ภายหลังเหตุการณ์ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ครูบาบุญชุ่มกลายเป็นที่รู้จักของคนอีกหลายคน และมีผู้ที่สนใจอยากรู้เรื่องราวต่างๆ ของท่านเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก ไม่เพียงในโลกความเป็นจริงเท่านั้น กระแสดังกล่าวยังแรงไปถึงโลกออนไลน์ด้วย
เฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘ลูกครูบาพ่อบุญชุ่ม ญาณสํวโร’ มียอดผู้เข้ามาถูกใจ กดติดตามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยจากการสำรวจในวันที่ 10 กรกฎาคม 2561 มียอดผู้กดถูกใจถึง 62,451 คน มีผู้กดติดตามกว่า 63,451 คน มีจำนวนคนเพิ่มมากขึ้นกว่า 8.25 เท่าในระยะเวลาเพียง 1 ปีกับอีกประมาณ 3 เดือนเท่านั้น
เหรียญ เครื่องราง วัตถุมงคลต่างๆ ของครูบาบุญชุ่ม เป็นอีกกระแสหนึ่งที่มาแรงมาก โดยหลังจากเหตุการณ์ถ้ำหลวง คนที่คลุกคลีวงการพระเครื่องเล่าว่า ไม่ว่าใครจะเชื่อ หรือไม่เชื่อครูบาบุญชุ่มก็ตาม แต่ตอนนี้เหรียญครูบาแต่ละรุ่นราคาพุ่งขึ้นกว่าสามเท่าของราคาเดิม และมีผู้คนในความสนใจที่หาจะเช่าบูชากันเยอะมาก
หากกล่าวถึงครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร ณ ตอนนี้หลายคนคงรู้จัก หรือได้ยินชื่อเสียงของท่านเป็นอย่างดี จากเหตุการณ์ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน
ไม่ว่าจะด้วยเสียงเล่าลือ ตำนาน ความเชื่อ ที่เกี่ยวพันกับเจ้าแม่นางนอน โดยเฉพาะที่เชื่อกันว่าท่านเป็นอดีตสามีของเจ้าแม่นางนอนในอดีตชาติ หรือด้วยเหตุการณ์ที่ท่านเข้าไปร่วมทำพิธีกรรมเปิดถ้ำ ถอนขึด สร้างขวัญและกำลังใจที่หน้าถ้ำหลวงถึง 3 ครั้ง โดยเฉพาะวลีเด็ดที่ท่านกล่าวว่า “อีกวันสองวันก็เจอ” จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันหนาหู ทั้งในหมู่คนที่ศรัทธาและผู้ที่ไม่เชื่อ กระทั่งถึงวันที่ทีมนักปฏิบัติงานเจอเด็กๆ ทีมหมูป่าในถ้ำจริงๆ เพียงระยะเวลา 2-3 วัน
50 วันให้หลังกับกระแสครูบาบุญชุ่ม ในเหตุการณ์ถ้ำหลวง
หลังวลีเด็ดของครูบาบุญชุ่ม ยิ่งทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงเสียงแซ่ซ้องศรัทธาอย่างหยุดไม่อยู่ ทั้งที่จริงเราก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า สิ่งที่ท่านกล่าวออกมานั้น เป็นสิ่งที่เกิดจากการหยั่งรู้ผ่านอำนาจเหนือธรรมชาติที่ได้รับการฝึกฝนด้วยการบำเพ็ญเพียรทางสมาธิ หรือเป็นการหยั่งรู้ที่เกิดจากบุญบารมีเก่าที่ท่านสั่งสมมาตั้งแต่อดีตชาติ จนผู้คนให้การเคารพนับถือว่าเป็น ‘ตนบุญในโลกสมัยใหม่’ แต่หากดูในแง่ของจิตวิทยา คำพูดดังกล่าวล้วนเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ และผู้ประสบภัยได้เป็นอย่างดี
จากเหตุการณ์ดังกล่าวตั้งแต่วันนั้น จนมาถึงวันนี้รวมแล้วเกือบ 50 วัน ในฐานะคนที่ประกาศตัวว่าเป็น ‘ติ่งครูบา’ ได้ติดตามดูกระแสของครูบาบุญชุ่มอยู่ตลอดในระยะเวลาที่ผ่านมาหลังเหตุการณ์ถ้ำหลวง
ดังนั้นบทความนี้จึงถือเป็นการมาเล่าสู่กันฟังว่า หลังเหตุการณ์กระแสครูบาบุญชุ่มเป็นอย่างไรบ้าง ทั้งในโลกความเป็นจริง ในโลกออนไลน์ ทั้งตัวครูบา ตัวผู้ศรัทธา และวัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง
