เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2568 — ดร.สำราญ สมพงษ์ นักวิชาการอิสระด้านพุทธสันติวิธี ได้ร่วมกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) พัฒนาแนวคิดใหม่ภายใต้ชื่อ “ปัญญาแบบบูรณาการเชิงไทยเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนตามหลักสหประชาชาติ” (Thai Integrative Intelligence for UN–Sustainable Development Goals: ITI–SD Model)
แนวคิดดังกล่าวมุ่งสร้างกรอบปัญญาใหม่ที่ผสมผสานระหว่าง ปัญญาเชิงระบบ (Systemic Wisdom), ปัญญาร่วมของสังคม (Collective Intelligence), ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และ ปัญญาไทย (Thai Wisdom) เพื่อเป็นฐานของการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development) ที่มี “หัวใจของมนุษย์” เป็นศูนย์กลาง
🔹 กรอบแนวคิด ITI–SD Model: “สี่พลังแห่งปัญญาเพื่อความยั่งยืน”
โมเดล ITI–SD เสนอให้ใช้ “สี่พลังปัญญา” ขับเคลื่อนการพัฒนา โดยมีบทบาทแตกต่างกันแต่เกื้อกูลกัน ดังนี้
| มิติของปัญญา | คำอธิบาย | บทบาทต่อการพัฒนา |
|---|---|---|
| ปัญญาเชิงระบบ (Systemic Wisdom) | การเข้าใจความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งอย่างองค์รวม | เป็นกรอบคิดเชิงโครงสร้างเพื่อการออกแบบนโยบายอย่างสมดุล |
| ปัญญาร่วมของสังคม (Collective Intelligence) | การระดมความคิดและการเรียนรู้ร่วมกันของชุมชน | เป็นกลไกสร้างการมีส่วนร่วมและความโปร่งใส |
| ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) | การใช้เทคโนโลยีและข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจ | เป็นเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพเชิงหลักฐาน |
| ปัญญาไทย (Thai Wisdom) | ปัญญาแห่งความพอดี คุณธรรม และพุทธธรรม | เป็นฐานคุณค่าและจิตวิญญาณของการพัฒนา |
🔹 การเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
ดร.สำราญชี้ให้เห็นว่า ITI–SD Model สามารถประยุกต์ใช้กับหลายมิติของเป้าหมาย SDGs เช่น
-
SDG 4 การศึกษา – ใช้ AI ออกแบบการเรียนรู้เฉพาะบุคคล พร้อมปลูกฝังคุณธรรมด้วยปัญญาไทย
-
SDG 8, 9, 12 เศรษฐกิจและนวัตกรรม – ส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียง ควบคู่กับการใช้ AI อย่างรับผิดชอบ
-
SDG 13–15 สิ่งแวดล้อม – ใช้ AI จำลองระบบนิเวศและคาดการณ์สภาพภูมิอากาศ โดยมีปัญญาไทยเป็นฐานจิตสำนึกอยู่ร่วมกับธรรมชาติ
-
SDG 16–17 ธรรมาภิบาลและความร่วมมือ – ใช้ปัญญาร่วมของสังคมสร้างความโปร่งใส พร้อมระบบ AI ตรวจสอบข้อมูลภาครัฐอย่างเปิดเผย
🔹 การบูรณาการกับแนวคิด “สามพลังปัญญาแห่งอารยธรรม”
การพัฒนาโมเดล ITI–SD ของ ดร.สำราญ อ้างอิงแนวคิด “สามพลังปัญญาแห่งอารยธรรม” ของ ดร.สุวิทย์ เมฆินทรีย์ (2568) ซึ่งประกอบด้วย
-
ปัญญาเชิงระบบ
-
ปัญญาร่วมของสังคม
-
ปัญญาประดิษฐ์
โดย ดร.สำราญ ได้เพิ่มเติม “ปัญญาไทย (Thai Wisdom)” เป็นพลังปัญญาที่สี่ เพื่อให้โมเดลมีมิติทางจิตวิญญาณและคุณธรรม อันสะท้อนอัตลักษณ์ของไทยในบริบทโลก
🔹 ปัญญาเชิงระบบ – ปัญญาไทย – เอไอ: ความต่างและความเหมือน
| ประเด็น | ปัญญาเชิงระบบ | ปัญญาไทย | ปัญญาประดิษฐ์ |
|---|---|---|---|
| รากฐาน | เข้าใจความสัมพันธ์ของระบบ | พุทธธรรมและภูมิปัญญาชีวิต | ข้อมูลและอัลกอริทึม |
| วิธีคิด | มององค์รวม เชื่อมโยง | พอดี มีสติ มีคุณธรรม | วิเคราะห์เชิงตรรกะ |
| เป้าหมาย | เข้าใจความจริงของระบบ | บรรลุความดี ความสงบ | เพิ่มประสิทธิภาพ |
| ข้อจำกัด | ต้องใช้เวลาไตร่ตรอง | ไม่รองรับข้อมูลซับซ้อน | ขาดคุณค่าทางจริยธรรม |
