วันที่ 13 ส.ค.2561 พระครูวิมลปัญญาคุณ เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม หมู่ 5 บ้านดงดิบ ต.ห้วยยาง อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ผู้ก่อตั้งโรงเรียนศรีแสงธรรม ได้โพสต์ข้อความว่า
เราสร้างคนตั้งหลายปีกว่าจะเข้าสู่มหาวิทยาลัย เมื่อไตดรีทำไมต้องส่งให้อุตสาหกรรม ผลผลิตของกระบวนการศึกษาที่เราปลุกปั้นมาได้ให้อะไรกับชุมชนที่ร่วมกันสร้างเยาวชนเหล่านี้มา อย่างดีก็ทำให้เขามีเงินเดือนประจำ มีรายได้ดีกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันที่ไม่ได้ศึกษาต่อ แต่สังคมโดยรอบได้ผลประโยชน์จากตรงนี้ไหม ตอบว่าสู้นายทุนไม่ได้ แล้วจะมีนายทุนสักกี่คนที่จะเข้ามาส่งเสริมสนับสนุนต้นกำเนิดของเด็กเหล่านั้นบ้าง คิดว่าสิบปีจะมีมาทอดผ้าป่าสร้างวัดสร้างศาลาให้ครั้งหนึ่งจากการรวบรวมหมู่คณะที่ทำงานเขามานับว่าน้อยมาก
ถ้าหากเราสร้างงานขึ้นที่นี่ผลิตเรามีรายได้เท่าภาคอุตสาหกรรมที่เขาเข้าไปอยู่ แต่การจ้างงาน การสร้างรายได้เกิดที่ชุมชนเอง มีผลกำไรมาสนับสนุนโรงเรียนแล้วโรงเรียนพัฒนาคุณภาพการศึกษาๆ ส่งผลโดยตรงต่อนักเรียนซึ่งเป็นลูกหลานในชุมชนท้องถิ่นตัวเอง อย่างนี้น่าจะมีประโยชน์มากขึ้นจากผลผลิตทางการศึกษาเรา
วันนี้ต้องปัดฝุ่น IOT มีรุ่นพี่ที่จบแล้วกลับมาช่วยสอนน้องถึง 2 คนๆ หนึ่งจบเกษตรให้มาดูแลงานเกษตรและวิจัยของโรงเรียนสอนน้องไปด้วย อีกคนจบวิศวะให้มาดูแลด้านพลังงานและสอนน้องไปด้วย จากการมาทำงาน1สัปดาห์ผ่านไปสามารถสอนน้องๆทำระบบสมาร์ทโฮม สมาร์ทฟาร์มไปแข่งขันได้เหรียญทองอันดับหนึ่งมาอย่างไม่ยากเย็น นี่ก็เป็นการเริ่มต้นของ Innovative Thinking จาก โรงเรียนศรีแสงธรรม ที่พิเศษคือคิดและทำไปด้วย innovative thinking and imprementation อันจะนำไปสู่การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน"
.................
(หมายเหตุ : ข้อมูลจากเฟซบุ๊ก พระครูวิมลปัญญาคุณ ศรีแสงธรรม)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น