วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2561

What makes Buddhism unique?ลักษณะเด่นของพระพุทธศาสนา




ศาสนาพุทธเป็นหนึ่งในระบบความเชื่อที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุยืนยาวมากว่า 2,606 ปี เกิดขึ้นเพื่อปรับปรุงและแก้ไขสังคมอินเดียในยุคนั้นให้ดีขึ้นจากการกดขี่ของพราหมณ์และความเหลื่อมล้ำทางสังคม ซึ่งเกิดขึ้นจากระบบวรรณะที่แบ่งคนเป็นชนชั้น โดยมีหลักคำสอนที่ปฏิเสธการวิงวอนร้องขอจากพระผู้เป็นเจ้า ประณามการบวงสรวงบูชายัญเทพเจ้าด้วยเบียดเบียนชีวิตของสัตว์อื่นเพื่อแลกกับการล้างบาปหรือการได้บุญของตน ต่อต้านการกดขี่สตรีผ่านการอนุญาตให้สตรีบวชได้ เป็นศาสนาแรกและศาสนาเดียวบนโลกตราบจนถึงปัจจุบัน ที่เปิดโอกาสและยกฐานะผู้หญิง ซึ่งเป็นเพศที่ถูกมองว่าต่ำต้อยในสังคมอินเดียโบราณ ให้สามารถเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณได้ รวมทั้งทำลายระบบวรรณะในอนุทวีปอินเดียลงเป็นผลสำเร็จ ต่อเนื่องยาวนานมากว่า 1,700 ปี ด้วยการก่อตั้งชุมชนสังฆะ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้คนจากทุกวรรณะสามารถเข้ามาบวช และมีศักดิ์ศรีเสมอกันภายใต้พระธรรมวินัยที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติขึ้น

พระพุทธศาสนาจึงเป็นเสมือนน้ำทิพย์ชโลมสังคมอินเดียโบราณในขณะนั้น ให้ขาวสะอาดมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งยังเสริมสร้างความสงบร่มเย็นให้เกิดขึ้นในทุกสังคมที่พระพุทธศาสนาได้เผยแผ่ไปถึงและสถิตตั้งมั่น

เป็นศาสนาแห่งปัญญา คือส่งเสริมให้มนุษย์มองและพิจารณาปรากฎการณ์ต่างๆในธรรมชาติตามที่มันเป็นจริง มิใช่โดยการถือสืบๆกันมา และเชื่อตามๆกันไปด้วยความงมงายหรือด้วยศรัทธาที่ไร้เหตุผล มุ่งส่งเสริมการใช้ปัญญานำศรัทธา ทั้งยังเปิดกว้างต่อการถูกตั้งคำถามและการวิพากษ์วิจารณ์ โดยที่ผู้ถามหรือผู้วิจารณ์ไม่ต้องห่วงว่าตนเองจะโดนตีนยำ หรือถูกหมายชีวิตในภายหลัง

เป็นศาสนาจากการตรัสรู้ด้วยพระปัญญาของพระพุทธองค์ผู้เป็นศาสดาในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง เพื่อประกาศศักยภาพว่ามนุษย์สามารถกำหนดชะตาชีวิตของตนเองในอันที่จะเจริญหรือเสื่อม โดยไม่ต้องพึ่งพิงอำนาจการดลบันดาลร้องขอจากพระเจ้าที่ไร้ตัวตน เป็นการประกาศความเป็นอิสระของมนุษย์ต่อเทพเจ้าให้ปรากฏขึ้นแก่โลกยิ่งกว่าศาสนาใดๆ ที่เคยมีมา

