วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2568

"ทรัมป์" ชวด! "ดร.สำราญ" ร่วมกับเอไอวิเคราะห์ Wเจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพ 2025" สะท้อนมิติ "สันติภาพทางการเมืองไทย"


เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2568
— ดร.สำราญ สมพงษ์ นักวิชาการอิสระด้านพุทธสันติวิธี เปิดเผยผลการวิเคราะห์ร่วมกับระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ภายใต้หัวข้อ “วิเคราะห์กรณี มาเรีย คอรินา มาชาโด ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ 2025 : สะท้อนถึงสันติภาพทางการเมืองในไทย” ซึ่งเป็นการผสมผสานข้อมูลเชิงลึกจากสื่อสากลและแนวคิดทางพุทธสันติวิธี เพื่อชี้ให้เห็นภาพเปรียบเทียบระหว่าง การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของเวเนซุเอลา กับ พลวัตทางการเมืองของประเทศไทย


✳️ ปรากฏการณ์ระดับโลกกับคำถามสะท้อนสังคมไทย

ดร.สำราญระบุว่า การที่ มาเรีย คอรินา มาชาโด ผู้นำฝ่ายค้านเวเนซุเอลา ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2025 ถือเป็น “สัญลักษณ์สำคัญของการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย” ในยุคที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังถดถอยเข้าสู่ระบบอำนาจนิยม

“เหตุการณ์นี้ไม่ได้เป็นเพียงการยกย่องบุคคล แต่เป็นการยืนยันคุณค่าของ การเปลี่ยนผ่านอย่างสันติ ซึ่งมีนัยต่อการสร้างสันติภาพทางการเมืองในประเทศไทย”
— ดร.สำราญ กล่าว


✳️ ความหมายของ “สันติภาพทางการเมือง”

รายงานดังกล่าวอธิบายว่า สันติภาพทางการเมือง (Political Peace) มิได้หมายถึงเพียง “การไม่มีความรุนแรง” แต่รวมถึง

  • การอยู่ร่วมกันของฝ่ายต่าง ๆ อย่างเสรี

  • การใช้หลักนิติธรรมจัดการความขัดแย้ง

  • การยอมรับความหลากหลายทางความคิด

  • และการเปิดพื้นที่ให้ตรวจสอบอำนาจอย่างสร้างสรรค์

ดร.สำราญชี้ว่า ในสังคมที่การถกเถียงถูกจำกัด หรือความเห็นต่างถูกมองเป็นภัย สันติภาพที่แท้จริงย่อมไม่เกิดขึ้นได้ “สันติภาพมิได้อยู่ที่ความเงียบ แต่เกิดจากการยอมรับในความแตกต่างโดยไม่เบียดเบียนกัน”


✳️ เวเนซุเอลาในเงื้อมเผด็จการ และบทเรียนสากล

จากรายงานของ Reuters และ TIME ระบุว่า มาชาโดเป็นหนึ่งในผู้นำฝ่ายค้านที่ถูกจำกัดสิทธิ ถูกข่มขู่ และต้องหลบซ่อนตัวเป็นระยะ แต่ยังยืนหยัดเรียกร้องให้ประเทศเดินหน้าสู่การเลือกตั้งเสรี

เว็บไซต์ NobelPrize.org อธิบายเหตุผลของการมอบรางวัลว่า มาชาโด “ต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนและการเปลี่ยนผ่านอย่างยุติธรรมจากระบอบเผด็จการสู่ประชาธิปไตย”
ส่วน The Guardian วิเคราะห์ว่า การให้รางวัลครั้งนี้ “เป็นสัญลักษณ์แห่งกำลังใจต่อผู้ที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในยุคที่เสรีภาพถดถอยทั่วโลก”


✳️ สะท้อนมายัง “สันติภาพการเมืองไทย”

รายงานวิเคราะห์ว่า ประเทศไทยแม้ไม่ได้อยู่ภายใต้เผด็จการเต็มรูปแบบ แต่ยังมีแรงตึงเครียดทางการเมือง การแบ่งขั้ว และความไม่ไว้วางใจระหว่างกลุ่มอุดมการณ์ที่แตกต่าง การที่มาชาโดได้รับรางวัลโนเบล จึงสามารถมองได้ว่าเป็น “กระจกสะท้อน” ให้สังคมไทยได้ทบทวนความหมายของการมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างสันติ

