เตรียม Kick off พาณิชย์ลดราคา!ยกทัพสินค้าร่วม 1,000 รายการ ลดสูงสุด 60% ขายถูกทั่วกรุงเทพฯ เริ่มบางขุนเทียน 16-18 ม.ค.นี้
วันที่ 16 มกราคม 2566 เวลา 11.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวประเด็นความคืบหน้าการแก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมัน ที่บริเวณด้านข้างสํานักงานเขตบางขุนเทียนว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาเกิดการติดขัดเกษตรกรชาวสวนปาล์มนำปาล์มไปขายที่โรงสกัดและลานเท แต่เกิดการหยุดรับซื้อหรือชะลอการรับซื้อ สาเหตุเกิดขึ้นเพราะทุกปีที่ผ่านมาในช่วงนี้ผลปาล์มจะออกเป็นปริมาณน้อย เป็นสาเหตุที่ทำให้โรงสกัดปิดซ่อมบำรุง แต่ปีนี้มีปริมาณผลปาล์มจำนวนมาก แต่โรงสกัดปิดซ่อมเหมือนทุกปีที่ผ่านมา จึงทำให้เกษตรกรที่นำปาล์มไปขายที่ลานเทโรงสกัด เกิดการจราจรติดขัด และโรงสกัดไม่สามารถรับซื้อได้ ก็ส่งผลให้ลานเทก็รับซื้อไม่ได้ แต่ขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เพราะตนได้สั่งการให้อธิบดีกรมการค้าภายในและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้ลงไปเร่งแก้ปัญหา ในช่วง2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
โดย 1.ให้โรงสกัดหยุดซ่อมเครื่อง ยกเว้นที่กำลังซ่อมอยู่ก็ให้ซ่อมให้เร็วที่สุด 2. ถ้ายังไม่ซ่อม ให้หยุดซ่อมและให้รับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรตามปกติไปก่อน 3.ให้แจ้งแผนการซ่อมให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและกรมการค้าภายในทราบแผนการซ่อมว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ เพื่อที่จะได้อนุญาตให้ซ่อม แต่ไม่ซ่อมพร้อมๆกัน เพราะจะกระทบทำให้เกษตรกรขายปาล์มไม่ได้
ปรากฏว่าขณะนี้โรงสกัดได้หันกลับมาซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรชาวสวนปาล์มทั้งชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง กระบี่ พังงา ทั้ง 6 จังหวัด มีทั้งหมด 61 โรงขณะนี้เปิดรับซื้อ 60 โรง จึงเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้เข้าไปแก้ปัญหาตามที่ตนมอบหมายไป พร้อมกันนี้ตนยังได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานกรรมการที่ดูแลเรื่องนี้ ให้ตรวจสอบหากใครทำผิดกฏหมายให้ดำเนินคดีตามมาตรา 29 คือ ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับในข้อหาสร้างความปั่นป่วนเรื่องราคา
“ซึ่งขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายและผมก็จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ขอให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มได้รับทราบและไม่ต้องกังวลว่าถัดจากนี้ผลปาล์มจะขายไม่ได้และจะเกิดปัญหาจราจรติดขัดอีก” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว
เตรียม Kick off พาณิชย์ลดราคา!ยกทัพสินค้าร่วม 1,000 รายการ ลดสูงสุด 60% ขายถูกทั่วกรุงเทพฯ
นายจุรินทร์ เป็นประธานเปิดงานพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน@กทม. พร้อมด้วยนายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายสารัช ม่วงศิริ สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตบางขุนเทียน ที่บริเวณถนนด้านข้างสํานักงานเขตบางขุนเทียน
นายจุรินทร์ กล่าวว่า โครงการพาณิชย์ลดราคา!ช่วยประชาชน ดำเนินการมาจนถึง Lot ที่ 22 สามารถลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ รวม 22 Lot กว่า 10,000 ล้านบาทในช่วงที่ผ่านมา อย่างน้อยในยามที่โลกประสบภาวะเงินเฟ้อและประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับผลกระทบราคาพลังงานสูงขึ้นมากเป็นต้นทุนการผลิต ประเทศไทยถือเป็นประเทศหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ตัวเลขเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำกว่าหลายประเทศในโลก โครงการพาณิชย์ลดราคา!ช่วยประชาชนคือโครงการที่เป็นรูปธรรมที่กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายในจัดทำขึ้นภายใต้นโยบายที่ตนมอบและมีส่วนลดภาระค่าครองชีพได้เยอะในช่วงที่ผ่านมา