| บทบาทร่วม | กรอบคิดเชิงโครงสร้าง | ฐานคุณค่าทางศีลธรรม | เครื่องมือสนับสนุนการตัดสินใจ |
🔹 ข้อเสนอเชิงนโยบาย
-
นโยบายการศึกษาเพื่อปัญญายั่งยืน – บูรณาการหลักสูตร “ปัญญา 4 มิติ”
-
นโยบายเศรษฐกิจเชิงคุณธรรม – ใช้ AI อย่างมีจริยธรรมตามหลักพอเพียง
-
นโยบายสิ่งแวดล้อมเชิงบูรณาการ – ใช้ระบบข้อมูลควบคู่กับปัญญาไทย
-
นโยบายธรรมาภิบาลดิจิทัล – ส่งเสริมความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมของประชาชน
🔹 บทสรุป
โมเดล ITI–SD ของ ดร.สำราญ สมพงษ์ นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาแนวคิด “อารยธรรมแห่งปัญญาและคุณธรรม (Tech–Moral Civilization)” ที่ผสมผสานเทคโนโลยี ความรู้ และคุณธรรมเข้าด้วยกันอย่างสมดุล
การพัฒนาในศตวรรษที่ 21 จึงไม่ใช่เพียง “โลกที่ฉลาดกว่า” แต่คือ “โลกที่มีปัญญาลึกกว่า” — โลกที่มนุษย์ เทคโนโลยี และธรรมชาติ เติบโตไปพร้อมกันด้วยความเข้าใจและความเมตตา
ปัญญาแบบบูรณาการเชิงไทยกับการพัฒนาที่ยั่งยืนตามหลักสหประชาชาติ
(Thai Integrative Intelligence for UN–Sustainable Development Goals: ITI–SD Model)
🔹 บทคัดย่อ (Abstract)
บทความนี้มุ่งเสนอกรอบแนวคิด “ปัญญาแบบบูรณาการเชิงไทย (Thai Integrative Intelligence: ITI)” ซึ่งเป็นการประสานระหว่าง ปัญญาเชิงระบบ (Systemic Wisdom), ปัญญาร่วมของสังคม (Collective Intelligence), ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และ ปัญญาไทย (Thai Wisdom) เพื่อใช้เป็นฐานการพัฒนาที่ยั่งยืนตามหลักสหประชาชาติ (UN–SDGs)
แนวคิดนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานว่า การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนต้องไม่เพียงอาศัยเทคโนโลยีหรือเศรษฐศาสตร์เท่านั้น แต่ต้องอาศัย “ปัญญาเชิงคุณค่า” ที่เชื่อมโยงมนุษย์กับธรรมชาติอย่างกลมกลืน ITI–SD Model จึงเสนอการพัฒนาเชิงจริยธรรม (Moral–Sustainability) โดยใช้ปัญญาไทยเป็นฐานทางจิตวิญญาณ ปัญญาเชิงระบบเป็นกรอบคิด ปัญญาร่วมของสังคมเป็นกลไก และปัญญาประดิษฐ์เป็นเครื่องมือ
ผลลัพธ์คือแนวทางการพัฒนาแบบ “Human–Centered Sustainable Development” หรือ “การพัฒนาที่ยั่งยืนที่มีหัวใจมนุษย์” ซึ่งมุ่งสร้างความสมดุลระหว่างความจริง (Truth), ความดี (Goodness), ความงาม (Beauty) และความพอดี (Sufficiency) อันเป็นเอกลักษณ์ของอารยธรรมไทยร่วมสมัย
คำสำคัญ: ปัญญาไทย, ปัญญาเชิงระบบ, ปัญญาประดิษฐ์, การพัฒนาที่ยั่งยืน, SDGs
🔹 1. บทนำ
ในศตวรรษที่ 21 โลกเผชิญความท้าทายเชิงซ้อน ได้แก่ วิกฤตสิ่งแวดล้อม ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และความเปราะบางทางจิตวิญญาณของมนุษย์ แม้สหประชาชาติได้กำหนดเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs) เพื่อสร้างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม แต่การปฏิบัติยังคงติดกับดักการมองเชิงแยกส่วนและขาดกรอบจริยธรรม
ประเทศไทยในฐานะสังคมที่มีรากทางพุทธธรรมและวัฒนธรรมพอเพียง จึงมีศักยภาพในการนำเสนอ “แบบจำลองการพัฒนาเชิงคุณธรรม” ผ่านแนวคิด “ปัญญาแบบบูรณาการเชิงไทย (Thai Integrative Intelligence)” ซึ่งบูรณาการองค์ความรู้แบบตะวันตกที่เน้นระบบและเทคโนโลยี เข้ากับภูมิปัญญาแบบตะวันออกที่เน้นคุณธรรมและความสมดุล
🔹 2. กรอบแนวคิดเชิงทฤษฎี: สี่พลังปัญญา
| มิติของปัญญา | คำอธิบาย | บทบาทต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน |
|---|---|---|
| 1. ปัญญาเชิงระบบ (Systemic Wisdom) | การเข้าใจความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งอย่างองค์รวม | ออกแบบนโยบายที่คำนึงถึงระบบเศรษฐกิจ–สังคม–สิ่งแวดล้อมพร้อมกัน |
