วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2561

อมตะสังขาร"เซียนแป๊ะโค้ว แห่งหัวตะเข้" ละสังขารในท่านั่งสมาธิ สรีระไม่เน่าเปื่อย กว่า ๑๐๐ ปี




เซียนแป๊ะโค้ว เดิมท่านชื่อเอียะฮง แซ่เล้า เป็นหนุ่มซินตึ๊ง มาจากเมืองจีน หวังมาหาความเจริญที่เมืองไทย เมื่อแรก มาอยู่เมืองไทย ได้มาทำงาน เป็นเด็กฝึกงาน ที่ร้านแถวเยาวราช เนื่องด้วยท่านเป็นคนฉลาดขยันขันแข็งได้ไต่เต้าจนได้เป็นหลงจู๊ หรือ ผู้จัดการร้าน




ภายหลังท่านพิจารณาว่า การกินเงินเดือน เป็นมนุษย์เงินเดือน มั่นคงดีแต่รวยช้า ท่านจึงคิดไปทำสวนผลไม้ เพราะสมัยนั้นคนทำสวนยังมีน้อย จึงขอลาออกจากเถ้าแก่ครั้งแรกเถ้าแก่ก็ไม่ยอม แต่พอเห็นว่าทัดทานยังไงก็ไม่ได้ จึงได้มอบเงินให้ก้อนนึงไปลงทุน ท่านได้เช่าที่อยู่หัวตะเข้ ด้วยความขยันขันแข็ง และความรู้ทางด้านเกษตร ทำให้กิจการของท่านเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ไปสะดุดใจ เจ้าของที่ดินที่ท่านเช่า เจ้าของที่ดินมีลูกสาวอยู่หนึ่ง ชื่อมาลัย



เจ้าของที่ดิน จึงลองมาทาบทามดู ว่า "มีครอบครัวที่เมืองจีนหรือเปล่า" ท่านก็ตอบว่า "ยังไม่มี" เขาเลยถามอีกว่า คิดมีครอบครัวบ้างหรือเปล่า" ท่านก็ตอบว่า "คิดอยู่จะได้ช่วยกันทำมาหากิน"  เจ้าของที่ดินจึงบอกว่า "จะยกลูกสาวให้" สมัยโน้นการแต่งงาน ส่วนมากเกิดจากผู้ใหญ่ชักพา แต่แล้ว ขณะชีวิตกำลังไปได้ดี แม่ของท่านได้ส่งจดหมายมาบอก ว่าได้ทาบทามผู้หญิงให้แล้ว ให้รีบกลับมาแต่งงาน ทำให้ท่านรู้สึกแย่มาก เพราะกับสาวมาลัย ได้ปูพื้นความรักขึ้นมาแล้ว



ด้วยความกตัญญู คนจีนสมัยก่อน จะมีความกตัญญูต่อพ่อแม่มาก สิ่งใดที่พ่อแม่ต้องการ ก็จะไม่ขัดใจท่าน อาจจะเป็นเพราะความกตัญญู ทำให้คนจีนสมัยก่อนจึงร่ำรวย ทำกิจการใดก็ประสบความสำเร็จ คนที่เกิดทันคนจีนรุ่นเก่า จะรู้ว่าคนจีนรุ่นเก่าจะไม่ค่อยทำบุญ จะถนัดทางไหว้เจ้ามากมากกว่า



เพราะไหว้ไปแล้วไม่สูญ เอากลับมากินได้ เมื่อก่อน แอดมินก็คิด ว่าเขาไม่ได้ค่อยทำบุญ ทำไมรวยเอาๆ ตอนหลัง เริ่มรู้จักวิธีทำบุญมากขึ้น จึงรู้เลยว่า ที่เขารวยได้ เพราะเขาไ้ด้ทำบุญใหญ่อยู่ตลอดทุกวัน คือบุญที่เลี้ยงดูพ่อแม่