ประสบการณ์โดยส่วนตัวของผู้เขียนในฐานะ ‘ติ่งครูบา’
กระแสของครูบาบุญชุ่มอย่างแรกที่ผู้เขียนอยากเล่าให้ฟังโดยเฉพาะ คือตอนที่ผู้เขียนได้เดินทางกลับไปบ้านที่เชียงราย ช่วงหลังเหตุการณ์ใหม่ๆ ญาติของผู้เขียนหลายคนมักมาคุยกับผู้เขียนเกี่ยวกับครูบาบุญชุ่ม มาเล่าประวัติท่านให้ฟัง ว่าตอนสมัยครูบาบุญชุ่มตอนเด็กๆ มีชื่อเสียงอย่างไร เป็นอย่างไร และคำที่ผู้เขียนได้ยินบ่อยที่สุดเวลาญาติๆ พูดถึงครูบาบุญชุ่มกับเหตุการณ์ถ้ำหลวงมีอยู่ 3 คำคือ “แน่อะละน่อ” “แน่แต้น่อ” หมายถึงแม่นใช่ได้เลยนะ หรือแม่นจริงๆ ซึ่งคำพูดนี้หมายถึงวลีของครูบาบุญชุ่มที่บอกว่า “อีกวันสองวันก็เจอเด็ก” นั่นเอง และเมื่อพูดสองคำแรกออกมาแล้วมักจะตามมาด้วยคำว่า “เปิงเปิ่นว่าต๋นบุญแต้ๆ” หมายถึง มิน่าละเขาถึงเรียกว่าตนบุญ
ในเฟซบุ๊กของผู้เขียนก็เช่นกัน มักมีใครต่อใครอีกหลายคนทั้งเป็นเพื่อนของผู้เขียน เพื่อนในเฟซบุ๊กของผู้เขียน รวมถึงคนที่ผู้เขียนไม่เคยรู้จักมาก่อน ทักแชตหลังไมค์มาถามผู้เขียน บางคนขอให้ผู้เขียนเล่าประวัติครูบาบุญชุ่มให้เขาฟัง ว่าเป็นใคร อย่างไร ทำไมท่านถึงไปอยู่พม่า ท่านเป็นคนไทยหรือคนพม่า ทำไมคนถึงศรัทธาท่านจัง ฯลฯ หรือแม้แต่เข้ามาถามผู้เขียนว่า “ถ้าจะไปกราบนมัสการครูบาจะต้องไปตอนไหน” “มีโอกาสจะได้กราบท่าน หรือได้ชมบารมีของท่านไหม” หรือหลายคนเข้ามาถามว่า “วัดพระธาตุดอนเรืองอยู่ตรงไหน” (วัดพระธาตุดอนเรือง วัดของครูบาบุญชุ่ม) “ถ้าจะเดินทางไป ต้องเดินทางอย่างไร” (เขียนขออนุญาตไว้จะมาแนะนำให้ทุกท่านในบทความหน้า และจะมาเล่าประสบการณ์ เมื่อครั้งที่ผู้เขียนได้เดินทางไปเก็บข้อมูลในงานวันเกิดครูบาบุญชุ่มให้ฟังนะครับ รับรองว่าสนุกแน่)
ไม่เพียงเท่านั้น เพื่อนของผู้เขียนหลายคนมักมาถามผู้เขียนถึงวัตถุมงคลของครูบาบุญชุ่ม บางคนมาถามว่ามีบ้างไหม มีเยอะไหม ขอหน่อยได้ไหม ผู้เขียนต้องบอกไว้ ณ ที่นี้เลยนะครับว่า “พอมีอยู่บ้าง” นิดๆ หน่อยๆ เก็บสะสมมาตั้งแต่เด็กๆ ส่วนด้ายแดง สายสิญจน์ผูกข้อมือสีแดงของครูบาบุญชุ่ม ถือว่ามีคนถามเข้ามาเยอะที่สุด กลายเป็นของฮิตที่ผู้คนต่างเสาะหา ไม่ต่างจากช่วงสร้อยข้อมือลูกปัดหินมงคลเลยทีเดียว ซึ่งสายสิญจน์ผู้เขียนบอกเลยว่า ได้มาเยอะพอสมควร แต่ก็แจกไปเกือบหมดแล้ว
ไม่ใช่แค่ระดับชาวบ้าน หรือคนทั่วไปในสังคม กลุ่มชนชั้นกลาง รวมถึงชนชั้นสูงก็ให้ความสนใจกับกระแสครูบาบุญชุ่มด้วยเช่นกัน สังเกตได้ว่าหลังจากเหตุการณ์ถ้ำเพียงไม่นาน ครูบาก็ได้รับผ้าไตรพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยตัวแทนเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังนำถวายครูบาที่วัดพระธาตุดอยเวียงแก้ว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และได้รับนิมนต์จากคณะผู้บริหารช่อง 3 ให้ท่านมาเทศนาที่ตึกมาลีนนท์ ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารมาลีนนท์ทาวเวอร์ 2 ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2561 ด้วย
กระแสครูบาบุญชุ่มในโลกโซเชียลมีเดีย