| 2. ปัญญาร่วมของสังคม (Collective Intelligence) | การระดมความคิดและการเรียนรู้ร่วมกันของสังคม | สร้างกระบวนการมีส่วนร่วม โปร่งใส และประชาธิปไตย |
| 3. ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) | การใช้เทคโนโลยีและข้อมูลในการสนับสนุนการตัดสินใจ | เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเชิงหลักฐาน |
| 4. ปัญญาไทย (Thai Wisdom) | ปัญญาเชิงคุณธรรมที่ยึดพุทธธรรม ความพอดี และความเมตตา | เป็นฐานจิตวิญญาณและคุณค่าของการพัฒนา |
🔹 3. การเชื่อมโยงกับเป้าหมาย SDGs ของสหประชาชาติ
3.1 มิติการศึกษา (SDG 4)
ใช้ปัญญาเชิงระบบสร้างหลักสูตรการเรียนรู้เชิงบูรณาการ
ใช้ปัญญาไทยปลูกฝังคุณธรรม–จริยธรรม
ใช้ AI ออกแบบการเรียนรู้เฉพาะบุคคล (Personalized Learning)
3.2 มิติเศรษฐกิจและนวัตกรรม (SDG 8, 9, 12)
ปัญญาไทยส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง
ปัญญาเชิงระบบช่วยวิเคราะห์ห่วงโซ่คุณค่าที่ยั่งยืน
AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรและลดของเสีย
3.3 มิติสิ่งแวดล้อม (SDG 13, 14, 15)
ปัญญาเชิงระบบใช้ในการจำลองแบบระบบนิเวศ
AI ช่วยคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
ปัญญาไทยสร้างทัศนคติอยู่ร่วมกับธรรมชาติ
3.4 มิติความสงบสุขและธรรมาภิบาล (SDG 16, 17)
ปัญญาร่วมของสังคมช่วยสร้างความโปร่งใสและความร่วมมือ
ปัญญาไทยสร้างจิตสำนึกเมตตาและสันติ
AI สนับสนุนการบริหารข้อมูลแบบเปิดและตรวจสอบได้
🔹 4. แบบจำลอง ITI–SD (Integrative Thai Intelligence for Sustainable Development)
โมเดลนี้เป็นการวาง “ลำดับพลังแห่งปัญญา”
โดยให้ ปัญญาไทยเป็นแกนคุณธรรม (Moral Core)
ปัญญาเชิงระบบเป็นโครงสร้าง (Cognitive Framework)
ปัญญาร่วมของสังคมเป็นพลังขับเคลื่อน (Social Force)
และ AI เป็นเครื่องมือสนับสนุน (Technological Tool)
🔹 5. ข้อเสนอเชิงนโยบาย
-
นโยบายการศึกษาเพื่อปัญญายั่งยืน – พัฒนา “หลักสูตรปัญญา 4 มิติ” ที่บูรณาการพุทธปัญญา เทคโนโลยี และการคิดเชิงระบบ
-
นโยบายเศรษฐกิจเชิงคุณธรรม – ส่งเสริมธุรกิจที่ใช้ AI อย่างรับผิดชอบและตั้งอยู่บนหลักเศรษฐกิจพอเพียง
-
นโยบายสิ่งแวดล้อมเชิงบูรณาการ – ใช้ข้อมูลระบบและ AI เพื่อจัดการทรัพยากร โดยมีปัญญาไทยเป็นกรอบคุณธรรม
-
นโยบายธรรมาภิบาลดิจิทัล – ใช้ AI ตรวจสอบความโปร่งใสภาครัฐ และสร้างกลไกมีส่วนร่วมของประชาชน
🔹 6. บทสรุป
“ปัญญาแบบบูรณาการเชิงไทย” เป็นแนวคิดที่ผสานพลังของระบบ เทคโนโลยี และคุณธรรมเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเชิงวัตถุกับการเติบโตเชิงจิตวิญญาณ การใช้แนวคิดนี้เป็นฐานในการขับเคลื่อน SDGs จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถเป็น “โมเดลอารยธรรมใหม่” ที่พัฒนาอย่างยั่งยืนโดยไม่ละทิ้งรากเหง้าทางวัฒนธรรม
อนาคตของความยั่งยืน จึงไม่ใช่เพียง “โลกที่ชาญฉลาดกว่า”
แต่คือ “โลกที่มีปัญญาลึกกว่า” — ปัญญาที่สมดุลระหว่างหัวใจ มนุษย์ และเทคโนโลยี
🔹 เอกสารอ้างอิง
-
สุวิทย์ เมฆินทรีย์. (2568). สามพลังปัญญาแห่งอารยธรรม. โพสต์บน Facebook.
-
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช. (2542). ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง. สำนักราชเลขาธิการ.
-
Senge, P. (1990). The Fifth Discipline: The Art and Practice of the Learning Organization. Doubleday.
-
Floridi, L. (2020). The Logic of Information: A Theory of Philosophy as Conceptual Design. Oxford University Press.
-
United Nations. (2015). Transforming our World: The 2030 Agenda for Sustainable Development. UN Publishing.