ด้วยความกตัญญูต่อแม่ ท่านจึงยอมตัดใจจากคนรัก เดินทางกลับประเทศจีน ในรัชสมัยรัชกาลที่ห้า การเดินทางด้วยเรือสำเภา ใช้เวลายาวนานมาก กว่าจะถึงเมืองจีนใช้เวลาหลายเดือน เมื่อไปถึงปรากฏว่า สาวที่แม่เลือกให้ได้แต่งงานกับคนอื่นไปแล้ว ท่านจึงอยู่ปฏิบัติแม่เพราะจากมาหลายปีอีกสองเดือน จึงเดินทางกลับไทย แต่เมื่อมาถึงทางนี้ ท่านก็ต้องหัวใจสลาย สาวมาลัยได้แต่งงานกับคนอื่นไปแล้ว



ขณะที่ท่านเดินใจลอยสะเปะสะปะ ผ่านศาลเจ้า ก็มีเสียงลึกลับว่า ท่านเซียนแป๊ะโค้ว โพธิสัตว์ เชิญมาพำนักที่นี่ หลังจากนั้น ท่านจึงอยู่ปฏิบัติธรรมที่ศาลเจ้าแห่งนั้น คนพอเรื่องเดือดร้อน มาขอให้ท่านช่วย ท่านก็สงเคราะห์ช่วยเหลือไป จนคนร่ำลือความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน เรียกท่านว่าเซียนบ้าง มีครั้งหนึ่ง ที่ทำให้ท่านเป็นตำนานเล่าขานจนถึงทุกวันนี้ มีเด็กถูกจรเข้คาบดำน้ำไป มีคนมาตามท่านให้ไปช่วย ท่านไปยืนบริกรรมอยู่ริมฝั่ง สักพักเดียว จรเข้ก็คาบเด็กขึ้นมาหา ท่านจึงเอาเท้าเหยียบที่หัวจรเข้ จรเข้ก็คายเด็กออกมา ปรากฏว่าเด็กยังไม่ตาย จึงเป็นตำนานเรียกแถวนั้นว่า หัวตะเข้



เมื่อท่านสิ้นอายุ ท่านดับขันธ์ด้วยท่านั่งสมาธิ ร่างกายท่านไม่เน่าเปื่อย ทางศาลเจ้าจึงนำมาให้คนได้กราบไหว้ มีอยู่วันหนึ่ง น้าผู้ชาย เดินทางมาจากเมืองจีน เนื่องจากท่านเงียบหายไปเลย แม่ของท่านจึงให้น้องชายมาดู เมื่อมาถึงเมืองไทย ก็ทราบข่าวว่าท่านสำเร็จแล้ว น้าท่านจึงเดินทางมาที่ศาลเจ้า ได้ไปต่อว่ากับร่างท่านว่า ท่านนี่เห็นแก่ตัว สำเร็จเอาตัวรอดคนเดียว ไม่ได้ห่วงแม่ที่เมืองจีนเลย เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น ร่างที่นั่งตัวตรง ได้ค้อมลงมาเหมือนยอมรับความผิด น้าท่านเห็นอย่างนั้นตกใจ รีบๆเดินออกจากศาลเจ้าอย่างรวดเร็ว 


“ลี หมื่นเฮง” ผู้ที่เชื่อมั่นในความศักดิ์สิทธิ์และมีความศรัทธาองค์เซียนเอี๊ยะเฮงหรือองค์เซียนแปะโค้ว วัตถุมงคลของท่านดีเรื่องโชคลาภ ค้าขาย และคุ้มครองให้ปลอดภัย กิติสรรพเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ไปขอพรท่านได้ วัตถุมงคลของท่านมีผู้นำไปบูชานำไปใช้แล้วประสบความสำเร็จดังที่ปรารถนากันมาแล้วมากต่อมาก




องค์เซียนแปะโค้วเป็นที่รู้จักแพร่หลายในถิ่นคนบ้านหัวตะเข้ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร และคนไทยเชื่อสายจีนมาแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ สอบถามบูชาวัตถุมงคลขององค์เซียนแปะโค้วได้ที่ คุณลี หมื่นเฮง โทร. 094 - 7870999 หรือติดตามข้อมูลได้ที่ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=890328977816003&id=100005167265782

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วธ. จัดงานพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติ ยกย่องชุมชน องค์กร อำเภอ และจังหวัดคุณธรรมต้นแบบที่มีความโดดเด่น 248 แห่ง

วันที่ 18 เมษายน 2567 นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม มอบหมายให้ นางลาลีวรรณ กาญจนจารี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒ...