วันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม 2566 เวลา 13.00 น. ที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร จังหวัดสกลนคร ดร.นิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎ ได้จัดสัมมนา เรื่องการจัดทำและบริหารงบประมาณเพื่อส่งเสริมพระพุทธศาสนาและพัฒนาบุคลากรจังหวัด สกลนคร ประจำปี 2566
ดร.นิยม กล่าวว่า ทั้งนี้คณะกรรมาธิการฯ ได้เล็งเห็นว่าสถาบันศาสนา วัดและพระสงฆ์ ถือเป็นศูนย์รวมและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชน เพราะพระสงฆ์นอกจากจะมีบทบาท เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ คุณธรรม และจริยธรรมของคนในสังคม แล้วพระสงฆ์ ยังมีบทบาทต่อสังคมส่วนรวมในด้านต่างๆ เช่น การพัฒนาสังคม การสังคมสงเคราะห์ ผู้ตกทุกข์ได้ยากในยามวิกฤติก็ช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม และพระสงฆ์ ยังมีบทบาทต่อการเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา ซึ่งจะช่วยสร้างสังคมให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
"และตลอดหลายปีการบริการจัดการวัดและพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พุทธศักราช 2505 มาตรา 33 แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ประกอบด้วย ศาสนาสมบัติกลาง คือ ทรัพย์สินของกรมการศาสนาซึ่งมิใช่ของวัดใดวัดหนึ่ง และศาสนสมบัติของวัด คือ ทรัพย์สินของวัดใดวัด หนึ่ง การนี้ การดูแลรักษาและจัดการศาสนสมบัติกลางให้เป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนา แห่งชาติ ส่วนการดูแลรักษาจัดการศาสนสมบัติของวัด ให้วัดเป็นผู้จัดการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ซึ่งต้องมีขอบข่ายครอบคลุมการดูแลจัดการและการจัดหาประโยชน์ในที่วัด ที่พื้นที่ใช้ประโยชน์ และศาสนสมบัติอื่น ๆ ของวัดด้วย" ดร.นิยม กล่าวและว่า
ดังนั้นวัด พระสงฆ์ไวยาวัจกรและ ประชาชนทั่วไปผู้ที่เกี่ยวข้องในการการจัดการเงินและทรัพย์สินของวัดต้องมีความรู้ ความเข้าใจ ในการการบูรณาการหรือการจัดการด้านงบประมาณและเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างคณะกรรมาธิการฯ กับคณะสงฆ์ไวยาวัจกรและ ประชาชนทั่วไป ในด้านการบูรณาการงบประมาณแผ่นดินเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนกิจการคณะสงฆ์และกิจการในพระพุทธศาสนาทั้ง 6 ด้านคือ ด้านการปกครอง ด้านการศาสนา ศึกษา ด้านการศึกษาสงเคราะห์ ด้านการเผยแพร่พระพุทธศาสนา ด้านการสาธารณูปการ และด้าน สาธารณสงเคราะห์มีการจัดหมวดหมู่ทรัพย์สินของวัด ที่เรียกว่า ศาสนสมบัติ ด้วย
ดร.นิยม กล่าวด้วยว่า การจัดสัมมนาครั้งนี้ จึงอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนเข้ามาร่วมฟังกันเยอะๆ เพราะเราได้เชิญวิทยากรที่มีองค์ความรู้หลายหลากสาขา ได้แก่ พระเทพโสภณ (ปรีชา อภิวณฺโณ ป.ธ.9) เจ้าคณะภาค 8 เจ้าอาวาสวัดราชบูรณราชวรวิหาร, นายสมเด็จ จุลราช ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดขอนแก่น ส.ส.ดร.เพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองประธานคณะกรรมาธิการศาสนา ศิลปและวัฒนธรรม , ผศ.ดร.เมธาพันธ์ โพธิ์ธีรโรจน์ , ดร.ณพลเดช มณีลังกา เป็นต้น เพราะการที่ทุกคนมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการจัดทำ ติดตาม และการบริหารงบประมาณ ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ปัญหาต่างๆที่ประสบอย่างที่ผ่านมาก็จะลดน้อยลงอย่าให้งบประมาณของชาติสูญเปล่าไปในแต่ละปีโดยทีไม่ได้รับการแก้ไขอย่างสร้างสรรค์เลยครับ จึงอยากให้ทุกคนเข้ามาร่วมฟังการสัมมนาในวันนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น