บทความทางวิชาการ
เรื่อง: วิเคราะห์ปัญญาเชิงระบบ ปัญญาไทย และเอไอ: ความต่าง ความเหมือน
โดยอ้างอิงแนวคิด “สามพลังปัญญาแห่งอารยธรรม” ของ ดร.สุวิทย์ เมฆินทรีย์
บทนำ
ในศตวรรษที่ 21 มนุษยชาติกำลังเข้าสู่ยุค “อารยธรรมแห่งปัญญา” (Civilization of Intelligence) ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) และระบบข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าเชิงเทคโนโลยีเพียงลำพังไม่สามารถรับประกัน “ความเจริญของมนุษยชาติ” ได้ หากขาดฐานทางจริยธรรม คุณธรรม และความเข้าใจในบริบทชีวิต
ดร.สุวิทย์ เมฆินทรีย์ (2568) เสนอแนวคิด “สามพลังปัญญาแห่งอารยธรรม” ได้แก่
-
ปัญญาเชิงระบบ (Systemic Wisdom)
-
ปัญญาร่วมของสังคม (Collective Intelligence)
-
ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence)
โดยชี้ว่าการบูรณาการทั้งสามพลัง จะนำพาอารยธรรมมนุษย์เข้าสู่ความสมดุลระหว่าง “ความจริง ความงาม และความดี”
ในบริบทไทย “ปัญญาไทย” (Thai Wisdom) ถือเป็นพลังปัญญาที่สี่ ซึ่งหล่อหลอมจากวัฒนธรรม จริยธรรม และภูมิปัญญาชีวิตที่ฝังรากในพุทธธรรม เป็นระบบคิดที่เน้นความพอดี ความสัมพันธ์กับธรรมชาติ และการใช้ปัญญาเพื่อความสุขสงบในชีวิต
การนำ “ปัญญาไทย” เข้ามาผสานกับสามพลังปัญญาแห่งอารยธรรม จึงมีศักยภาพในการสร้าง “แบบจำลองอารยธรรมเชิงคุณธรรม” (Tech–Moral Civilization) ที่มีรากในความเป็นไทยและเปิดสู่โลกสากล
1. ปัญญาเชิงระบบ (Systemic Wisdom): ปัญญาแห่งความเข้าใจเชื่อมโยง
ปัญญาเชิงระบบคือความสามารถในการมองเห็นความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งอย่างองค์รวม ไม่แยกส่วนระหว่างเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และจิตวิญญาณ เป็น “ปัญญาแห่งความเข้าใจเชิงโครงสร้าง” (Structural Truth) ซึ่งช่วยให้มนุษย์ตัดสินใจบนฐานของหลักการและคุณค่า ไม่ใช่เพียงผลลัพธ์
ปัญญาเชิงระบบจึงเป็น “วิธีคิดแบบโยงใย” (Interconnected Thinking) ที่เน้นการเข้าใจระบบชีวิตทั้งหมด ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดพุทธธรรมในพระไตรปิฎกเรื่อง “อิทัปปัจจยตา” — ธรรมทั้งหลายย่อมอาศัยซึ่งกันและกันเกิดขึ้น
ดังนั้น ปัญญาเชิงระบบในมุมของไทยจึงมิได้เป็นเพียงกรอบวิทยาศาสตร์เชิงระบบ แต่เป็น “ปัญญาแห่งความสัมพันธ์เชิงจิตวิญญาณ” ที่มองโลกและชีวิตอย่างบูรณาการ
2. ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence): ปัญญาแห่งการประมวลและแบบจำลอง
AI เป็นการจำลองกระบวนการคิดของมนุษย์ผ่านอัลกอริทึมและข้อมูลจำนวนมหาศาล มีความสามารถในการวิเคราะห์รูปแบบ คาดการณ์แนวโน้ม และตัดสินใจเชิงตรรกะได้รวดเร็ว แต่ขาด “ความเข้าใจบริบท” และ “คุณค่าทางจิตใจ”
ดังที่ ดร.สุวิทย์ กล่าวไว้ว่า
“AI เก่งในการประมวล แต่ยังไม่เข้าใจบริบท
มองเห็นรูปแบบ แต่ยังไม่เข้าใจระบบ
เรียนรู้จากอดีต แต่ยังไม่รู้จักความรับผิดชอบต่ออนาคต”
AI จึงสะท้อน “ความฉลาดเชิงกลไก” (Mechanical Intelligence) แต่ยังไม่ถึง “ปัญญาเชิงคุณค่า” (Value-Based Wisdom)
หากปราศจากกรอบของปัญญาเชิงระบบและปัญญาไทยมาชี้นำ AI อาจกลายเป็นพลังที่เพิ่มประสิทธิภาพโดยไร้ความหมายทางคุณธรรม
3. ปัญญาไทย (Thai Wisdom): ปัญญาแห่งความพอดีและคุณธรรม
“ปัญญาไทย” เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างพุทธปัญญา จริยธรรม และภูมิปัญญาชาวบ้าน เป็นการเรียนรู้จากชีวิตจริงที่เน้น “ความพอดี ความสมดุล และความสงบ”
รากฐานของปัญญาไทยอยู่ในแนวคิด “ปัญญาเพื่อความดี” — ปัญญาที่ไม่ใช่เพื่อเอาชนะ แต่เพื่อเข้าใจ, ไม่ใช่เพื่อสะสม แต่เพื่อพอเพียง
ตัวอย่างสำคัญคือ “เศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งในเชิงระบบคือการออกแบบสังคมที่สมดุลระหว่างเศรษฐกิจ จิตใจ และสิ่งแวดล้อม ขณะที่ในเชิงจิตวิญญาณคือการใช้ปัญญาอย่างมีสติและเมตตา
ปัญญาไทยยังมีลักษณะสำคัญ 3 ประการที่เกื้อกูลกับปัญญาเชิงระบบและ AI ได้แก่
-
เชิงธรรมะ (Dhamma-Oriented) – ตัดสินใจด้วยสติและหลักคุณธรรม
-
เชิงพอเพียง (Sufficiency-Oriented) – มุ่งความพอดี ไม่สุดโต่ง
-
เชิงสัมพันธ์ (Relational-Oriented) – เห็นคุณค่าความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ
ดังนั้น ปัญญาไทยจึงเป็นฐานจริยธรรมที่สามารถ “ประสานความลึกทางจิตวิญญาณกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี” ได้อย่างสมดุล
