ปัญหาความเสื่อมศรัทธาในคณะสงฆ์ไทยเป็นประเด็นที่ท้าทายและเรื้อรังต่อสังคมพุทธไทยมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในศตวรรษที่ 21 ที่ข่าวคราวการทุจริต การครอบงำด้วยวัตถุสมณศักดิ์ และพฤติกรรมไม่เหมาะสมของพระสงฆ์ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะอย่างต่อเนื่อง วิกฤติที่เกิดขึ้นมิใช่เพียงปัญหาเฉพาะบุคคล หากแต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างของคณะสงฆ์ไทยเอง พระไพศาล วิศาโล ได้ชี้ให้เห็นแนวทางแก้ไขวิกฤติที่มุ่งไปสู่การปฏิรูปทั้งระบบ ทั้งในด้านการปกครอง การศึกษา และการสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตวิญญาณแก่พระสงฆ์
1. วิกฤติศรัทธาในคณะสงฆ์ไทย
สถานการณ์ความเสื่อมศรัทธาในพระสงฆ์ปัจจุบัน สะท้อนออกมาผ่านความรู้สึกของญาติโยมที่ผิดหวังต่อพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระภิกษุหลายรูป โดยบางคนถึงขั้นระบุว่าเสื่อมศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาในเมืองไทย อย่างไรก็ตาม พระไพศาลได้ชี้ว่า ปัญหานี้เป็น “สัญญาณเตือนภัย” ว่าคณะสงฆ์ไทยกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤติรุนแรง ซึ่งไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่กรณีวัดพระธรรมกายเมื่อกว่า 20 ปีก่อน จนถึงปัจจุบันกลับไม่มีพัฒนาการที่ดีขึ้น
2. การล้มเหลวของกลไกคณะสงฆ์ไทย
พระไพศาลอธิบายว่า โครงสร้างคณะสงฆ์ล้มเหลวในกลไกสำคัญ 3 ประการ ได้แก่
-
การกลั่นกรอง (Screening) – ในอดีตผู้ที่จะบวชต้องผ่านการคัดกรองจากอุปัชฌาย์หรือเจ้าอาวาส แต่ปัจจุบันขาดความเข้มงวด ทำให้ผู้ไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมเข้ามาบวชได้ง่าย
-
การกล่อมเกลา (Training/Edification) – ระบบการศึกษาสงฆ์อ่อนแอ ไม่สามารถบ่มเพาะศีลธรรมและการภาวนาได้อย่างเพียงพอ ส่งผลให้พระจำนวนมากไม่เข้าถึงความสุขภายใน
-
การเก็บกวาด (Discipline/Filtering Out) – การจัดการกับพระที่ประพฤติผิดล้มเหลว จนบางครั้งกลายเป็นการปกป้องหรือเพิกเฉยต่อพฤติกรรมที่ผิดวินัย
การล้มเหลวทั้งสามนี้เชื่อมโยงกับปัญหาการปกครองคณะสงฆ์ที่รวมศูนย์อำนาจ ขาดความโปร่งใส และระบบการศึกษาที่ไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจแก่พระภิกษุได้
3. เงิน สมณศักดิ์ และชื่อเสียง: รากเหง้าของปัญหา
พระไพศาลเน้นว่า วัตถุสมณศักดิ์และชื่อเสียง แม้มีประโยชน์บางด้าน แต่กลับเป็นช่องทางสำคัญที่เปิดโอกาสให้พระสงฆ์ “พ่ายแพ้ต่อกิเลส” ได้ง่าย ความมั่งคั่ง อำนาจ และเกียรติยศกลายเป็นปัจจัยเร้าให้พระบางรูปแสวงหาความสุขจากภายนอก แทนที่จะพัฒนาจิตให้เข้าถึงความสุขภายในตามหลักธรรม
4. แนวทางแก้วิกฤติคณะสงฆ์ไทยตามแนวคิดพระไพศาล
พระไพศาลเสนอแนวทางแก้ไขที่สำคัญ 3 ประการ ได้แก่
-
การปฏิรูประบบการเงินของวัด – ต้องมีระเบียบที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ เพื่อป้องกันการแสวงหาประโยชน์ส่วนตนจากทรัพย์สินวัด
-
การปฏิรูประบบการศึกษาและการปกครองคณะสงฆ์ – ระบบการศึกษาต้องมุ่งเน้นการปฏิบัติภาวนาและการกล่อมเกลามากกว่าการท่องจำ ขณะเดียวกัน การปกครองควรเน้นการตรวจสอบและการกระจายอำนาจมากขึ้น
-
การสร้างความสุขภายในผ่านการปฏิบัติ – พระสงฆ์ต้องได้รับการฝึกฝนให้เข้าถึงความสุขจากความสงบ ไม่พึ่งพาความสุขจากวัตถุภายนอก หากพระสงฆ์มีความสุขจากภายใน ก็จะไม่หวั่นไหวต่อเงินทอง อำนาจ หรือเพศสัมพันธ์
5. มิติของญาติโยมและสังคมพุทธ
อาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ ได้ชี้ว่า วิกฤติคณะสงฆ์มิใช่ปัญหาของพระเท่านั้น แต่เป็นของชุมชนพุทธโดยรวม ญาติโยมควรเปิดใจ เรียนรู้ และร่วมกันหาวิธีสนับสนุนพระที่ดี รวมถึงการใช้วิกฤติครั้งนี้เป็นโอกาสในการปรับปรุงโครงสร้างและฟื้นฟูศรัทธาในพระรัตนตรัย
6. ข้อสรุป: ศรัทธาในพระรัตนตรัย
แม้จะมีความเสื่อมศรัทธาในพระสงฆ์ แต่พระไพศาลย้ำว่า พุทธศาสนิกชนไม่ควรเสื่อมศรัทธาใน พระรัตนตรัย เพราะพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ (ในอุดมคติ) ยังเป็นแหล่งแห่งคุณค่าที่ประเสริฐ สามารถชี้นำชีวิตให้พบทางออกจากกิเลสและความทุกข์ได้
บทสรุป
แนวคิดของพระไพศาล วิศาโล ทำให้เห็นว่าการแก้วิกฤติคณะสงฆ์ไทยมิใช่เพียงการแก้ปัญหาเฉพาะบุคคล แต่เป็นการปฏิรูปเชิงโครงสร้างที่ต้องเน้นการ กลั่นกรอง–กล่อมเกลา–เก็บกวาด ควบคู่กับการสร้างความสุขภายในให้พระสงฆ์ หากคณะสงฆ์สามารถฟื้นฟูกระบวนการเหล่านี้ได้ จะไม่เพียงฟื้นศรัทธาของพุทธศาสนิกชนเท่านั้น แต่ยังทำให้พระสงฆ์กลับมาเป็น “เนื้อนาบุญ” ที่แท้จริงของสังคมไทยอีกครั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น