ในโลกโซเชียลมีเดีย ถือเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ทำให้เห็นกระแสครูบาบุญชุ่ม นอกจากมีหลายต่อหลายคนใช้ช่องทางนี้เข้ามาสอบถามข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับครูบาบุญชุ่มกับผู้เขียนแล้ว ยังมีหลายต่อหลายคนที่เป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กของผู้เขียน ต่างแชร์รูปภาพ คำสอน วิดีโอการเทศนา รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ของครูบาบุญชุ่มเยอะแยะมากมาย แต่สิ่งที่ผู้เขียนคิดว่าน่าสนใจ และสะท้อนให้เห็นความแรงของกระแสครูบาบุญชุ่มหลังเหตุการณ์ถ้ำหลวงได้เป็นอย่างดีคือ
เมื่อครั้งครูบาบุญชุ่มได้เข้ากราบนมัสการสมเด็จพระสังฆราช ณ วัดราชบพิตรฯ ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2561 ซึ่งเพจสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้เผยแพร่ภาพที่ครูบาบุญชุ่มเข้ากราบสมเด็จพระสังฆราชขึ้นบนเฟซบุ๊ก เซตรูปภาพดังกล่าวมีคนกดไลก์ (ชอบ) มากถึง 2 หมื่นคน มีผู้ใช้เฟซบุ๊กมาแสดงความคิดเห็นโดยส่วนใหญ่มักกล่าวว่า “สาธุ สาธุ” มากกว่า 3.4 พันคน และมียอดคนแชร์กว่า 1.1 หมื่นครั้ง ซึ่งโดยปกติแล้วหากสังเกตกิจกรรมอื่นๆ ที่เพจสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชได้เผยแพร่ จะมีคนกดไลก์เพียงแค่พันกว่าคน มียอดแสดงความเห็นประมาณ 100-200 คน และมียอดแชร์ไม่เกินพันครั้ง
นอกจากนั้นเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘ลูกครูบาพ่อบุญชุ่ม ญาณสํวโร’ ก็มียอดผู้เข้ามาถูกใจ กดติดตามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยจากการสำรวจในวันที่ 10 กรกฎาคม 2561 มียอดผู้กดถูกใจถึง 62,451คน มีผู้กดติดตามกว่า 63,451 คน จากเดิมเมื่อครั้งที่ผู้เขียนได้สำรวจไว้เมื่อตอนเขียนวิทยานิพนธ์ปริญญาโท เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2560 มีผู้กดติดตามเพียงแค่ 7,690 คน ถือได้ว่ามีจำนวนคนเพิ่มมากขึ้นกว่า 8.25 เท่าในระยะเวลาเพียง 1 ปีกับอีกประมาณ 3 เดือนเท่านั้น
กระแสเครื่องรางและวัตถุมงคล
เหรียญครูบาบุญชุ่ม เครื่องราง วัตถุมงคลต่างๆ ของครูบาบุญชุ่ม เป็นอีกกระแสหนึ่งที่มาแรงมาก โดยหลังจากเหตุการณ์ถ้ำหลวง ผู้เขียนได้คุยกับเพื่อนซึ่งเป็นคนที่คลุกคลีวงการพระเครื่องที่เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า ไม่ว่าใครจะเชื่อ หรือไม่เชื่อครูบาบุญชุ่มก็ตาม แต่ตอนนี้เหรียญครูบาแต่ละรุ่นราคาพุ่งขึ้นกว่าสามเท่าของราคาเดิม และมีผู้คนให้ความสนใจที่จะหาเช่าบูชากันเยอะมาก มากจนถึงขั้นที่มีกลุ่มผู้สะสมพระ ออกหนังสือประวัติและวัตถุมงคลยอดนิยมพระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร เพื่อรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวัตถุมงคลของครูบาบุญชุ่ม บอกจำนวนการจัดสร้างวัตถุมงคลบางรุ่นที่ชัดเจน บอกตำหนิของแท้ ของเลียนแบบของวัตถุมงคลแต่ละรุ่นของครูบาบุญชุ่ม สำหรับผู้ที่ศึกษาและสะสมวัตถุมงคลของแท้
ในโลกโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊ก เช่น ในเพจกลุ่มพระเครื่องครูบาพ่อเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร (ตามมาตรฐานสากลนิยม) ยังนำวัตถุมงคลประเภทต่างๆ ของครูบาบุญชุ่มที่ตนเองได้สะสมออกมาโชว์กันในเพจจำนวนมาก รวมถึงมีการประมูลเช่าบูชากันอย่างคึกคัก ราคาตั้งแต่หลักร้อยเป็นต้นไป