4. การเปรียบเทียบเชิงวิเคราะห์
| ประเด็น | ปัญญาเชิงระบบ | ปัญญาไทย | ปัญญาประดิษฐ์ |
|---|---|---|---|
| รากฐาน | ความเข้าใจในความสัมพันธ์ของระบบ | พุทธธรรมและภูมิปัญญาชีวิต | ข้อมูลและอัลกอริทึม |
| ลักษณะการคิด | องค์รวม เชื่อมโยง | สมดุล มีสติ มีคุณธรรม | คำนวณเชิงตรรกะ |
| เป้าหมาย | ความเข้าใจเชิงโครงสร้าง | ความดี ความสงบ ความพอเพียง | ประสิทธิภาพและความแม่นยำ |
| มิติคุณค่า | ความจริง (Truth) | ความดี (Goodness) | ความงามเชิงเทคโนโลยี (Innovation Beauty) |
| ข้อจำกัด | ต้องใช้เวลาและสติไตร่ตรอง | ไม่รองรับระบบข้อมูลซับซ้อน | ขาดเจตจำนงทางศีลธรรม |
| บทบาทเกื้อหนุน | ให้กรอบคิดเชิงระบบ | ให้กรอบคุณค่าและจริยธรรม | ขยายศักยภาพการคิดและวิเคราะห์ |
5. การบูรณาการสี่พลังปัญญา: สู่ “อารยธรรมแห่งปัญญาและคุณธรรม”
การบูรณาการ ปัญญาเชิงระบบ + ปัญญาร่วมของสังคม + ปัญญาประดิษฐ์ + ปัญญาไทย
จะก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Integrative Thai Intelligence” หรือ “ปัญญาแบบบูรณาการเชิงไทย” ซึ่งมีลักษณะเด่นคือ
-
มีโครงสร้างแบบระบบ (Systemic) – เข้าใจความเชื่อมโยงของโลก
-
มีจิตสำนึกแบบร่วม (Collective) – สร้างสรรค์ร่วมกับสังคม
-
มีศักยภาพแบบเทคโนโลยี (Technological) – ใช้เครื่องมือเพื่อเสริมมนุษย์
-
มีคุณธรรมแบบไทย (Moral–Thai) – ดำรงด้วยสติ ความพอดี และเมตตา
เมื่อสี่พลังนี้บูรณาการกัน มนุษย์จะสามารถใช้เทคโนโลยีอย่างมีสติ สร้างความก้าวหน้าที่มีจริยธรรม และออกแบบอารยธรรมใหม่ที่ผสมผสาน “ความจริง ความงาม ความดี” เข้ากับ “ระบบ สังคม เทคโนโลยี และคุณธรรม”
บทสรุป
ในโลกที่เทคโนโลยีเติบโตเร็วกว่าจิตสำนึกของมนุษย์ การสร้างสมดุลระหว่าง ปัญญาเชิงระบบ, ปัญญาไทย, และ ปัญญาประดิษฐ์ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
AI ทำให้มนุษย์ฉลาดขึ้นในเชิงข้อมูล แต่ “ปัญญาไทย” และ “ปัญญาเชิงระบบ” ทำให้มนุษย์ฉลาดขึ้นในเชิงคุณค่าและความเข้าใจ
อารยธรรมแห่งอนาคตจึงไม่ใช่อารยธรรมของเครื่องจักรที่ฉลาดกว่า แต่คือ “อารยธรรมของมนุษย์ที่เข้าใจลึกกว่า” — ใช้เทคโนโลยีด้วยสติ ใช้ปัญญาด้วยคุณธรรม และใช้ความรู้เพื่อความสุขร่วมกันของสรรพชีวิต
เอกสารอ้างอิง
สุวิทย์ เมฆินทรีย์. (2568). สามพลังปัญญาแห่งอารยธรรม: จากความจริง ความงาม และความดี สู่การบูรณาการแห่งอนาคตมนุษยชาติ. โพสต์บน Facebook.
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช. (2542). ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง. สำนักราชเลขาธิการ.
Senge, P. (1990). The Fifth Discipline: The Art and Practice of the Learning Organization. New York: Doubleday.
Floridi, L. (2020). The Logic of Information: A Theory of Philosophy as Conceptual Design. Oxford University Press.
หลักการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals – SDGs)
โดยเฉพาะเมื่อเรามองผ่านกรอบ “สี่พลังปัญญา” ที่บทความเสนอ ได้แก่
ปัญญาเชิงระบบ, ปัญญาร่วมของสังคม, ปัญญาประดิษฐ์, และ ปัญญาไทย
ผมจะอธิบายให้เป็นระบบชัดเจนใน 3 ชั้น ดังนี้ครับ 👇
💠 1. ความสัมพันธ์พื้นฐานระหว่าง “ปัญญาเชิงระบบ–ปัญญาไทย–AI” กับ SDGs
SDGs ของสหประชาชาติ (2015–2030) มีเป้าหมายใหญ่คือ
“การพัฒนาอย่างสมดุลในสามมิติ — เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม”
ขณะที่ “ปัญญาเชิงระบบ + ปัญญาไทย + ปัญญาประดิษฐ์”
มีรากฐานอยู่บนการ มองโลกแบบองค์รวม, ใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรม, และ ตัดสินใจด้วยสติและคุณธรรม
ดังนั้น เมื่อรวมกันแล้ว จึงเป็น “เครื่องมือทางความคิด” ที่สามารถ เป็นฐานแนวคิดและกลไกขับเคลื่อน SDGs ได้โดยตรง
| มิติ SDGs | หลักการจากปัญญาทั้งสาม | ผลเชิงพัฒนา |
|---|---|---|
| เศรษฐกิจยั่งยืน | ปัญญาเชิงระบบช่วยมองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างเศรษฐกิจ–สิ่งแวดล้อม–สังคม ปัญญาไทยเน้นความพอดีและพอเพียง AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยไม่เบียดเบียน | เศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพและมีคุณธรรม |
