วันพุธที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2568

ยูเอ็นเกาะติด หลังบรรจุ "ธรรมะ" เป็นคำสากลครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ไทยเป็นเจ้าภาพเวที "Faith for Rights" จุดประกายศาสนา–สิทธิมนุษยชนสู่ระดับโลก


เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 เพจวัดบวรนิเวศวิหารรายงานว่า คณะอนุกรรมการศาสนาเพื่อสิทธิขององค์การสหประชาชาติ (UN Geneva) กว่า 40 คน เดินทางเข้าศึกษามิติทางพระพุทธศาสนาต่อสิทธิมนุษยชนและสิทธิศาสนา ณ ห้องประชุมชั้น 1 สภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อเตรียมนำองค์ความรู้ไปจัดทำนโยบายระดับสหประชาชาติว่าด้วย “สิทธิแห่งศาสนา”

ในวันเดียวกันนั้น (17 ต.ค.) ที่ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ (UNCC) กรุงเทพฯ สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ร่วมกับสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 (BGVI) มูลนิธิวีระภุชงค์ และเครือข่าย Dharma Alliance จากเมืองเจนีวา จัดการเสวนา “Faith for Rights” ประจำปี ครั้งที่ 6 ภายใต้หัวข้อ “สิทธิมนุษยชน ศรัทธา และธรรมะ: ผสานความเชื่อมั่นภายในสู่การปฏิบัติที่เป็นธรรม”  ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ยูเอ็นเปิดเวทีเสวนาระดับโลกว่าด้วย “ศรัทธาและสิทธิมนุษยชน” ในบริบทธรรมะโดยตรง

การประชุมมีผู้นำศาสนาและองค์กรสิทธิมนุษยชนจากนานาชาติร่วมกว่า 40 ประเทศ อาทิ Ms. Cynthia Veliko ผู้แทนภูมิภาคของ UN-OHCHR, Dr. Prashant Sharma ประธาน Dharma Alliance, นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รองประธานและรองเลขาธิการ BGVI, ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ รองประธานและเลขาธิการ BGVI และ พระพรหมศากยวงศ์วิสุทธิ์ (อนิลมาน ธมฺมสากิโย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร

“แถลงการณ์กรุงเทพฯ” : ธรรมะก้าวสู่ถ้อยคำสากลของโลก

เวลา 13.00 น. ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ ได้อ่าน “แถลงการณ์กรุงเทพฯ ว่าด้วยศรัทธา ธรรมะ และสิทธิมนุษยชน” โดยประกาศว่า **“สิ่งที่เรากำลังทำสามารถเปลี่ยนโลกได้”** พร้อมเรียกร้องให้ทุกศาสนาเดินหน้าด้วย ศีล และ ปัญญา เพื่อสันติของมนุษยชาติ

ภายหลังการประชุม ดร.สุภชัยเปิดเผยว่า การบรรจุคำว่า “ธรรมะ (Dhamma)” ในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการของสหประชาชาติ ถือเป็น “ครั้งแรกในประวัติศาสตร์”  ที่คำนี้ได้รับการยอมรับเป็นคำสากล (Universal Term) ของมนุษย์ทุกศาสนา มิใช่เฉพาะพุทธศาสนาเท่านั้น

“ไม่ใช่ธรรมะของชาวพุทธ แต่คือธรรมะของมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้” ดร.สุภชัย วีระภุชงค์

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า การนำ “ธรรมะ” เข้าสู่เวทีโลกคือความภาคภูมิใจของชาวสยามและลุ่มน้ำโขง เป็นการคืนคุณค่าจิตวิญญาณแก่บรรพชน และเตือนว่า “รู้ธรรมแต่ไม่ปฏิบัติ” คือปัญหาของโลกยุคใหม่ พร้อมเน้นว่า ผู้นำทุกระดับควรมี สัมมาทิฏฐิ  เพื่อแยกแยะสิ่งถูกผิด ไม่เช่นนั้นโลกอาจตกสู่สงคราม

“มาริษ เสงี่ยมพงษ์” ย้ำ “ธรรมะคือของทุกคน”

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รองประธาน BGVI ระบุว่า แถลงการณ์กรุงเทพฯ คือ “ชัยชนะของประเทศไทย” ที่ผลักดันให้คำว่า “ธรรมะ” กลายเป็นภาษากลางของมนุษยชาติ

