ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

"ท่านขาว" กับงานฟื้นฟูพระพุทธศาสนา และร่วมกันเสริมสร้างสันติสุขในจชต.๒๕๖



เมื่อวันที่ ๘  กันยายน ๒๕๖๖ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานฟื้นฟูพระพุทธศาสนา และร่วมกันเสริมสร้างสันติสุขในจชต. ของพล.อ.มณี จันทร์ทิพย์ ที่ปรึกษา กอ.รมน.ภาค ๔ สน./เลขาธิการศูนย์พัฒนาและส่งเสริมพระพุทธศาสนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศสพ.จชต.) ตั้งแต่วันที่  ๑ - ๔ กันยายน ๒๕๖๖ มีดังนี้

เมื่อวันที่  ๑ ก.ย. ๖๖ เวลา ๑๓.๓๐ – ๑๖.๓๐ น. พล.อ.มณี จันทร์ทิพย์  หรือท่านขาว ที่ปรึกษา กอ.รมน.ภาค ๔ สน./เลขาธิการศูนย์พัฒนาและส่งเสริมพระพุทธศาสนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศสพ.จชต.)  เป็นประธานการประชุมการแก้ไขปัญหาที่ธรณีสงฆ์ ในพื้นที่ จ.ปัตตานี  โดยผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย พระครูโฆสิตสุตาภรณ์ หน.ฝ่ายแผนและโครงการพิเศษ ศูนย์พัฒนาฯ, พระครูสมุห์บุญมา อาทโร ฝ่ายเผยแผ่ศูนย์พัฒนาฯ, พระอาจารย์เฉี้ยง ,นายกุศล  ขุนดำ ผช.เลขาธิการศูนย์พัฒนาฯ, พ.อ.พีระยุทธ ชุมโคตร เสธ.ศปพร. และฝ่ายอำนวยการ, คณะทำงานฯ ที่ ๒ และฝ่ายอำนวยการ, ผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปัตตานี, สำนักงานที่ดินจังหวัดปัตตานี, สำนักจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ ๙ จังหวัดปัตตานี, ป่าไม้จังหวัดปัตตานี, สำนักงานทรัพยากรณ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดปัตตานี  เข้าร่วมประชุม ณ  ห้องประชุม ศปพร. ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ผลการประชุมสรุปดังนี้ 



 ๑. วัด/สำนักสงฆ์/ที่พักสงฆ์ ในพื้นที่ จ.ยะลา มีปัญหาไม่มีเอกสารสิทธิ์ จำนวน ๙ แห่ง   ๒. ผลการดำเนินการ ตามข้อ ๑ ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว จำนวน ๒ แห่ง, อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน ๔ แห่ง และรอดำเนินการ จำนวน ๓ แห่ง ในเรื่องเอกสาร, การลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง และมติที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าจังหวัดปัตตานี เพื่อใช้ประกอบเอกสารนำเสนอขออนุมัติใช้พื้นที่เพื่อตั้งวัดให้ถูกต้องตามระเบียบต่อไป   ๓. รวบรวมเอกสารตามข้อ ๒ นำเสนออธิบดีกรมป่าไม้เพื่อพิจารณาต่อไป 

 เมื่อวันที่  ๒ ก.ย. ๖๖ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๑.๓๐ น. พล.อ.มณี จันทร์ทิพย์  เป็นประธานถวายสลากภัต(ประเพณีดั้งเดิม) แด่พระภิกษุ ณ วัดเกาะอภินิหาร(กุหร่า) บ้านสวนโอน หมู่ที่ ๖ ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา  ผู้ร่วมพิธีประกอบด้วย พระสงฆ์ภิกษุสงฆ์, สามเณรวัดเกาะอภินิหาร(กุหร่า) จำนวน ๗ รูป, พระครูโฆสิตสุตาภรณ์ , พระครูสังฆรักษ์วรรชระพล เจ้าอาวาสวัดบ้านดี, นายวิชิต  กิจจะเสน และนายนพรุจน์ แก้วรุ่งเรือง, ฉก.สงขลา ๔๐, คณะทำงานฯ ที่ ๔, ร.ต.อ.เจษฎาพร เพ็งลาย ผจก.ฟาร์มควนหรัน, คณะกรรมการวัด และพุทธศาสนิกชน  ร่วมพิธีประมาณ ๕๐ รูป/คน พร้อมทั้งถวายยาแก่พระคุณเจ้าทั้ง ๘ รูป และถุงยังชีพแก่ผู้ยากไร้ จำนวน ๑๒ ครอบครัว 