| สังคมยั่งยืน | ปัญญาร่วมของสังคม (Collective Intelligence) ทำให้คนมีส่วนร่วมในการออกแบบนโยบาย ปัญญาไทยส่งเสริมความเอื้ออาทรและเมตตา | สังคมเข้มแข็ง โปร่งใส มีส่วนร่วม |
| สิ่งแวดล้อมยั่งยืน | ปัญญาเชิงระบบช่วยให้เข้าใจวงจรสิ่งแวดล้อมและทรัพยากร ปัญญาไทยส่งเสริมการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ AI ใช้ในการจัดการพลังงานและการคาดการณ์ทรัพยากร | ระบบนิเวศได้รับการดูแลด้วยความรู้และคุณค่า |
💠 2. การเชื่อมโยงกับเป้าหมาย SDGs เฉพาะข้อ
ต่อไปนี้คือบางข้อของ SDGs ที่สามารถเชื่อมโยงกับ “สี่พลังปัญญา” โดยตรง
| เป้าหมาย SDGs | การเชื่อมโยงกับปัญญา |
|---|---|
| SDG 4: การศึกษาอย่างมีคุณภาพ | ปัญญาเชิงระบบช่วยสร้างหลักสูตรที่เน้นการคิดเชิงระบบและจริยธรรม ปัญญาไทยเพิ่มมิติคุณธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น AI ใช้ในระบบการเรียนรู้ส่วนบุคคล (Personalized Learning) |
| SDG 8: งานที่มีคุณค่าและเศรษฐกิจที่ยั่งยืน | ปัญญาไทยช่วยวางกรอบความพอเพียง ปัญญาเชิงระบบสร้างนโยบายเศรษฐกิจเชิงคุณค่า AI ใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพแรงงานและธุรกิจสีเขียว |
| SDG 11: เมืองและชุมชนยั่งยืน | ปัญญาเชิงระบบวิเคราะห์ระบบเมือง ปัญญาไทยนำแนวคิดชุมชนพอเพียง AI ใช้บริหารโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ |
| SDG 12: การบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน | ปัญญาไทยให้แนวคิด “รู้พอดี” และ “ไม่ฟุ่มเฟือย” ปัญญาเชิงระบบเชื่อมโยงวงจรการผลิต–บริโภค AI ช่วยจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ |
| SDG 16: สังคมสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง | ปัญญาไทยส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม ปัญญาเชิงระบบสนับสนุนการตัดสินใจอย่างโปร่งใส AI ช่วยตรวจสอบข้อมูลและเพิ่มธรรมาภิบาล |
| SDG 17: ความร่วมมือเพื่อการพัฒนา | ปัญญาร่วมของสังคม (Collective Intelligence) เป็นหัวใจของการทำงานร่วมกันข้ามพรมแดน ปัญญาเชิงระบบช่วยออกแบบการเชื่อมโยงนโยบายระดับโลก |
💠 3. การพัฒนา “กรอบแนวคิดเชิงนโยบาย” ใหม่:
Integrative Thai Intelligence for Sustainable Development (ITI–SD Model)
แนวคิดนี้สามารถพัฒนาเป็น “กรอบนโยบายแห่งชาติ” หรือ “โมเดลการพัฒนาที่ยั่งยืนแบบไทย” ได้
โดยใช้หลักการ 4 เสาหลัก (Four Pillars of Thai Integrative Intelligence):
| เสาหลัก | คำอธิบาย | ผลต่อ SDGs |
|---|---|---|
| 1. Systemic Wisdom (SW) | การคิดเชิงระบบ เห็นความสัมพันธ์ของเศรษฐกิจ–สังคม–สิ่งแวดล้อม | ทำให้การกำหนดนโยบายสอดคล้องในทุกมิติ |
| 2. Collective Intelligence (CI) | เปิดให้ภาคประชาชน–วิชาการ–ภาคธุรกิจ ร่วมกันคิดและลงมือทำ | ส่งเสริมการมีส่วนร่วม (SDG 16–17) |
| 3. Artificial Intelligence (AI) | ใช้เทคโนโลยีข้อมูลเพื่อประเมินผลและคาดการณ์แนวโน้มอย่างแม่นยำ | สนับสนุนการบริหารจัดการเชิงหลักฐาน (Evidence-Based Policy) |
| 4. Thai Wisdom (TW) | หลักธรรมะ ความพอดี จริยธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น | เป็น “จิตวิญญาณ” ของการพัฒนาอย่างมีคุณธรรม |
ผลลัพธ์ของการใช้กรอบนี้คือ “การพัฒนาที่ยั่งยืนแบบมีหัวใจมนุษย์ (Human-Centered Sustainable Development)”
ซึ่งต่างจากการพัฒนาเชิงเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว เพราะเชื่อมโยงกับคุณค่าลึกของชีวิตและสังคม
💠 4. บทสรุปเชิงนโยบาย
การผสาน “ปัญญาเชิงระบบ + ปัญญาไทย + AI + ปัญญาร่วมของสังคม”
สามารถเป็น ฐานทางความคิด (Conceptual Foundation) และ เครื่องมือเชิงปฏิบัติ (Operational Mechanism) สำหรับการบรรลุเป้าหมาย SDGs ได้ในสามระดับ
-
ระดับปัจเจก – สร้างมนุษย์ที่มีสติ คิดเชิงระบบ และใช้เทคโนโลยีอย่างมีคุณธรรม
-
ระดับสังคม – สร้างระบบเศรษฐกิจ–สังคมที่พอดี โปร่งใส และร่วมมือกัน
-
ระดับอารยธรรม – ขับเคลื่อนอารยธรรมใหม่ที่ผสมผสานความจริง ความงาม และความดี เข้ากับเทคโนโลยี
กล่าวได้ว่า
🌏 “ปัญญาเชิงระบบ คือ สมองแห่งการพัฒนา
ปัญญาไทย คือ หัวใจแห่งการพัฒนา
AI คือ มือแห่งการพัฒนา
และปัญญาร่วม คือ จิตแห่งการพัฒนา”
ทั้งหมดนี้คือฐานรองรับ การพัฒนาที่ยั่งยืนตามหลักสหประชาชาติ
ในแบบที่เป็น “พัฒนาที่ยั่งยืนเชิงคุณธรรม – Sustainable Development with Moral Intelligence.”