ดร.สำราญระบุว่า “การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรง หากเข้าใจรากฐานของสันติวิธี และเชื่อในพลังของปัญญาและการมีส่วนร่วม”


✳️ แนวโน้มและบทเรียนเทียบเคียง

ตารางวิเคราะห์แนวโน้มจากรายงาน ระบุ 4 ปัจจัยสำคัญที่เชื่อมโยงกรณีมาชาโดกับไทย ได้แก่

ปัจจัยบทบาทในกรณีมาชาโดนัยต่อประเทศไทย
สัญลักษณ์ระหว่างประเทศการให้รางวัลยืนยันคุณค่าการต่อสู้ของฝ่ายค้านไทยควรเรียนรู้การใช้ “พลังสากล” เพื่อสร้างแรงหนุนเชิงจิตวิญญาณการเมือง
การต้านอำนาจเผด็จการมาชาโดถูกจำกัดสิทธิแต่ยังต่อสู้ไทยสามารถนำพลังศรัทธาในประชาธิปไตยมาปรับใช้เชิงสันติ
แรงกดดันจากสังคมโลกรางวัลโนเบลคือแรงกดดันทางจริยธรรมต่อรัฐบาลไทยอาจถูกคาดหวังในเรื่องสิทธิมนุษยชนและธรรมาภิบาล
บทบาทของสื่อและสาธารณะจุดกระแสถกเถียงในระดับโลกสื่อไทยควรใช้กรณีนี้เพื่อเปิดพื้นที่สนทนาทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์

✳️ ข้อเสนอเชิงพุทธสันติวิธีต่อสังคมไทย

  1. เรียนรู้กรณีศึกษาอย่างเปรียบเทียบ (Comparative Learning):
    ศึกษาวิธีการต่อสู้ของมาชาโด และนำมาประยุกต์ใช้ในบริบทไทย โดยไม่สร้างความแตกแยก

  2. เสริมกลไกสังคมพลเมือง:
    ส่งเสริมองค์กรอิสระ สื่อ และสถาบันวิชาการ ให้มีพลังตรวจสอบอย่างสร้างสรรค์

  3. ส่งเสริมการเมืองแบบเปิด:
    สร้างพื้นที่ถกเถียงอย่างเสรีและมีเหตุผล เพื่อให้ “สันติภาพทางการเมือง” งอกงามจากฐานประชาชน

  4. เชื่อมโยงกับเวทีสากล:
    ใช้กรณีมาชาโดเป็นแรงบันดาลใจในการยกระดับภาพลักษณ์ประชาธิปไตยไทยต่อสายตาโลก


✳️ สรุป

การที่ มาเรีย คอรินา มาชาโด ได้รับรางวัลโนเบลสันติภาพปี 2025 เป็นมากกว่าการให้เกียรติส่วนบุคคล แต่คือการยืนยันคุณค่าของ การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยด้วยสันติวิธี ซึ่งสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้ไทยก้าวสู่ “สันติภาพทางการเมือง” อย่างแท้จริง

“สันติภาพมิได้เกิดจากผู้ชนะหรือผู้แพ้ แต่เกิดจากการรู้จักฟังและเข้าใจกันด้วยปัญญา”
— ดร.สำราญ สมพงษ์
นักวิชาการอิสระด้านพุทธสันติวิธี

“วิเคราะห์กรณี มาเรีย คอรินา มาชาโด ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ 2025 : สะท้อนถึงสันติภาพทางการเมืองในไทย” ซึ่งผสมผสานข้อมูลพื้นฐานกับการวิเคราะห์เปรียบเทียบและแนวทางข้อเสนอแนะ


1. บทนำ

การที่ มาเรีย คอรินา มาชาโด ผู้นำฝ่ายค้านเวเนซุเอลา ได้รับรางวัล โนเบลสาขาสันติภาพ (2025) นับเป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองระดับโลกซึ่งสะท้อนถึงแนวคิดการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในช่วงที่หลายประเทศเผชิญแรงกดดันจากการถดถอยของระบบการปกครอง ในบริบทของไทย เหตุการณ์นี้เปิดหน้าต่างให้เราได้พิจารณาถึง “สันติภาพทางการเมือง” (political peace) — คือ ความสงบเรียบร้อยของระบบการเมือง ความยอมรับความหลากหลายทางความคิด และการอยู่ร่วมภายใต้ฐานคุณค่าอุดมคติร่วม — ว่าเหตุการณ์เช่นนี้มีนัยสำคัญอย่างไรต่อเวทีการเมืองไทยในปัจจุบัน