เวลา ๑๒.๓๐ – ๑๔.๐๐ น. ประชุมการฟื้นฟูวัดเกาะอภินิหาร(กุหร่า)  มีประเด็นสำคัญ ดังนี้ ๑. แผนการก่อสร้างศาลาการเปรียญ, งบประมาณที่ต้องใช้, ระยะเวลาก่อสร้าง ฯลฯ ๒. การแก้ไขปัญหาที่ดินรอบวัด จำนวน ๔ ราย โดยคณะกรรมการฟื้นฟูวัดกุหร่าร้าง จะมอบเงินค่าตอบแทนน้ำใจให้กับราษฎรที่ยินดีคืนที่ดินให้วัดฯ  ๓. ความคืบหน้าการฟื้นฟูวัดร้างให้มีสภาพเป็นวัดปกติ ปัจจุบัน เอกสารอยู่ระหว่างการพิจารณาของกรรมการเถระสมาคม หากได้รับความเห็นชอบสำนักงานพระพุทธศาสนาจะแจ้งให้คณะปกครองสงฆ์ทราบ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป  ๔. การปรับเปลี่ยนเส้นทางเข้าวัดฯ ได้ประสานกับผู้ประกอบการจะนำเครื่องจักรกลมาปรับ/กรุยแนวเส้นทางตามที่เจ้าอาวาสกำหนด โดยไม่กระทบต่อพุทธสถานและบ่อน้ำโบราณ ๕. เตรียมการทอดกฐินและประเพณีลอยกระทง ในวันที่ ๒๗ พ.ย. ๖๖ โดยภาคเช้าจะประกอบพิธีทอดกฐิน (ให้ ร.ต.อ.เจษฎาพร เพ็งลาย จัดหาเจ้าภาพกฐิน) สำหรับช่วงบ่าย-เย็น จัดงานลอยกระทง โดยใช้อ่างเก็บน้ำบริเวณวัดฯ ในการจัดกิจกรรม 

  ๖. ขอให้ ร.ต.อ.เจษฎาพร เพ็งลาย ประสานสำนักศิลปากรที่ ๑๑ สงขลา เพื่อออกแบบสถูป/เจดีย์ขนาดเล็ก เพื่อเป็นสัญญาลักษณ์ของวัดฯ แห่งนี้ รวมทั้งออกแบบสถานที่เก็บอัฐิของอดีตเจ้าอาวาสและสมเณรที่ละสังขารไปแล้ว รวมทั้งประสานสำนักศิลปากรที่ ๑๑ สงขลา ในการออกแบบในการพัฒนาวัดฯ และงบประมาณในการก่อสร้างฟื้นฟูบูรณะวัดฯ ให้มีความสมบูรณ์ต่อไป  

ต่อมาเวลา ๑๔.๓๐ – ๑๕.๓๐ น. พล.อ.มณี จันทร์ทิพย์  เป็นประธานการประชุมพบปะหารือแนวทางระดมทุนจัดซื้อที่ดินถวายเป็นที่ธรณีสงฆ์ ให้แก่ที่พักสงฆ์พฤกษาธรรมมาราม รวมทั้งปัญหาของชุมชน ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย หัวหน้าที่พักสงฆ์พฤกษาธรรมมาราม, พระครูโฆสิตสุตาภรณ์ หน.ฝ่ายแผนและโครงการศูนย์พัฒนาฯ, พระครูสังฆรักษ์วรรชระพล เจ้าอาวาสวัดบ้านดี, นายวิชิต  กิจจะเสน และนายนพรุจน์ แก้วรุ่งเรือง คณะกรรมการศูนย์พัฒนาฯ, รอง ผบ.ฉก.สงขลา, ฉก.สงขลา ๔๐, คณะทำงานฯ ที่ ๔, ร.ต.อ.เจษฎาพร เพ็งลาย ผจก.ฟาร์มควนหรัน, คณะกรรมการที่พักสงฆ์ฯ และชาวไทยพุทธบ้านปลักบ่อ ณ ที่พักสงฆ์พฤกษาธรรมมาราม บ้านปลักบ่อ หมู่ที่ ๒ ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา 