บทความทางวิชาการ
ปัญญาแบบบูรณาการเชิงไทยกับการพัฒนาที่ยั่งยืนตามหลักสหประชาชาติ: ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี และแผนปฏิบัติการ
Thai Integrative Intelligence for UN–Sustainable Development Goals: Strategies, Tactics, and Action Plan
🔹 บทคัดย่อ (Abstract)
บทความนี้มุ่งเสนอกรอบแนวคิด “ปัญญาแบบบูรณาการเชิงไทย” (Thai Integrative Intelligence: ITI) ซึ่งเป็นการประสานระหว่าง ปัญญาเชิงระบบ (Systemic Wisdom), ปัญญาร่วมของสังคม (Collective Intelligence), ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และ ปัญญาไทย (Thai Wisdom) เพื่อใช้เป็นฐานการพัฒนาที่ยั่งยืนตามหลักสหประชาชาติ (UN–SDGs)
แนวคิดนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานว่า การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนต้องไม่เพียงอาศัยเทคโนโลยีหรือเศรษฐศาสตร์เท่านั้น แต่ต้องอาศัย “ปัญญาเชิงคุณค่า” ที่เชื่อมโยงมนุษย์กับธรรมชาติอย่างกลมกลืน ITI–SD Model จึงเสนอ “การพัฒนาเชิงจริยธรรม (Moral–Sustainability)” โดยใช้ปัญญาไทยเป็นฐานทางจิตวิญญาณ ปัญญาเชิงระบบเป็นกรอบคิด ปัญญาร่วมของสังคมเป็นกลไก และปัญญาประดิษฐ์เป็นเครื่องมือ
ผลลัพธ์คือแนวทางการพัฒนาแบบ “Human–Centered Sustainable Development” หรือ “การพัฒนาที่ยั่งยืนที่มีหัวใจมนุษย์” ซึ่งมุ่งสร้างความสมดุลระหว่าง ความจริง (Truth), ความดี (Goodness), ความงาม (Beauty) และ ความพอดี (Sufficiency) อันเป็นเอกลักษณ์ของอารยธรรมไทยร่วมสมัย
คำสำคัญ: ปัญญาไทย, ปัญญาเชิงระบบ, ปัญญาประดิษฐ์, การพัฒนาที่ยั่งยืน, SDGs
🔹 1. บทนำ
ในศตวรรษที่ 21 โลกกำลังเผชิญวิกฤตเชิงซ้อน ทั้งสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และจิตวิญญาณของมนุษย์ แม้สหประชาชาติจะได้ประกาศ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) เพื่อสร้างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม แต่ในทางปฏิบัติกลับติดกับดัก “การมองแบบแยกส่วน” และขาดฐานทางคุณธรรม
ประเทศไทยในฐานะสังคมที่มีรากทาง พุทธธรรม และ วัฒนธรรมแห่งความพอดี จึงมีศักยภาพในการนำเสนอแบบจำลอง “การพัฒนาเชิงคุณธรรม (Moral Development Model)” ผ่านแนวคิด ปัญญาแบบบูรณาการเชิงไทย (Thai Integrative Intelligence: ITI) ซึ่งผสานองค์ความรู้แบบตะวันตก (ระบบ–เทคโนโลยี) เข้ากับภูมิปัญญาแบบตะวันออก (คุณธรรม–ความสมดุล)
🔹 2. กรอบแนวคิดเชิงทฤษฎี: สี่พลังปัญญา
| มิติของปัญญา | คำอธิบาย | บทบาทต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน |
|---|---|---|
| ปัญญาเชิงระบบ (Systemic Wisdom) | เข้าใจความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งอย่างองค์รวม | ออกแบบนโยบายที่สมดุลระหว่างเศรษฐกิจ–สังคม–สิ่งแวดล้อม |
| ปัญญาร่วมของสังคม (Collective Intelligence) | การเรียนรู้และระดมปัญญาร่วมกันของสังคม | สร้างกระบวนการมีส่วนร่วม โปร่งใส และประชาธิปไตย |
| ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) | การใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีในการตัดสินใจ | เพิ่มประสิทธิภาพและการคาดการณ์เชิงหลักฐาน |
| ปัญญาไทย (Thai Wisdom) | ปัญญาเชิงคุณธรรม ยึดพุทธธรรม ความพอดี และความเมตตา | เป็นฐานคุณค่าและจิตวิญญาณของการพัฒนา |
🔹 3. การเชื่อมโยงกับเป้าหมาย SDGs ของสหประชาชาติ
3.1 มิติการศึกษา (SDG 4)
-
ใช้ปัญญาเชิงระบบสร้างหลักสูตรการเรียนรู้บูรณาการ
-
ใช้ปัญญาไทยปลูกฝังคุณธรรมและสติ
-
ใช้ AI ออกแบบการเรียนรู้เฉพาะบุคคล (Personalized Learning)
3.2 มิติเศรษฐกิจและนวัตกรรม (SDG 8, 9, 12)
-
ปัญญาไทยส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียง
-
ปัญญาเชิงระบบวิเคราะห์ห่วงโซ่คุณค่าที่ยั่งยืน
-
AI เพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้ทรัพยากรเกินจำเป็น
