“We Fair” บุก “สร้างอนาคตไทย” ยื่นหนังสือข้อเสนอชุดนโยบายรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า “อุตตม-สนธิรัตน์” นำทีมคณะผู้บริหารพรรคเข้ารับ ยาหอม ชุดนโยบายหลายด้านสอดคล้องกับพรรค-เชิญร่วมถกเชิงลึก ตกผลึกเป็นนโยบายต่อไป จากนั้นนำทีมคณะผู้บริหาร ถกผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. กว่า 40 คน สุดคึกคัก ย้ำ จุดยืนพรรคคืออาสามาทำงานเพื่อประชาชน
เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2566 เวลา 13.00 น. ที่ทำการพรรคสร้างอนาคตไทย ดร.อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมด้วย นายวิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรคและผู้อำนวยการพรรค นายนริศ เชยกลิ่น รองหัวหน้าพรรค และโฆษกพรรค ศ.ดร.กำพล ปัญญาโกเมศ รองหัวหน้าพรรค และนายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรค รับหนังสือข้อเสนอนโยบายสวัสดิการแห่งรัฐ จากกลุ่มเครือข่ายรัฐสวัสดิการเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม (WE FAIR) นำโดยนายนิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ ผู้อำนวยการเครือข่าย พร้อมด้วยผู้ร่วมเครือข่ายอีกกว่า 10 คน
โดย ดร.อุตตม กล่าวว่า ตนขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมนำเสนอความคิดกันในวันนี้ พรรคสร้างอนาคตไทยเป็นพรรคใหม่ แต่เป็นพรรคที่เปิดกว้างให้กับทุกคนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็นภาคการเมือง ภาคประชาสังคม ภาคธุรกิจ เป็นต้น โดยนโยบายของพรรคสร้างอนาคตไทย เรามุ่งเน้นการระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ไม่ใช่การเขียนนโยบายจากคนของพรรคเท่านั้น และเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำเราถือเป็นหัวใจและนโยบายหลักของพรรค ซึ่งจะเห็นได้ว่า นโยบายของพรรคจะเริ่มจากฐานรากเสมอ ซึ่งประเทศไทยจะพัฒนาได้อย่างยั่งยืนและตอบโจทย์ความเป็นอยู่ที่ดีของคนไทยหรือไม่ เราต้องเริ่มจากความเข้มแข็งของฐานราก ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สังคม และรัฐสวัสดิการที่ต้องครอบคลุมอย่างถ้วนหน้า หากทางเครือข่ายมีโอกาสอยากให้ลองศึกษาชุดความคิดของพรรคสร้างอนาคตไทย ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่กลุ่มเครือข่ายนำเสนอ
“เรื่องรัฐสวัสดิการที่ท่านนำเสนอมา พรรคสร้างอนาคตไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่ง และทีมเรามีประสบการณ์ขับเคลื่อนนโยบายด้านนี้โดยตรงมาแล้ว เรารู้ว่าสามารถทำได้ และจะจัดสรรบริหารงบประมาณอย่างไรให้รองรับเพียงพอ ซึ่งงบประมาณปัจจุบันต้องได้รับการปฏิรูปเพื่อให้ตอบโจทย์เรื่องการดูแลรัฐสวัสดิการให้ครอบคลุม ผมเห็นด้วยกับ We FAIR ว่าคนไทยจะต้องเข้าถึงรัฐสวัสดิการในรูปแบบที่เหมาะสม และเพียงพออย่างถ้วนหน้า เช่น การศึกษา การสาธารณสุข เป็นต้น” ดร.อุตตม กล่าว
ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคสร้างอนาคตไทย เป็นมือเศรษฐกิจ และมีทีมนักคิด นักวิชาการจำนวนมาก ซึ่งพรรคเราเปิดกว้างในการทำนโยบายที่ต้องคิดมาจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่แค่มาจากคนของพรรค ซึ่งเราจะนำชุดความคิดที่ท่านเสนอวันนี้มาพิจารณาในส่วนที่สอดคล้องกับนโยบายของพรรค ในอนาคตพรรคจะเชิญทางเครือข่ายมาแลกเปลี่ยนข้อมูล พรรคยินดีต้อนรับที่จะมาถกเชิงลึก หากตกผลึกนโยบายได้ สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ และการต่อสู้ของเครือข่ายจะไม่เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ อย่างไรก็ตาม การเดินสายของท่านเป็นสิ่งที่ดี และควรไปพบทุกพรรคการเมือง เพื่อให้ชุดความคิดที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน สามารถขับเคลื่อนให้เป็นนโยบายให้เกิดขึ้นจริงได้