มีประเด็นสำคัญดังนี้ ๑. แผนระดมทุนเพื่อจัดซื้อที่ดิน จำนวน ๗ ไร่ ถวายเป็นที่ธรณีสงฆ์ ในวงเงิน ๒,๑๐๐,๐๐๐ บาท (มัดจำแล้ว ๑๐๐,๐๐๐ บาท) โดยกำหนดการระดมทุนทอดผ้าป่าสามัคคี (ให้ชุมชนจัดหาเจ้าภาพ, ทุกครอบครัวเข้ามามีส่วนร่วม) เปิดรับบริจาคสาธารณะ และหลัง ๑๖ ก.ย. ไปแล้ว ศูนย์พัฒนาฯ จะเข้ามาประชุมหารือประสานงานอีกครั้ง  ๒. ปัญหาระบบไฟฟ้า, การขยายเขตไฟฟ้ายังไม่ครอบคลุมทุกครัวเรือน (ครัวเรือนมีจำนวนต่ำกว่า ๕๐ ครอบครัว) ไม่เข้าหลักเกณฑ์ในการขยายเขตไฟฟ้า ซึ่งต้องหาวิธีการพิเศษ/เหมาะสมต่อไป  ๓. น้ำกัดเซาะตลิ่งและปัญหาน้ำท่วม(ไม่เกิดทุกปี) ศูนย์พัฒนาฯ จะได้เสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแก้ไขต่อไป 

 ๔. ขอให้ชุมชนแต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนชุมชน เพื่อเป็นองค์กรในการวางแผนประสานงาน, ในการพัฒนาชุมชนทุกมิติ, ด้านความมั่นคงและการพัฒนา ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของชาวบ้าน โดยบูรณาการหน่วยงานภาครัฐ, เครือข่าย/ราษฎรในพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้มแข็งและคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ชุมชนสืบไป 

เมื่อวันที่  ๓ ก.ย. ๖๖ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๑.๓๐ น. พล.อ.มณี จันทร์ทิพย์ , รอง ผวจ.นราธิวาส, ผกก.ภ.นราธิวาส ร่วมเป็นประธานฝ่ายฆราวาส, โดยมีรองเจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ตามโครงการคุณธรรมพัฒนาบุคลิกภาพและบริหารจิต, พิธีเจริญพุทธมนต์ และบำเพ็ญกุศลทักษิณานุประทาน เพื่ออุทิศถวายพระบูรพาจารย์ สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า พระสยามเทวาธิราช ทหาร ตำรวจ ครู และพลเรือน ที่เสียสละเลือด เนื้อ เสียชีวิตจากสงครามโลก, เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ จชต. และทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบทุนก่อสร้างศาลาการเปรียญ “ราชานุสรณ์” ในระยะเวลาที่ ๒ งานคานคอดิน, ถมดิน และปูพื้นอาคาร ใช้เงินในการก่อสร้างประมาณ ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท  โดยได้ปัจจัยประมาณ ๔๐๔,๑๓๖ บาท (ยอดขั้นต้น) 

@siampongnews #หนังสือสวดมนต์กระแตปกแข็ง ♬ Dj Jalan Pargoy X Goyang Jaypong - DJ MIFTAH

ผู้เข้าร่วมพิธีประกอบด้วย พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์และพระเถรานุเถระ ในพื้นที่ จ.นราธิวาส จำนวน ๗๗ รูป, พระครูโฆสิตสุตาภรณ์ หน.ฝ่ายแผนและโครงการศูนย์พัฒนาฯ, พระครูสมุห์บุญมา อาทโร หน.ฝ่ายเผยแผ่ศูนย์พัฒนาฯ, นายวิชิต  กิจจะเสน และนายนพรุจน์ แก้วรุ่งเรือง คณะกรรมการศูนย์พัฒนาฯ, ผบ.ฉก.ทพ.๔๙ และกำลังพล, ตร.ภ.นราธิวาส, หน.ส่วนราชการ จ.นราธิวาส, คณะกรรมการที่พักสงฆ์สายสุวรรณาราม และพุทธศาสนิกชน เข้าร่วมพิธีประมาณ ๖๐๐ รูป/คน 

พร้อมทั้งประชุมหารือการขับเคลื่อนงานพระศาสนาในพื้นที่ อ.สุคิริน และตรวจพื้นที่การก่อสร้างศาลาราชานุสรณ์ ณ ที่พักสงฆ์สายสุวรรณาราม บ้านไอร์บาโจ ต.ภูเขาทอง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส  การประชุมติดตามและประเมินผลการดำเนินงานชุมชนเป้าหมายแผนงานพัฒนาสังคมพหุวัฒนธรรมฯ ปี 2566