2. หลักเกณฑ์และแนวคิดสำคัญ

2.1 ความหมายของสันติภาพทางการเมือง

  • สันติภาพทางการเมืองไม่ใช่แค่การไม่มีสงครามหรือความรุนแรงทางกายภาพเท่านั้น แต่รวมถึง
      • ความอยู่ร่วมอย่างเสรีของฝ่ายต่าง ๆ ภายในระบบการเมือง
      • ความยุติธรรมและหลักนิติธรรมในการจัดการความขัดแย้ง
      • การยอมรับความหลากหลายทางอุดมการณ์
      • ระบบที่เปิดให้มีการถกเถียงและตรวจสอบอำนาจ

  • ในหลายประเทศที่มีความขัดแย้งทางการเมือง สันติภาพจะต้องถูกผลักดันผ่าน “ระบอบประชาธิปไตย” “สิทธิมนุษยชน” และ “พลวัตการเปลี่ยนแปลงโดยสันติ” — ซึ่งเป็นประเด็นที่ทางคณะกรรมการโนเบลให้ความสำคัญเมื่อตัดสินผู้ได้รับรางวัล

2.2 บริบทการเมืองเวเนซุเอลา และบทบาทของมาชาโด

  • มาชาโดเป็นหนึ่งในผู้นำฝ่ายค้านที่ถูกคุกคาม ถูกจำกัดสิทธิเข้าชิงตำแหน่งทางการเมือง และต้อง “ซ่อนอยู่” บางช่วงเวลา แต่ยังยืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยภายใต้เงื้อมมืออำนาจเผด็จการเรื้อรัง Reuters+2TIME+2

  • คณะกรรมการโนเบลอ้างเหตุผลว่าเธอ “ต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนและการเปลี่ยนผ่านอย่างยุติธรรมจากระบอบเผด็จการสู่ประชาธิปไตย” NobelPrize.org

  • การมอบรางวัลให้กับเธอยังเป็น “สัญลักษณ์” ของการให้กำลังใจแก่ผู้รักประชาธิปไตยในประเทศที่อยู่ในสภาพ “ถดถอย” ของระบบการปกครองหลายแห่งทั่วโลก The Guardian+2TIME+2

2.3 ความเชื่อมโยงระหว่างกรณีเวเนซุเอลากับสันติภาพการเมืองไทย

  • ในไทย แม้ไม่มีสถานการณ์เผด็จการเต็มรูปแบบ แต่มีความตึงเครียด การแบ่งฝักแบ่งฝ่ายทางการเมือง และข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปหลายมิติ — ทั้งด้านรัฐธรรมนูญ การกระจายอำนาจ สิทธิของประชาชน รวมถึงการมีส่วนร่วมทางการเมือง

  • เหตุการณ์เช่นการที่มาชาโดได้รับโนเบล อาจเป็น “กรณีศึกษา” ที่ชี้ให้เห็นว่าในภูมิภาคที่ประชาธิปไตยไม่มั่นคง การยกย่องผู้ที่ต่อสู้เพื่อหลักการสามารถสร้างแรงกระเพื่อมเชิงสัญลักษณ์ และกดดันให้รัฐบาล หรือฝ่ายการเมืองต้องตอบสนองต่อเสียงคัดค้าน

  • อีกมิติหนึ่งคือ “มาตรวัดระหว่างประเทศ” — เมื่อการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยได้รับการยืนยันจากเวทีโลก (เช่น รางวัลโนเบล) ประเทศไทยอาจถูกจับตามองในเรื่องการคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ และธรรมาภิบาล


