วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2568

ยุทธการกวาดซากศพการเมืองไทย

บทนำ

การเมืองไทยตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมาเผชิญกับ “ปัญหาคงค้าง” ที่สะสมยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นการทุจริตเชิงนโยบาย ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มทุนและประชาชน การใช้อำนาจโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม หรือความไม่เป็นอิสระขององค์กรทางการเมือง ปัญหาเหล่านี้เปรียบเสมือน “ซากศพการเมือง” ที่ยังถูกทิ้งไว้ในพื้นที่การเมืองไทยและส่งกลิ่นรบกวนต่อการพัฒนาประชาธิปไตย

ดังนั้น “ยุทธการกวาดซากศพการเมืองไทย” จึงเป็นอุปมาเชิงยุทธศาสตร์ที่ชี้ให้เห็นความจำเป็นของการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง เพื่อกวาดล้างสิ่งตกค้าง และสร้างระบบการเมืองที่โปร่งใส มีเสถียรภาพ และตอบสนองประชาชน


1. ความหมายของ “ซากศพการเมือง”

  • การเมืองแบบอุปถัมภ์ : นักการเมือง–ข้าราชการ–ทุนใหญ่โยงใยผลประโยชน์

  • การเมืองทุจริตเชิงระบบ : การซื้อเสียง การใช้นโยบายเพื่อเอื้อกลุ่มทุน

  • การเมืองแบบแบ่งขั้วสุดโต่ง : สร้างบาดแผลสังคมและความไม่ไว้วางใจระหว่างประชาชน

  • ระบบกฎหมายและสถาบันที่เปราะบาง : ถูกใช้เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการเมืองมากกว่าความยุติธรรม

ซากศพเหล่านี้ทำให้ “ประชาธิปไตยไทย” เดินไปข้างหน้าอย่างยากลำบาก


2. ยุทธการกวาดซากศพการเมืองไทย

การกวาดซากศพทางการเมืองไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาจุดเล็ก ๆ แต่คือ ยุทธศาสตร์เชิงโครงสร้าง ประกอบด้วย

  1. การฟื้นฟูสถาบันการเมือง

    • เสริมความเป็นอิสระขององค์กรตรวจสอบ

    • ทำให้ระบบเลือกตั้งโปร่งใสและยุติธรรม

  2. การสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองใหม่

    • สร้างการเมืองแบบมีส่วนร่วม (participatory politics)

    • ผลักดันเยาวชนและภาคประชาสังคมเข้าสู่พื้นที่การเมือง

  3. การรื้อระบบอุปถัมภ์

    • ลดอิทธิพลทุนใหญ่ในการเลือกตั้ง

    • ปฏิรูปการจัดสรรงบประมาณให้กระจายสู่ท้องถิ่น

  4. การปลูกฝังคุณธรรมและความรับผิดชอบ

    • ใช้หลักธรรม เช่น ทศพิธราชธรรม และ สังคหวัตถุ เป็นกรอบจริยธรรมของผู้นำ

    • กำหนดกลไกตรวจสอบจริยธรรมนักการเมืองอย่างจริงจัง

  5. การปรับโครงสร้างอำนาจรัฐ

    • แก้ความเหลื่อมล้ำเชิงโครงสร้าง

    • ลดความซ้ำซ้อนของอำนาจรัฐที่เปิดช่องให้ทุจริต


3. ความท้าทายของการกวาดซากศพ

แม้จะมี “ยุทธการกวาดซากศพ” แต่ปัญหาการเมืองไทยยังเต็มไปด้วยความเสี่ยง

  • แรงต้านจากกลุ่มผลประโยชน์เดิม ที่ไม่ต้องการให้ระบบเปลี่ยนแปลง

  • ความไม่ไว้วางใจของประชาชน ที่ทำให้การปฏิรูปขาดพลังสนับสนุน

  • โครงสร้างรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ที่ยังคงเปิดช่องให้การเมืองวนกลับสู่ปัญหาเดิม

  • วัฒนธรรมการเมืองแบบเฉื่อยชา ที่ทำให้ประชาชนบางส่วนยอมจำนนกับปัญหา


4. ฉากทัศน์ของการกวาดซากศพทางการเมือง

  1. ฉากทัศน์เชิงบวก : การปฏิรูปสำเร็จ ทำให้เกิดผู้นำที่มีคุณธรรม และประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง

  2. ฉากทัศน์กึ่งสำเร็จ : แม้มีการกวาดซากศพบางส่วน แต่ยังมีปัญหาอุปถัมภ์และทุจริตคงอยู่

  3. ฉากทัศน์เชิงลบ : กลุ่มผลประโยชน์สามารถต้านทานการปฏิรูปได้ ทำให้การเมืองวนกลับไปสู่ความล้มเหลวเดิม


บทสรุป

“ยุทธการกวาดซากศพการเมืองไทย” คือการชี้ให้เห็นความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง ไม่ใช่แค่การแก้ไขเฉพาะหน้า การเมืองไทยต้องการ การปฏิรูปที่ลึก ทั้งในเชิงสถาบัน วัฒนธรรม และจริยธรรม หากปราศจากการกวาดล้างสิ่งตกค้างเหล่านี้ ประชาธิปไตยไทยก็จะยังคงติดอยู่ในวังวนเดิม

อย่างไรก็ตาม การกวาดซากศพการเมืองไม่ใช่หน้าที่ของชนชั้นนำเท่านั้น แต่ต้องอาศัยพลังประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งนักวิชาการ ภาคประชาสังคม เยาวชน และภาคธุรกิจ เพื่อร่วมกันทำให้ “สนามการเมือง” กลับมาสะอาด โปร่งใส และเป็นพื้นที่แห่งความหวังสำหรับอนาคต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พลวัตการทำหน้าที่สส.ของดร.นิยม เวชกามา มิติศาสนจักรและการเมือง

รายงานฉบับนี้มุ่งศึกษาวิเคราะห์บทบาท หน้าที่ และพฤติกรรมทางการเมืองของ ดร.นิยม เวชกามา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสกลนคร และอดีตแกนนำพรรคเพื...