เป็นศาสนาแห่งอิสระเสรี ไม่ส่งเสริมให้มนุษย์นำชีวิตของตนไปยึดโยงกับวัตรปฏิบัติในเชิงถูกบังคับให้ต้องทำหรือห้ามทำ หรือการผูกมัดตนเองไว้กับอำนาจการดลบันดาลร้องขอจากพระผู้เป็นเจ้าที่ไร้ตัวตน แต่ให้เชื่อมั่นในความสามารถว่ามนุษย์เอง มีศักยภาพเพียงพอที่จะไม่ต้องพึ่งพาอำนาจจากภายนอกใดๆ รวมถึงการต้องยอมศิโรราบต่อสิ่งที่ไร้ตัวตนในฐานะบ่าว ไพร่ หรือทาสผู้ภักดิ์ดี ทั้งยังส่งเสริมให้มนุษย์เชื่อมั่นว่า ตนเองสามารถปลดเปลื้องความทุกข์ได้โดยไม่ต้องหวังการดลบันดาลจากใคร แต่ด้วยการสรรค์สร้างขึ้นเองผ่านระบบความเชื่อเรื่องกรรม ซึ่งเป็นระบบคิดอันเกี่ยวเนื่องมาจากการประกอบเหตุปัจจัย มิใช่จากการขีด หรือกำหนดขึ้นจากอำนาจเหนือธรรมชาติที่ไร้แก่นสาร

พระพุทธศาสนาไม่มีเป้าหมายในการชักชวน บีบบังคับ หรือหลอกล่อให้ใครต้องหันมาศรัทธา หรือเปลี่ยนมายอมรับนับถือ แต่จะท้าให้ลองมาพิสูจน์ด้วยการปฏิบัติจนเห็นประจักษ์ด้วยตนเองก่อน หลังจากนั้นจะเชื่อหรือไม่เชื่อ จะศรัทธาหรือไม่ศรัทธา สิ่งเหล่านั้นมิได้อยู่ในความสนใจของพุทธศาสนา จึงเป็นที่ประจักษ์ว่าตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนาน ไม่เคยปรากฎว่าพระพุทธศาสนาเผยแผ่ด้วยคมหอกคมดาบ อพยพย้ายถิ่นฐานเพื่อเบียดเบียนและมุ่งยึดครอง หลอกล่อและชักชวนให้คนหันมานับถือผ่านสิ่งล่อใจ ใช้วิธีการที่สกปรกเพื่อหวังสกัดหรือมุ่งทำลายฝ่ายตรงข้าม ใช้มาตรการทางกฎหมายเพื่อมุ่งสร้างความได้เปรียบให้กับตน รวมถึงการมุ่งขยายจำนวนศาสนิกผ่านการเจริญพันธุ์ โดยทั้งนี้ไม่ปรากฏว่าพระพุทธศาสนามีสงครามเกิดขึ้นในนามของศาสนา ไม่ว่าจะกับต่างศาสนา หรือระหว่างนิกายในศาสนาเดียวกัน

บนโลกใบนี้ ถ้าไม่นับศาสนาเชนแล้ว พระพุทธศาสนา
ถือเป็นศาสนาหนึ่งเดียวที่เป็นอเทวนิยม (Atheism) มีแนวคิดปฏิเสธ และไม่เชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้บันดาลทุกสิ่ง สร้างทุกอย่าง แต่เชื่อว่าสรรพสิ่งล้วนเกิดขึ้นจากกระแสแห่งเหตุปัจจัยที่ไร้ต้นเค้า อยู่ในรูปของวัฏจักรซึ่งไร้จุดกำเนิดและจุดปลาย (cycle)

เป็นศาสนาที่ส่งเสริมสันติภาพโลกผ่านการสร้างสันติภาพจากภายในให้เกิดมีขึ้นในแต่ละปัจเจก ไม่ใช่ด้วยวิธีการกู่ร้องตะโกนเรียกหาสันติภาพ โดยคาดหวังแต่จะให้ผู้อื่นหยิบยื่นให้กับตน บรรดานักคิดคนสำคัญๆของโลกจึงต่างยอมรับและยกย่องให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งสันติภาพที่แท้ทรู

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ดร.มหานิยม" ร่วมกมธ.ศาสนาสภาฯลงพื้นที่เพชรบุรี ติดตามและช่วยวัดที่มีปัญหาเอกสารสิทธิ์ที่ดินที่วัดเขาย้อย ฉลุยทุกวัดที่ยื่นและรอ

เมื่อวันที่  16 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.00 น. ที่วัดเขาย้อยอำเภอเขาย้อยจังหวัดเพชรบุรี คณะกรรมาธิการศาสนานำโดยนายวีระพล  จิตสัมฤทธิ์ สสศรีสะเกษ...