ขณะที่นายนิติรัตน์ กล่าวว่า ทางเครือข่ายมีกิจกรรมเดินสายพบพรรคการเมือง 15 พรรค เพื่อนำเสนอชุดนโยบายด้านรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า โดยทางเครือข่ายได้เดินทางมาที่พรรคสร้างอนาคตไทยเป็นพรรคแรก ซึ่งชุดนโยบายดังกล่าวที่ทางเครือข่ายฯ นำมาเสนอมีทั้งหมด 9 ด้าน ได้แก่ 1. เงินอุดหนุนเด็ก เกิดไม่อด ลดรายจ่าย 2. การศึกษาฟรี ยกเลิกหนี้ มีเงินเดือน 3. ระบบสุขภาพ รวมสามกองทุน มาตรฐานเดียว 4. ที่อยู่อาศัยคุณภาพ เข้าถึงได้ 5. แรงงานมีคุณค่า มีเวลา ดูแลครอบครัว 6. ประกันสังคมครอบคุลม คุ้มค่า 7. บำนาญถ้วนหน้า อิสรภาพวัยเกษียณ 8. สวัสดิการเสมอหน้า เท่าเทียม และ 9.ปฏิรูปภาษี มีเงินเพิ่ม เติมงบสวัสดิการ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ ทางชุดนโยบายทั้ง 9 ด้านดังกล่าว ทางเครือข่ายต้องการขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน และลดความเหลื่อมล้ำที่สังคมเผชิญอยู่ในปัจจุบัน โดยหลังจากนี้ จะเดินสายเพื่อนำเสนอชุดนโยบายดังกล่าวไปยังพรรคประชาชาติ พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคอื่น ๆ ตามที่เราได้วางไว้ต่อไป
จากนั้น ดร.อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายวิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรค และผู้อำนวยการพรรค นายนริศ เชยกลิ่น รองหัวหน้าพรรค และโฆษกพรรค นายกำพล ปัญญาโกเมศ รองหัวหน้าพรรค นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรค และประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง ร่วมประชุมผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคสร้างอนาคตไทย โดยมีผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพฯ เข้าร่วมประชุมกว่า 40 คน
ดร.อุตตม กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองวันนี้อยู่ในโหมดเลือกตั้ง เข้าสู่โค้งสุดท้าย ทุกพรรคการเมืองกำลังปรับยุทธศาสตร์เข้าสู่สนามเลือกตั้ง ซึ่งพรรคสร้างอนาคตไทยก็เช่นกัน พื้นที่ กทม. เป็นอีกหนึ่งพื้นที่เป้าหมายที่พรรคปักธง เรามั่นใจว่ามีตัวผู้สมัครที่สู้ได้หลายเขต ที่สำคัญขอให้ทุกคนอย่าลืมเป้าหมาย ว่าพรรคสร้างอนาคตไทย ตั้งขึ้นมาเพื่ออาสาทำงานให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งเรามีทั้งทีมงานที่มีศักยภาพและความพร้อมของชุดนโยบายที่ตอบโจทย์ประเทศว่าจะต้องแก้ปัญหาอะไร และขับเคลื่อนการพัฒนาไปในทิศทางใด นั่นหมายถึงเรามีศักยภาพที่จะเข้าไปทำงานในรัฐบาลได้ พรรคเราเดินหน้ามาอย่างต่อเนื่องและจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคสู้อย่างเต็มที่อยู่แล้ว ที่สำคัญต้องวางกลยุทธ์ให้ดี และสอดคล้องกับจุดแข็งของพรรคในแต่ละพื้นที่ ซึ่งบางเขตเราอาจจะมุ่งเน้นไปที่คะแนนของตัวผู้สมัคร ขณะที่บางเขตต้องให้ความสำคัญกับคะแนนของบัญชีรายชื่อ อย่างไรก็ตาม พรรคพร้อมจะเดินหน้าไปกับผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัครทุกคน ที่ผ่านมาเราได้โอกาสทำงานเชิงพื้นที่กันมาเกือบ 1 ปี รู้ข้อมูลพื้นที่เป็นอย่างดี นับเป็นข้อดีที่จะเป็นจุดแข็งให้เราสามารถขับเคลื่อนต่อกับคู่แข่งในแต่ละพื้นที่ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น