกับอดีตสมาชิกวุฒิสภา อดีต ส.ส. ข้าราชการ และผู้เชี่ยวชาญกว่า 100 คน การรวมตัวของบุคคลเหล่านี้แสดงถึง “ทุนทางสังคม” (Social Capital) ที่มีความหลากหลายและมีความน่าเชื่อถือสูง เป็นการสร้างภาพลักษณ์ของ “กลุ่มผู้นำที่ไม่หวังอำนาจ” แต่ “มุ่งสร้างศรัทธา” ให้แก่ระบบการเมืองไทย

3.2 What — เนื้อหาสาร: การเมืองโปร่งใสและประชาชนเป็นศูนย์กลาง

สารหลักที่พรรควิชชั่นใหม่ส่งออกมาคือ “การเมืองวิถีใหม่” ที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบการเมืองโปร่งใสทั้งเชิงนโยบายและกระบวนการ โดยเฉพาะแนวคิด “พ.ร.บ.โปร่งใส” ที่จะใช้เทคโนโลยี AI ตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐ ถือเป็นการผสานแนวคิดประชาธิปไตยเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่

3.3 When — ช่วงเวลา: หลังวิกฤตศรัทธาทางการเมือง

การเปิดตัวกลุ่มวิชชั่นใหม่ในเดือนตุลาคม 2568 เกิดขึ้นในช่วงที่ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในสถาบันทางการเมือง การเลือกช่วงเวลานี้จึงสะท้อนความเข้าใจเชิงยุทธศาสตร์ของกลุ่มว่า “การเปลี่ยนแปลงต้องเริ่มในจังหวะที่สังคมพร้อมจะฟัง”

3.4 Where — เวทีสื่อสาร: โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น

การเลือกใช้เวทีเสวนาสาธารณะเป็นช่องทางเปิดในการสื่อสาร แสดงถึงความมุ่งมั่นในหลัก “ความโปร่งใส” โดยใช้พื้นที่ทางวิชาการและสื่อมวลชนเป็นตัวกลาง เพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างกลุ่มผู้นำทางการเมืองและประชาชน

3.5 Why — แรงจูงใจ: รักประเทศและต้องการคืนศรัทธาให้การเมือง

นายพิเชษฐ์กล่าวชัดว่า “เราไม่ได้มาเพื่อหาตำแหน่งหรืออำนาจ แต่เรามาเพราะรักประเทศไทย” แรงจูงใจดังกล่าวเป็น “สารคุณค่า” (Value Message) ที่สื่อถึงจริยธรรมทางการเมือง (Political Ethics) และแนวคิดประชาธิปไตยแบบมีคุณธรรม

3.6 How — วิธีการสื่อสาร: เสวนา การมีส่วนร่วม และเทคโนโลยี

พรรควิชชั่นใหม่ใช้วิธีการสื่อสารแบบมีส่วนร่วม (Participatory Communication) ผ่านการเสวนา การเชิญผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา และการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ตรวจสอบความโปร่งใสในระบบราชการ วิธีการนี้สะท้อนรูปแบบ “การสื่อสารเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม” (Communication for Social Change) ซึ่งให้ประชาชนมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน


4. การตีความเชิงอุดมการณ์

แนวคิด “การเมืองโปร่งใสเพื่อประชาชนทั้งแผ่นดิน” ของพรรควิชชั่นใหม่ สามารถมองได้ว่าเป็นการต่อยอดจากแนวคิด “ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม” (Participatory Democracy) ที่เน้นให้ประชาชนรับรู้ ตรวจสอบ และกำหนดทิศทางการเมืองด้วยตนเอง ขณะเดียวกัน การใช้เทคโนโลยี AI ในกระบวนการตรวจสอบก็สอดคล้องกับแนวคิด “รัฐบาลเปิด” (Open Government) ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของธรรมาภิบาล (Good Governance) ในยุคดิจิทัล


5. สรุปและข้อเสนอแนะ

จากการวิเคราะห์โดยใช้ทฤษฎี 5W1H พบว่า พรรควิชชั่นใหม่มีแนวคิดทางการเมืองที่เน้น “การสื่อสารเพื่อสร้างศรัทธา” และ “การมีส่วนร่วมของประชาชน” อย่างชัดเจน การเน้นย้ำความโปร่งใสและเทคโนโลยีในการตรวจสอบภาครัฐเป็นการวางรากฐานสำคัญของ “การเมืองโปร่งใสเชิงข้อมูล” (Data Transparency Politics) ซึ่งอาจเป็นแนวทางใหม่ของการเมืองไทยในอนาคต

ข้อเสนอแนะคือ พรรควิชชั่นใหม่ควรพัฒนา “กลไกสื่อสารสองทาง” ระหว่างพรรคกับประชาชนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น เช่น การสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อรับฟังความคิดเห็นและรายงานผลนโยบายแบบเรียลไทม์ เพื่อให้แนวคิด “โปร่งใสเพื่อประชาชนทั้งแผ่นดิน” เป็นจริงอย่างยั่งยืน


เอกสารอ้างอิง

  • บ้านเมืองออนไลน์. (18 ตุลาคม 2568). จับตากลุ่ม “วิชชั่นใหม่” นำโดย “พิเชษฐ์ สถิรชวาล” เปิดตัวเตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง จัดเสวนาใหญ่ชู “ทางเลือก ทางรอด ทางออกประเทศไทย”.

  • บ้านเมืองออนไลน์. (19 ตุลาคม 2568). กลุ่ม “วิชชั่นใหม่” ปักธงตั้งพรรคการเมือง หวังสร้างการเมืองโปร่งใสเพื่อประชาชนทั้งแผ่นดิน.

  • Lasswell, H. D. (1948). The Structure and Function of Communication in Society. The Communication of Ideas.

  • Rogers, E. M. (2003). Diffusion of Innovations. Free Press.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นายกฯลาวดวงตาเห็นธรรมพุทธ หวังเสริมแกร่งเป็นฐานพัฒนาประเทศ

บทวิเคราะห์เชิงยุทธศาสตร์: นายกรัฐมนตรีลาวกับข้อเรียกร้องให้พระพุทธศาสนามีบทบาทที่แข็งแกร่งในกระบวนการพัฒนาประเทศ: พลวัตใหม่แห่งรัฐสังคมนิยม...