 “เมื่อเราเข้าใจเขา เขาก็จะเข้าใจเรา นี่คือสัมมาวาทะ” นายมาริษกล่าว พร้อมเผย BGVI จะเดินหน้าร่วมมือกับยูเอ็นและองค์กรศาสนาต่าง ๆ เพื่อบูรณาการ “ธรรมะเพื่อสิทธิ” อย่างเป็นรูปธรรม

 “เจ้าคุณอนิลมาน” ท้วงยูเอ็น: เวทีศาสนาโลกขาดเสียงจากเอเชีย

พระพรหมศากยวงศ์วิสุทธิ์ (อนิลมาน ธมฺมสากิโย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาในคณะอนุกรรมการ “Faith for Rights” ของยูเอ็น ยัง “ไม่มีตัวแทนศาสนาจากเอเชียเลย” ถือเป็นความไม่สมดุลทางศาสนาในระดับโลก

 “เขามีเพียงศาสนาหลักจากยุโรป 2–3 ศาสนา แต่ไม่มีพุทธศาสนาอยู่ในรายชื่อ นี่คือความไม่เป็นธรรม” พระพรหมศากยวงศ์วิสุทธิ์ กล่าว

ท่านระบุว่า ได้ใช้โอกาสนี้ท้วงติงต่อคณะกรรมการยูเอ็นอย่างสุภาพ และเชิญให้มาศึกษาศาสนาในประเทศไทย ซึ่งเป็นศูนย์กลางธรรมะของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นับเป็นครั้งแรกที่คณะนี้เดินทางมาประชุมเชิงสำรวจในไทย

ศาสนาเพื่อสิทธิต้องก้าวข้าม “กฎหมาย”

พระพรหมศากยวงศ์วิสุทธิ์ ยังชี้ว่า แม้แนวคิดสิทธิมนุษยชนจะถือกำเนิดตั้งแต่ ค.ศ. 1948 แต่ปัจจุบันกลับถูกจำกัดด้วยตัวบทกฎหมาย “คนเกิดก่อนกฎหมาย แต่ถ้าไม่มีใบแจ้งเกิด ก็ไม่มีสิทธิ์เป็นคนไทย นี่คือความย้อนแย้ง” ท่านกล่าว

พร้อมเสนอว่า “สิทธิ” ต้องตั้งอยู่บนความรักและกรุณา ไม่ใช่บนระบบกฎหมายเพียงอย่างเดียว เพราะ “ตัวอักษรไม่อาจแทนหัวใจมนุษย์ได้” และย้ำว่า ศาสนาเพื่อสิทธิควรเปิดรับความหลากหลายดุจ “แจกันดอกไม้หลายสีที่งดงามร่วมกัน”

ไทยก้าวสู่ศูนย์กลาง “ธรรมะเพื่อสิทธิ” บนเวทีโลก

การประชุม “Faith for Rights” ครั้งนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ประเทศไทยผลักดัน “ธรรมะ” เข้าสู่เวทีสากลของสหประชาชาติ และเปิดประเด็นใหม่ว่าด้วย “ศาสนาเพื่อสิทธิ” ที่สะท้อนมิติทางจิตวิญญาณของมนุษย์ทุกเชื้อชาติ พร้อมเสียงสะท้อนจาก “เจ้าคุณอนิลมาน” ที่เรียกร้องให้ยูเอ็นเปิดพื้นที่ให้ศาสนาพุทธและศาสนาในเอเชียมากขึ้น เพื่อสร้างสมดุลแห่งศรัทธาและสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริง

ที่มา: มติชนออนไลน์ [https://www.matichon.co.th/local/religious/news_5416116](https://www.matichon.co.th/local/religious/news_5416116)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นายกฯลาวดวงตาเห็นธรรมพุทธ หวังเสริมแกร่งเป็นฐานพัฒนาประเทศ

บทวิเคราะห์เชิงยุทธศาสตร์: นายกรัฐมนตรีลาวกับข้อเรียกร้องให้พระพุทธศาสนามีบทบาทที่แข็งแกร่งในกระบวนการพัฒนาประเทศ: พลวัตใหม่แห่งรัฐสังคมนิยม...