3. วิเคราะห์แนวโน้มและปัจจัยส่งเสริม

ปัจจัยบทบาทต่อกรณีมาชาโดแนวโน้มที่สามารถเกิดในไทย
สัญลักษณ์ระหว่างประเทศการให้รางวัลเป็นการ “ให้การรับรอง” เส้นทางการต่อสู้ของฝ่ายค้านฝ่ายการเมืองไทยอาจอ้างความชอบธรรมระดับนานาชาติเมื่อต้องการเผชิญกับอำนาจรัฐ
การต้านทานอำนาจเผด็จการมาชาโดถูกจำกัด ไม่มีสิทธิแข่งขัน ก็ยังยืนหยัดต่อสู้ฝ่ายที่ถูกลดทอนสิทธิอาจแรงบันดาลใจในการเรียกร้องการปฏิรูป
แรงกดดันจากสังคมโลกการมอบรางวัลเป็นแรงกดดันให้รัฐบาลต้องแสดงท่าทีประเทศไทยอาจเผชิญแรงกดดันให้ปฏิรูปประเด็นสิทธิมนุษยชน
บทบาทของสื่อ-สาธารณะรางวัลโนเบลกระตุ้นการถกเถียงในสังคมสากลสื่อไทยอาจนำไปเป็นกรณีศึกษา-อภิปรายในเวทีสาธารณะ

ข้อสังเกต:

  • แม้ว่าการได้รับรางวัลจะมีน้ำหนักทางสัญลักษณ์มาก แต่ไม่ได้แปลว่า “ความสำเร็จทางการเปลี่ยนแปลง” จะเกิดขึ้นทันที

  • ความสำเร็จของมาชาโดในเชิงสัญลักษณ์ต้องพึ่งพากลไกสนับสนุนภายในประเทศ — เช่น กลุ่มขับเคลื่อนภายใน สังคมพลเมือง สื่ออิสระ — สิ่งเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการ “แปลงสัญลักษณ์เป็นพลังจริง”


4. ข้อเสนอแนะและแนวทางในบริบทไทย

  1. เรียนรู้กรณีศึกษา (Comparative Learning):
    ไทยสามารถศึกษาแนวทางการต่อสู้ของมาชาโด — วิธีสร้างการรับรู้ระดับสากล — และนำมาปรับใช้เชิงยุทธศาสตร์ในประเด็นของตน

  2. เสริมกลไกสังคมพลเมือง:
    สนับสนุนองค์กรอิสระ สถาบันวิชาการ และสื่อที่ตรวจสอบอำนาจ เพื่อให้เสียงของผู้ที่เรียกร้องสิทธิได้รับการปะทะทางความคิด

  3. ส่งเสริมการเมืองแบบเปิด:
    รัฐบาลควรเปิดพื้นที่ให้การถกเถียงอย่างเสรี ตรวจสอบนโยบาย และส่งเสริมธรรมาภิบาล เพื่อให้การเมืองไทยเดินไปสู่ “สันติภาพทางการเมือง” ที่แข็งแรง

  4. เชื่อมโยงกับเวทีระหว่างประเทศ:
    ใช้กรณีระดับโลก เช่น มาชาโด ได้รับรางวัลโนเบล เป็นช่องทางสร้างแรงกดดันให้ไทยปรับนโยบายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพในการแสดงออก


5. สรุป

กรณี มาเรีย คอรินา มาชาโด ได้รับ รางวัลโนเบลสันติภาพ 2025 ถือเป็นเป้าหมายที่สะท้อนถึงคุณค่าของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย การยืนหยัดในเงื่อนไขที่ยากลำบาก และการได้รับการยอมรับในระดับโลก ซึ่งในแง่ของ สันติภาพทางการเมืองไทย สิ่งนี้เป็นบทเรียนสำคัญ: สัญลักษณ์ระหว่างประเทศสามารถเป็นแรงหนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางความคิดภายในประเทศ หากฝ่ายการเมืองและสังคมไทยรู้จักใช้ประโยชน์ และร่วมกันสร้างโครงสร้างที่เอื้อให้เกิดการต่อสู้โดยสันติ ปฏิรูป และพัฒนาไปสู่ระบบการเมืองที่เปิด โปร่งใส และยั่งยืน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นายกฯลาวดวงตาเห็นธรรมพุทธ หวังเสริมแกร่งเป็นฐานพัฒนาประเทศ

บทวิเคราะห์เชิงยุทธศาสตร์: นายกรัฐมนตรีลาวกับข้อเรียกร้องให้พระพุทธศาสนามีบทบาทที่แข็งแกร่งในกระบวนการพัฒนาประเทศ: พลวัตใหม่แห่งรัฐสังคมนิยม...