วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2566

"สุดารัตน์" ลงลุยลาดพร้าว กทม.ฟังปัญหาพ่อค้าแม่ค้า ชูกองทุนคนตัวเล็กแก้หนี้นอกระบบ



"สุดารัตน์" ลงพื้นที่ต่อเนื่อง กลับจากเหนือ อีสานลุยลาดพร้าว กทม.ฟังปัญหาค้าขาย ให้กำลังใจพ่อค้าแม่ค้า พบ กำลังซื้อลด ยอดขายฝืด ชูกองทุนคนตัวเล็ก แก้หนี้ เติมทุน ให้คนตั้งตัวได้เร็วขึ้น 

วันที่ 18 มกราคม 2566   เวลา 18.30น.ที่ตลาดโชคชัยสี่ เขตบาดพร้าว คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย นายสุวงค์ จินตรักษ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตลาดพร้าว วังทองหลาง พรรคไทยสร้างไทย นายภัชริ นิจสินิภัช ว่าที่ผู้สมัครส.ส. เขตคลองสาน ธนบุรี พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่ชุมชนย่านโชคชัยสี่ และตลาดโชคชัยสี่ เขตลาดพร้าว กทม.เพื่อมาสำรวจราคาสินค้าและรับฟังปัญหาจากพี่น้องชาว กทม. โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ขาย รวมถึงให้กำลังใจพี่น้องชาวลาดพร้าว ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจฟืดเคือง ทำมาหากินอย่างยากลำบาก ต้นทุนการผลิต เช่นราคาไฟฟ้ายังพุ่งสูงต่อเนื่อง 

ซึ่งต่างดีใจ และต้อนรับอย่างอบอุ่น ทั้งยังได้ร่วมปรุงอาหารกับพ่อค้าแม่ขาย ได้รับของกินของใช้ของฝากจากพี่น้องชาวลาดพร้าว โดยเฉพาะร้านขายตุ๊กตาเฮงเฮง ได้มอบตุ๊กตาโดเรม่อนให้กับคุณหญิงสุดารัตน์ ซึ่งถือเป็นตุ๊กตาตัวโปรดด้วย ขณะเดียวกันคุณหญิงสุดารัตน์อยากได้อุดหนุนพ่อค้าแม่ขาย ทั้งอาหาร ขนมหวาน ของดีลาดพร้าวติดมือกลับบ้านด้วย 

คุณหญิงสุดารัตน์ระบุว่าการลงพื้นที่เขตลาดพร้าว อบอุ่นใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากคุ้นเคยกับพี่น้องในพื้นที่ เพราะเขตดังกล่าวถือเป็นพื้นที่เริ่มต้นทางการเมือง ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็ด้วยความไว้วางใจจากพี่น้องชาวลาดพร้าว ขณะเดียวกันรู้สึกภูมิใจที่หลายสิ่งหลายอย่าง ทั้งเส้นทางสัญจรระบบสาธารณูปโภคต่างๆที่ตนเองได้เริ่มต้นไว้ได้รับการพัฒนา 

หลังเดินตลาดและพบป่ะพี่น้องชาวลาดพร้าว สิ่งที่พี่น้องสะท้อนคือความยากลำบากในการค้าขายและเงินทุนหมุนเวียนที่เริ่มเกิดปัญหาตั้งแต่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งพรรคไทยสร้างไทย ได้วางนโยบายในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวไว้แล้ว โดยเฉพาะกองทุนเครดิตประชาชน หรือกองทุนคนตัวเล็ก ซึ่งตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อมอบเครดิตแก่ประชาชน ที่เข้าไม่ถึงแหล่งทุน ในการทำมาหากิน จนต้องไปพึ่งพิงหนี้นอกระบบ 

กองทุนนี้จะเป็น เครดิต ที่มอบให้ติดตัว สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ไม่เกินร้อยละ 1 ต่อเดือน ด้วยกระบวนการสินเชื่อที่แตกต่าง จากสถาบันการเงินทั่วไป จะช่วยสร้างพลังและปลดปล่อยคนไทย หลุดพ้นจากอุปสรรคทางการเงินให้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้ และเงินในส่วนนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่สูญเปล่าเหมือนการแจกเงินในปัจจุบัน จะทำให้พี่น้องพ่อค้าแม่ขาย สามารถลุกขึ้นมาทำมาหากินได้เร็วที่สุด แข็งแรงที่สุดอีกครั้ง 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์แนวนโยบายเชิงรุกในการป้องกันและคุ้มครองพระพุทธศาสนาที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มอบสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติดำเนินการ

  วิเคราะห์แนวนโยบายเชิงรุกในการป้องกันและคุ้มครองพระพุทธศาสนาที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มอบสำนักงานพระพุทธศาสนาแ...