เมื่อวันที่  ๔ ก.ย.๖๖ พ.ท.ภูมิภาธร  ธนดรพลมาตร ผู้แทนศูนย์พัฒนาและส่งเสริมพระพุทธศาสนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศสพ.จชต.)  ร่วมกับมวลชนเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติชายแดนใต้ และคณะครู-นักเรียน รร.พระราชดำริ (ศูนย์ครูใต้) จังหวัดปัตตานี จัดกิจกรรม “ปาก๊ะตูลง ร่วมแรงสามัคคี ครั้งที่ ๗” ณ แปลงเกษตรของสมาชิกในพื้นที่ บ.เนียง ต.เปาะเส้ง อ.เมือง จ.ยะลา  โดยในครั้งนี้ ได้ร่วมกันสร้างฝายชะลอน้ำ ให้เป็นการเรียนรู้ด้วยการลงมือทำ อีกทั้งส่งเสริมการอนุรักษ์ธรรมชาติโดยเฉพาะแหล่งน้ำธรรมชาติและป่าไม้ให้คงอยู่เป็นที่พึ่งพิงของคนในชุมชนตลอดไป

เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๕.๐๐ น. พล.อ.มณี จันทร์ทิพย์  ร่วมประชุมติดตามและประเมินผลการดำเนินงานชุมชนเป้าหมายแผนงานพัฒนาพหุสังคมพัฒนธรรมที่เข้มแข็งและเสริมสร้างการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖ ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย พระครูสมุห์บุญมา อาทโร หน.ฝ่ายเผยแผ่ศูนย์พัฒนาฯ, นายวิชิต  กิจจะเสน และนายนพรุจน์ แก้วรุ่งเรือง คณะกรรมการศูนย์พัฒนาฯ, สมาพันธ์ไทยพุทธจังหวัดสงขลา, สำนักปลัดกระทรวงวัฒนธรรม, กรมการศาสนา, ทบ., กอ.รมน.ภาค ๔ สน., รอง ผบ.ฉก.สงขลา, คณะทำงานฯ ที่ ๔ สงขลา, ฉก.สงขลา ๔๐, วิทยาลัยชุมชนสงขลา, สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสงขลา, ศูนย์การขับเคลื่อนการศึกษาจังหวัดชายแดนใต้, ปลัด อ.สะบ้าย้อย  ณ ฟาร์มตัวอย่างฯ บ้านควรหรัน หมู่ที่ ๒ ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา มีประเด็นที่สำคัญดังนี้ 

@siampongnews มุ้งคอกเลี้ยง#ตั๊กแตน ♬ Tere Baad Nazar Nhi Aati Koi Manjil - Deepak Kurai

 ๑. ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายแผนงานพัฒนาสังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็งและเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน (พ.ศ. ๒๕๖๖ - ๒๕๗๐)  ๒. การขับเคลื่อนโครงการ/กิจกรรม ของส่วนราชการภายใต้แผนงานพัฒนาสังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็งฯ ปี ๒๕๖๖ ในชุมชนบ้านควนหรัน หมู่ที่ ๒ ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา   ๓. การประเมินผลการดำเนินงานในชุมชนเป้าหมาย ตามตัวขี้วัด ๔. หารือแนวทางการขับเคลื่อนโครงการ/กิจกรรมในชุมซนเป้าหมาย ปัญหาและข้อเสนอแนะ


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รากและเถาตำลึงตากแห้งสรรพคุณเพียบ

วันนี้ 17 กรกฏาคม 2562 สำหรับประโยชน์ของตำลึงด้านการบำรุงร่างกายและการรักษาโรค สามารถใช้ประโยชน์ได้จาก ใบตำลึง ลำต้นตำลึง และ รากตำลึง รายละเอียด ดังนี้ ใบตำลึง สรรพคุณช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเสื่อมความเซลล์ในร่างกาย ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยป้องกันมะเร็ง ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคโลหิตจาง บำรุงหัวใจ บำรุงกระดูกและฟัน บำรุงสายตา บำรุงเลือด บำรุงน้ำนมแม่ ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยดับพิษร้อน ลดความร้อนในร่างกาย  แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ขับพิษในลำไส้ แก้ท้องผูก ช่วยแก้ผดผื่นคัน รักษาพิษแมลงสัตว์กัดต่อย รักษาฝี รักษาแผลอักเสบ ป้องกันตะคริว รากตำลึง สรรพคุณช่วยลดไข้  แก้อาเจียน บำรุงสายตา เป็นยาระบาย แก้อักเสบ รักษาแผลอักเสบ ลำต้นตำลึง สรรพคุณแก้อาการวิงเวียนศีรษะ แก้อาการตาแดง ลดอาการตาช้ำ ดอกตำลึง สรรพคุณแก้ผดผื่นคัน เมล็ดตำลึง สรรพคุณแก้หิด โทษของตำลึง ตำลึงมีสรรพคุณเป็นยาเย็น หากนำน้ำตำลึงมาทาที่ผิวหนังแล้วไม่รู้สึกเย็น แปลว่า ไม่ถูกโรค ให้หยุดใช้ทันที เพราะ จะทำให้เกิดอาการอักเสบเพิ่มมากขึ้น ตำลึง มีทั้ง ตำลึงตัวผู้ และ ตำลึงตัวเมีย ตำลึงตัวเม