“วันนี้เป็นอีกหนึ่งในโครงการพาณิชย์ลดราคา!ช่วยประชาชนจัดขึ้นทั่วประเทศ ซึ่งมี 2 โครงการในช่วงนี้ คือ พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot 22 (New Year Grand Sale 2023) จัดตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.65 ถึง 31 ม.ค. 66 และในกรุงเทพมหานครจะจัดพาณิชย์ลดราคา! 5 จุด รวมทั้งทั่วประเทศทุกจังหวัด วันนี้เป็นการจัดลดราคาที่เขตบางขุนเทียน จะมีส่วนช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนในเขตบางขุนเทียนรวมทั้งฝั่งธนบุรีที่สะดวกมาจับจ่ายใช้สอยที่นี่
โครงการนี้ลดราคาสูงสุดถึง 60% มีบูธจำหน่ายสินค้าราคาถูก 150-200 บูธ มีสินค้ามากกว่า 1,000 รายการ จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯได้ไม่น้อยในบริเวณฝั่งธนบุรี” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว
นอกจากนี้นายจุรินทร์ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวต่อว่า สำหรับสินค้าไฮไลต์ เช่น น่องไก่ติดสะโพก 55 บาท/กก. ข้าวสารหอมมะลิถุงละ 5 กก. ราคา 120 บาท น้ำมันพืช ขวดละ 45 บาท ไข่ไก่เบอร์ 2-3 แผงละ 30 ฟอง ราคา 90 บาท( 3 บาท/ฟอง) รวมทั้งสินค้าอื่นอีกเยอะ ซึ่งทำมาต่อเนื่อง และราคาสินค้าในช่วงนี้ได้ปรับลดลงมา นอกจากนี้มีการคาดการณ์ว่าปี 66 เงินเฟ้อจะมีแนวโน้มปรับลดลงมา และเราจะกำกับราคาที่เป็นธรรมไม่ให้เอาเปรียบผู้บริโภค ถ้าพบว่ามีการขึ้นราคาเอาเปรียบผู้บริโภคจะดำเนินคดีข้อหาค้ากำไรเกินควร ซึ่งโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปีปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและช่วงตรุษจีนได้เตรียมความพร้อมในการเข้าไปดูแลราคาสินค้าในการจับจ่ายใช้สอยในช่วงตรุษจีน ไม่ให้ฉวยโอกาสขึ้นราคา และกระทรวงพาณิชย์จะไปจัดกิจกรรมให้คนไทยเชื้อสายจีนทั่วประเทศที่สามย่านต่อไป ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญในการเข้าไปกำกับดูแลราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
แจ้งชาวนา… “เงินส่วนต่าง” ประกันรายได้ งวด 14 จ่าย 18 ม.ค.นี้ ส่วนภาคใต้ก็เริ่มจ่ายแล้วเพราะข้าวออกช้ากว่า
นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวประเด็นความคืบหน้า โครงการประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวปี 4 กล่าวว่า สำหรับประกันรายได้ข้าว จ่ายมาแล้วทั้งหมด 13 งวดในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา โดยโอนไป 2.57 ล้านครัวเรือนและโอนเงินส่วนต่างอย่างเดียว 7,800 ล้านบาท งวดถัดไปจะเป็นงวดที่ 14 เพราะมีทั้งหมด 33 งวด เราจ่ายไปแล้ว 13 งวด ถัดไปงวดที่ 14 จะโอนเงินวันที่ 18 มกราคม 2566 และชาวนาก็รอรับเงินส่วนต่างได้ โดยจะโอนผ่านบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส. ที่ชาวนาได้ขึ้นทะเบียนไว้
ส่วนในพื้นที่ภาคใต้จะช้ากว่าภาคอื่น เพราะมีการเพาะปลูกช้า สำหรับภาคใต้ขณะนี้ผลผลิตเริ่มออก แต่ก็จะมีการทยอยกระจายไปทุกงวด โดยจะเริ่มต้นเก็บเกี่ยวเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และจะออกเป็นปริมาณมากในเดือนเมษายน 2566 ที่โอนส่วนต่างไปแล้วมี 12,000 ครัวเรือนเป็นเงิน 38 ล้านบาท ซึ่งถัดจากนี้ก็จะทยอยโอนส่วนต่างไปเรื่อยๆชาวนาภาคใต้ก็จะได้รับส่วนต่างเหมือนกับชาวนาทุกภาค
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น