3.3 มิติสิ่งแวดล้อม (SDG 13, 14, 15)
-
ปัญญาเชิงระบบใช้จำลองระบบนิเวศเพื่อการจัดการ
-
AI ช่วยคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
-
ปัญญาไทยส่งเสริมแนวคิดอยู่ร่วมกับธรรมชาติ
3.4 มิติธรรมาภิบาลและสันติสุข (SDG 16, 17)
-
ปัญญาร่วมของสังคมสร้างความโปร่งใสและความร่วมมือ
-
ปัญญาไทยสร้างจิตสำนึกสันติและเมตตา
-
AI สนับสนุนระบบข้อมูลเปิดและการตรวจสอบภาครัฐ
🔹 4. แบบจำลอง ITI–SD (Integrative Thai Intelligence for Sustainable Development)
โมเดลนี้สะท้อน “ลำดับพลังแห่งปัญญา” ที่ผสานมิติคุณค่า–โครงสร้าง–สังคม–เทคโนโลยี เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างระบบการพัฒนาแบบองค์รวม
🔹 5. ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี และแผนปฏิบัติการ
5.1 ยุทธศาสตร์ที่ 1: การพัฒนามนุษย์ด้วยปัญญา 4 มิติ
เป้าหมาย: สร้างคนรุ่นใหม่ที่คิดอย่างเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีอย่างมีคุณธรรม
ยุทธวิธี:
-
บูรณาการหลักสูตร “ปัญญา 4 มิติ” ในทุกระดับการศึกษา
-
จัดตั้ง “สถาบัน ITI–SD” เพื่อพัฒนาองค์ความรู้และอบรมบุคลากร
-
ใช้ AI วิเคราะห์สมรรถนะผู้เรียนรายบุคคล
แผนปฏิบัติการ: -
ปีที่ 1–2: พัฒนาแนวคิดหลักสูตรต้นแบบ
-
ปีที่ 3–5: นำร่องในมหาวิทยาลัยและโรงเรียนต้นแบบ
5.2 ยุทธศาสตร์ที่ 2: เศรษฐกิจเชิงคุณธรรมและนวัตกรรมพอเพียง
เป้าหมาย: พัฒนาเศรษฐกิจที่มีคุณธรรม ใช้ AI อย่างรับผิดชอบ
ยุทธวิธี:
-
ส่งเสริมธุรกิจนวัตกรรมที่ตั้งอยู่บนหลักเศรษฐกิจพอเพียง
-
พัฒนาแพลตฟอร์ม AI เพื่อประเมินผลกระทบทางสังคม–สิ่งแวดล้อม
แผนปฏิบัติการ: -
ปีที่ 1: สร้างเครือข่ายภาคธุรกิจสีเขียว
-
ปีที่ 2–4: จัดตั้ง “กองทุนนวัตกรรมพอเพียง (Sufficiency Innovation Fund)”
5.3 ยุทธศาสตร์ที่ 3: ระบบสิ่งแวดล้อมแห่งปัญญา (Intelligent Ecology)
เป้าหมาย: สร้างการจัดการทรัพยากรแบบสมดุล
ยุทธวิธี:
-
ใช้ AI และข้อมูลดาวเทียมติดตามระบบนิเวศ
-
ส่งเสริม “ชุมชนปัญญาไทยสีเขียว (Thai Wisdom Eco–Community)”
แผนปฏิบัติการ: -
ปีที่ 1–2: พัฒนาเครื่องมือวิเคราะห์เชิงระบบ
-
ปีที่ 3–5: นำร่องพื้นที่ต้นแบบในเขตเศรษฐกิจพอเพียง
5.4 ยุทธศาสตร์ที่ 4: ธรรมาภิบาลดิจิทัลและสังคมแห่งสติ
เป้าหมาย: ใช้เทคโนโลยีเพื่อความโปร่งใสและสันติสุข
ยุทธวิธี:
-
สร้างระบบ “AI–Ethics Monitor” สำหรับภาครัฐ
-
เปิดข้อมูล (Open Data) เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วม
แผนปฏิบัติการ: -
ปีที่ 1–2: พัฒนาเกณฑ์จริยธรรมการใช้ AI ภาครัฐ
-
ปีที่ 3–5: ขยายผลสู่ระบบบริหารราชการทั่วประเทศ
🔹 6. บทสรุป
“ปัญญาแบบบูรณาการเชิงไทย (ITI–SD Model)” มิใช่เพียงกรอบแนวคิดทางทฤษฎี แต่เป็นยุทธศาสตร์แห่งอารยธรรมใหม่ ที่ผสมผสานพลังของระบบ เทคโนโลยี และคุณธรรม เพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง
การพัฒนาในอนาคตจึงไม่ใช่เพียง “การสร้างโลกที่ชาญฉลาดกว่า” แต่คือ “การสร้างโลกที่มีปัญญาลึกกว่า” — โลกที่เทคโนโลยีรับใช้มนุษย์ มนุษย์เคารพธรรมชาติ และสังคมดำรงอยู่ด้วยสติและความเมตตา
🔹 เอกสารอ้างอิง
สุวิทย์ เมฆินทรีย์. (2568). สามพลังปัญญาแห่งอารยธรรม. โพสต์บน Facebook.
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช. (2542). ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง. สำนักราชเลขาธิการ.
Senge, P. (1990). The Fifth Discipline: The Art and Practice of the Learning Organization. Doubleday.
Floridi, L. (2020). The Logic of Information: A Theory of Philosophy as Conceptual Design. Oxford University Press.
United Nations. (2015). Transforming our World: The 2030 Agenda for Sustainable Development. UN Publishing.

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น