ไม่เพียงเท่านั้นความนิยมในกระแสพระเครื่องของครูบาบุญชุ่ม ยังปรากฏว่า เหรียญครูบาบุญชุ่ม และด้ายแดง สายสิญจน์ข้อมือของครูบาบุญชุ่ม ติดลำดับสินค้ายอดนิยมในเว็บไซต์ลาซาด้า เว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ โดยราคาเหรียญบวกด้ายแดง 1 เส้น ราคาอยู่ที่ 250-299 บาท นอกจากในลาซาด้าแล้ว ในเฟซบุ๊กก็มีการประกาศขายด้ายแดงข้อมือของครูบาบุญชุ่มในราคาที่สูงมาก หนึ่งเส้นพร้อมรูปภาพครูบาอยู่ที่ราคาเส้นละ 299 บาท มีผู้สนใจเข้ามาขอเช่าบูชาหลายร้อยคน แต่ผู้เขียนขอแอบบอก ณ ตรงนี้นะครับว่า ถ้าเป็นด้ายแดงสายสิญจน์ครูบาบุญชุ่มอาจจะใส่เพียงเส้นเดียวไม่ได้ เพราะปกติแล้วหากครูบาจะผูกให้ใคร ท่านนิยมผูกทีละ 2 เส้นพร้อมกัน เพราะฉะนั้นถ้าจะให้เนียนอาจจะต้องบูชาทีละสองเส้นนะครับ
จากที่เล่ามาให้ฟังทั้งประสบการณ์ที่ผู้เขียนได้ประสบ รวมถึงการสำรวจกระแสของครูบาบุญชุ่มในพื้นที่ต่างๆ ทั้งโลกความจริง ทั้งโลกออนไลน์ ทำให้เห็นว่าภายหลังเหตุการณ์ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ครูบาบุญชุ่มกลายเป็นที่รู้จักของคนอีกหลายคน และมีผู้ที่สนใจอยากรู้เรื่องราวต่างๆ ของท่านเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก
โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ที่เป็นทั้งพื้นที่แสดงความสัมพันธ์ของตนเองกับครูบาบุญชุ่ม เป็นพื้นที่เช่าบูชาวัตถุมงคล รวมถึงในวงการพระเครื่อง กระแสความคึกคักในวงการพระเครื่อง ต่อการเช่าบูชาและสะสมวัตถุมงคลของครูบาบุญชุ่มด้วย
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ผู้เขียนถือว่าเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่น่าสนใจ ทั้งในแง่พุทธศาสนา ความเชื่อ สังคม วัฒนธรรม ในสังคมไทย ที่น่านำไปศึกษาวิเคราะห์ต่อ
................
(หมายเหตุ : ขอบคุณข้อมูลจาก ณัฐพงศ์ ดวงแก้ว https://thestandard.co/krubaboonchoom-after-thamluang-situation/-อย่างไรก็ตามวันที่ 16 ส.ค.2561 เพจ Tai Community Online ได้แชรได้ข้อมูลดังกล่าวพร้อมโพสต์ข้อความว่า
"ครูบาท่าน จำพรรษาภายในถ้ำไม่ได้ออกมาพบปะลูกศิษเลยตลอดสามเดือนหลังจากนี้
แต่กระแสชื่อเสียงของท่าน ยังคงมีคนที่คิดเอาแต่ได้ไปขายกินตลอดเวลา
เรื่องราวการสร้างเหรีญของท่านที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆใหม่ๆเลยบางเหรีญราคามากกว่าแสนบาท ซึ่งท่านไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องไดๆในการสร้างและคนที่สร้างก็ไม่ได้รับอนุญาติไดๆจากท่าน
คือเอาชื่อเสียงท่านมาขายกินเก็บเงินเข้ากระเป๋าส่วนตัว
เหรีญและสายสินของท่านครูบา ไม่มีสำหรับขายหรือจำหน่ายที่ไหนเลย
มีไว้แจกฟรี ให้ลูกศิษท่านเท่านั้น
ไม่ได้ขาย
ท่านไม่เคยขาย
ใครทำเรื่องดีๆขอให้เจอแต่เรื่องดีๆ
ใครทำเรื่องไม่ดีก็ขอให้เจอเรื่องไม่ดีก็แล้วกัน
อโหสิกรรม
สาธุ สาธุ สาธุ
ครูบายุค 4.0"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น