วันที่ 8 ส.ค.2561 ที่โรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก พ.อ.สมัย ขำพันธ์ ผอ.รพ.ค่ายพิชัยดาบหัก อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และจิตอาสาของโรงพยาบาล ในการประดิษฐ์ “ถุงบรรเทาทุกข์” หรือถุงประคบร้อน-เย็น ซึ่งเป็นนวัตกรรม เพื่อสุขภาพ ที่พัฒนาขึ้นจากเศษผ้าที่ไม่ใช้แล้ว เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ป่วยโดยไม่คิดมูลค่า
จ.ส.ต.รณกร อิ่มศีล นายสิบซักรีด โรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก ซึ่งเป็นผู้คิดค้นนวัตกรรม “ถุงบรรเทาทุกข์” กล่าวว่า แต่ละปีโรงพยาบาลต้องจัดซื้อผ้าขนหนูจำนวนมากเพื่อใช้ห่อถุงเจลประคบร้อน-เย็น ในการดูแลผู้ป่วยโรคข้อ หรือฟกช้ำจากอุบัติเหตุ รวมถึงทหารใหม่และนักเรียนพลเสนารักษ์ที่บาดเจ็บจากการฝึก ในขณะที่ทุกปีจะมีผ้าที่ใช้อบฆ่าเชื้อเครื่องมือแพทย์หมดอายุเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้เป็นผ้าขี้ริ้ว จึงได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มาสร้างนวัตกรรมถุงประคบร้อน-เย็น จากเศษผ้าที่ไม่ใช่แล้วเหล่านี้ โดยร่วมกับแผนกต่างๆ ของโรงพยาบาล และจิตอาสา ใช้เวลาว่างเว้นจากการปฏิบัติหน้าที่ ร่วมกันเย็บถุงผ้า บรรจุเจลร้อน-เย็น ที่ได้มาฟรีพร้อมกับยาหรือวัคซีน โดยมีสายรัดติดกับอวัยวะในบริเวณที่เจ็บปวด
"นอกจากประหยัดงบประมาณในการจัดซื้อผ้าขนหนูปีละจำนวนมาก ยังช่วยให้คนไข้สามารถเคลื่อนไหวร่างกายทำกิจกรรมต่างๆ ได้ ในขณะที่แพทย์ พยาบาล ก็สามารถให้การดูแลรักษาผู้ป่วยรายอื่นได้ นอกจากนี้ เพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้สูงสุด จึงต่อยอดปักผ้าด้วยไข่มุกเม็ดโต สำหรับนวดกระตุ้นบริเวณฝ่าเท้าได้อีกด้วย โดยผลิตได้วันละ 50 ถุง เพื่อแจกจ่ายให้คนไข้ หรือประชาชนที่สนใจฟรี ซึ่งขณะนี้มีผู้มาลงทะเบียนขอรับแล้วจำนวนกว่า 200 ราย"
ขณะที่ พ.อ.สมัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า โรงพยาบาลฯ ให้ความสำคัญกับการคิดค้นนวัตกรรมต่างๆ ขึ้นมาพัฒนาบริการประชาชน ซึ่งในส่วนของการประคบร้อน–เย็น เป็นวิธีการรักษาอาการบาดเจ็บ และการบวมที่จำเป็น โดยประคบเย็นภายใน 24–48 ชั่วโมงหลังได้รับบาดเจ็บ ช่วยทำให้เส้นเลือดหดตัว ทำให้เลือดออกน้อยลง ป้องกันการบวม และประคบร้อนหลังจาก 48 ชั่วโมงไปแล้ว เพื่อทำให้เส้นเลือดขยายตัว ลดอาการตึงของกล้ามเนื้อ ซึ่งได้รับความพึงพอใจจากผู้ใช้บริการอย่างมาก และได้ส่งผลงานนี้ เข้าประกวดนวัตกรรมกับกรมแพทย์ทหารบกด้วย
เกี่ยวกับประโยชน์ของสิ่งที่เคยใช้แล้วนี้ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด จะอุดรธานี ได้เคยเทศน์อบรมฆราวาส เมื่อวันที่ 27 ต.ค.2524 โดยกล่าวถึงประโยชน์จีวรขาดความว่า "พระอานนท์ ผ้าจีวรท่านขาด ท่านก็เอามีดยำแล้วขยำกับดินเหนียวฉาบทาฝากุฏิท่าน ทางเมืองอินเดียคงร้อนมากหรือไง ทำฝาผนังกุฏิด้วยดินเหนียว ท่านนำไปพอกฝากุฏิไม่ทิ้ง อะไรๆ เมื่อยังใช้ได้อยู่ ท่านพยายามซ่อมแซมใช้อย่างนั้นตลอดไป มาสมัยปัจจุบันนี้ก็คือท่านอาจารย์มั่น ผ้าจีวร สบง ผ้าอาบน้ำ แม้ที่สุดผ้าเช็ดมือไม่ทราบว่ากี่ปะกี่ชุน มองดูที่ปะๆ ชุนๆ นั้นเหมือนเสือดาว ในจีวร สบง ผ้าอาบน้ำ เครื่องบริขารใช้สอยของท่าน ใครจะไปเปลี่ยนให้ไม่ได้นะ
"มันใช้ได้ดีอยู่ ไม่เห็นหรือ" นั่น มันเจ็บขนาดไหนล่ะ ท่านสอนอย่างนั้นด้วย ท่านทำอย่างนั้นด้วย ท่านไม่ตื่นเต้นหลงใหลกับอะไร พระองค์ไหนมาหานี่จี้แต่เรื่องสมาธิ จี้แต่เรื่องปัญญา สอนอรรถสอนธรรมเพื่อความสงบร่มเย็น เจริญทางภายใน ส่วนภายนอกท่านไม่เห็นว่าอะไร ท่านไม่สนใจและท่านก็เจริญอย่างนั้น ท่านหาอะไรท่านก็เจริญทางนั้น หาธรรมก็เจริญในธรรม หาอะไรก็เจออันนั้น เพราะสิ่งเหล่านี้มีอยู่ด้วยกัน หาทุกข์เจอทุกข์ หาสุขเจอสุข หาอะไรก็เจออันนั้น สิ่งเหล่านี้มีอยู่ในโลกทำไมจะไม่เจอ"
...............
(หมายเหตุ : ขอบคุณข้อมูลจาก สวท.อุตรดิตถ์ กรมประชาสัมพันธ์ และข้อมูลจาก www.luangta.com)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น