พระปิดตายันต์ยุ่งมหาอุตโม หลวงปู่ทิม เนื้อทองคำ จากรังของ นายกฯกิตติ "เจ้ากรมพระหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่"

พระปิดตายันต์ยุ่งมหาอุตโม หลวงปู่ทิม อิสริโก จัดสร้างเพื่อหารายได้ สร้างหอฉันอุตตโม ออกแบบโดยช่างเกษม มงคลเจริญ ประกอบด้วย เนื้อทองคำ ๑๙ องค์ เนื้อเงิน ๒๙๕ องค์ เนื้อนวโลหะ ๒๕๑๘ องค์ โดยสร้างตามจำนว พ.ศ. หรือปีที่สร้าง คือ ๒๕๑๘ เนื้อนวโลหะกะไหล่ทอง ไม่ระบุจำนวนสร้าง เนื้อตะกั่ว ๑๐,๐๐๐๐ องค์...... พระปิดตายันต์ยุ่งมหาอุตโม เป็นพระปิดตาที่หลวงปู่ทิม ท่านปลุกเสกนานมากถึง ๗ เดือน เหตุในการสร้างพระปิดตารุ่นนี้คุณชินพร สุขสถิตย์ได้จัดสร้างพระปิดตามหาอุตตโมขึ้น มาก็เพื่อนำรายได้มาสร้างหอฉันเพื่อให้พระเณรในวัดละหารไร่ได้ใช้ประโยชน์และเป็นถาวรวัตถุในพระพุทธศาสนา โดยพระชุดนี้ได้นายช่างเกษม เป็นผู้ออกแบบ การสร้างพิมพ์พระปิดตายันต์ยุ่งสมัยนั้นต้องเอาเทียนมาคลึงเป็นเส้นๆ แบบเส้นขนมจีน แล้วจึงเอาขดกัน เป็นองค์พระปิดตาและอักขระเลขยันต์กว่าจะสร้างได้หรือหล่อ ได้แต่ละองค์ต้องใช้เวลามากและพระที่ได้มักไม่งดงาม ดังนั้นพระปิดตาอุตโมรุ่นนี้นี้นายช่างเกษมจึงแกะจากหินอ่อนเป็นแม่แบบ ทำให้หล่อได้ปริมาณมาก โดยครั้งแรกจัดสร้างเป็นเนื้อนวะโลหะเมื่อเปิดจองแล้วปรากฎว่าหมดอย่างรวดเร็วจนได้เ

ฮือฮา! "ครม.ฮุน มาเนต" ตั้งอดีตสมเด็จพระราชาคณะเพิ่งสึกเป็นเลขาฯก.ต่างประเทศ

วันที่ 22 สิงหาคม 2566 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานโดยอ้างแถลงการณ์ของนายเฮง สัมริน อดีตประธานสมัชชาแห่งชาติ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกัมพูชา ในการประชุมรัฐสภาชุดใหม่ของกัมพูชา ซึ่งมีขึ้นในวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ที่ระบุว่า พลเอก ฮุน มาเนต ซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของ สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่แห่งประเทศกัมพูชา อย่างเป็นเอกฉันท์ โดยนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต กล่าวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกัมพูชา หลังการลงมติว่า วันนี้ ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ของกัมพูชา @siampongnews ฮือฮา! ครม. #ฮุนมาเนต ตั้ง อดีตสมเด็จพระราชาคณะเพิ่งสึก ดำรงตำแหน่งเลขาฯ ก.ต่างประเทศ #ข่าวtiktok #tiktokshopครีเอเตอร์ ♬ เสียงต้นฉบับ - ดร.สำราญสมพงษ์นักข่าวป.ธ.5 ทั้งนี้ พรรคประชาชนกัมพูชา หรือ ซีพีพี ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้ง เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย เนื่องจากพรรคฝ่ายค้าน ถูกตัดสิทธิลงเลือกตั้งในครั้งนี้  พร้อมกันนี้นางควน สุดารี ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาแห่งชาติ วาระใหม่ 5 ปี และเป็นนักการเมืองหญิง