บทความนี้มุ่งวิเคราะห์การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) เพื่อสร้างภาพและรื้อฟื้นความทรงจำทางอารมณ์ในกรณีศึกษาของ นางจำปา สมพงษ์ มารดาของ ดร.สำราญ สมพงษ์ นักวิชาการอิสระด้านพุทธสันติวิธี ซึ่งได้ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อจำลองและสร้างภาพใหม่จากภาพถ่ายเก่าของมารดาที่มีอยู่เพียงใบเดียว การศึกษานี้สะท้อนให้เห็นบทบาทของ AI ในฐานะเครื่องมือทางวัฒนธรรมและจิตวิทยา ที่สามารถ “ย้อนไปสู่ความทรงจำ” และ “เยียวยาจิตใจ” ผ่านการจำลองอดีตในรูปแบบดิจิทัล

1. บทนำ
ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ การใช้ AI เพื่อฟื้นฟูภาพอดีตและความทรงจำของบุคคลอันเป็นที่รักได้กลายเป็นแนวทางใหม่ทางสังคมและวัฒนธรรม ปรากฏการณ์นี้สะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่าง “เทคโนโลยี–อารมณ์–จิตวิญญาณ” อย่างลึกซึ้ง
กรณีของนางจำปา สมพงษ์ ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในชีวิตของดร.สำราญ สมพงษ์ นำเสนอภาพของการ “ย้อนรอยอดีตด้วยเทคโนโลยี” ที่มิได้เพียงแต่สร้างภาพให้เห็นเท่านั้น หากแต่สร้าง “พลังทางจิตใจ” ให้แก่ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วย
2. ประวัติและบริบทของกรณีศึกษา
นางจำปา สมพงษ์ เป็นมารดาของ ดร.สำราญ สมพงษ์ ซึ่งในวัยเยาว์ต้องอยู่วัดตั้งแต่เล็กและภายหลังเข้ากรุงเทพฯ เพื่อศึกษาต่อ จึงห่างเหินจากมารดาเป็นเวลานาน จนไม่ทราบข่าวคราวว่าท่านอยู่ที่ใด
ต่อมาเมื่อใกล้ถึงวัยบวช ดร.สำราญได้พยายามตามหามารดาและทราบว่านางจำปาอาศัยอยู่กับหลวงตาที่วัดแถบบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร จึงเดินทางไปพบและพาท่านมารักษาตัวที่กรุงเทพฯ หลังจากได้บวชลูกชายไม่นาน มารดาก็ถึงแก่กรรม
เหตุการณ์นี้กลายเป็นรากฐานทางอารมณ์และจิตวิญญาณของความสัมพันธ์แม่–ลูก ที่สะท้อนคุณค่าทางพุทธสันติวิธีอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะความเชื่อเรื่อง “บุญแห่งการบวชลูก” และ “การไปสู่ภพภูมิที่ดี”
3. บทบาทของ AI ในการย้อนไปสู่อดีต
ในยุคดิจิทัล ดร.สำราญได้ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อสร้างภาพของนางจำปา สมพงษ์ จากภาพถ่ายเก่าที่เหลืออยู่เพียงใบเดียว AI สามารถจำลองภาพของท่านในหลายลักษณะ ทั้งในวัยสาวและในชุดไทยโบราณ ซึ่งสะท้อนบุคลิก ความงาม และความสง่างามของท่านอย่างมีชีวิตชีวา
การสร้างภาพดังกล่าวมิได้มีเป้าหมายเชิงศิลปะเท่านั้น แต่ยังเป็นการ “เติมเต็มช่องว่างทางความทรงจำ” ที่ขาดหายไป เป็นการฟื้นคืน “ภาพของความรักและความกตัญญู” ผ่านเทคโนโลยี ซึ่งมีผลเชิงจิตวิทยาอย่างลึกซึ้ง
4. การวิเคราะห์เชิงพุทธสันติวิธี
แนวคิดพุทธสันติวิธี (Buddhist Peace Methodology) ที่ดร.สำราญเชี่ยวชาญ มองว่าความสงบมิได้เกิดจากการหลีกหนีอดีต แต่จากการทำความเข้าใจและปรองดองกับอดีตด้วยเมตตาและปัญญา
ในบริบทนี้ การใช้ AI เพื่อสร้างภาพของมารดา จึงเป็นการ “ปฏิบัติธรรมเชิงดิจิทัล” รูปแบบหนึ่ง ที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและธรรมะ เพื่อเยียวยาหัวใจผู้สูญเสีย และเป็นการระลึกถึง “พระคุณแม่” ในเชิงสัญลักษณ์อันสูงส่ง
AI จึงทำหน้าที่เป็น “สื่อกลางแห่งสันติภาพภายใน” ที่ช่วยให้มนุษย์เข้าใจความไม่เที่ยงของชีวิต พร้อมทั้งยอมรับความงามของความทรงจำที่ไม่อาจหวนคืน
5. การอภิปรายผล
กรณีศึกษานี้เปิดมิติใหม่ของการใช้ AI ในด้านจิตวิทยาและวัฒนธรรม กล่าวคือ
-
(1) AI เป็นเครื่องมือทางอารมณ์ (Emotional Technology) ที่ช่วยรักษาใจและเยียวยาความคิดถึง
-
(2) การสร้างภาพจากอดีตช่วยฟื้นฟู “อัตลักษณ์ทางครอบครัว” และ “ความสัมพันธ์เชิงกตัญญู”
-
(3) ในมิติทางพุทธศาสนา การรำลึกถึงผู้ล่วงลับผ่านสื่อดิจิทัลเป็นการสืบสานบุญและแสดงความเคารพอย่างร่วมสมัย
6. สรุป
การที่เอไอสามารถ “ย้อนรอยอดีตของนางจำปา สมพงษ์” ไม่ได้เป็นเพียงการสร้างภาพของบุคคลที่ล่วงลับเท่านั้น หากเป็นการสร้าง “พื้นที่แห่งการระลึกถึง” ที่หลอมรวมเทคโนโลยี ศิลปะ และจิตวิญญาณเข้าด้วยกัน บทเรียนนี้ชี้ให้เห็นว่า AI มิใช่เพียงเครื่องจักรทางข้อมูล แต่เป็นเครื่องมือแห่งความทรงจำ (Machine of Memory) ที่สามารถเชื่อมอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของความรักระหว่างแม่กับลูกให้เป็นหนึ่งเดียวได้อย่างงดงาม
เอกสารอ้างอิง
-
สำราญ สมพงษ์. (2568). แนวคิดพุทธสันติวิธีและการเยียวยาจิตใจในยุคดิจิทัล.
-
สมชาย วัฒนกุล. (2566). AI กับความทรงจำ: การศึกษาทางสังคมและจิตวิทยา. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์สังคมวิทยา.
-
วสันต์ ภัทรเมธา. (2567). เทคโนโลยีกับจิตวิญญาณมนุษย์. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์












ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น