วันเสาร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2561

5 วิธีฝึกสติสำหรับคุณแม่แม้วันที่วุ่นวายมากที่สุด



คุณแม่หลายคนรู้สึกว่าตัวเองมักท่วมท้นด้วยความรับผิดชอบหลายอย่างในชีวิตทั้งหน้าที่การงานและการดูแลครอบครัว พวกคุณจึงเริ่มตั้งคำถามถึงความสามารถของตัวเอง มองหาคำตอบจากสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้จากสิ่งรอบตัวและยังกังขาว่าจะเป็นแม่ที่ดีได้อย่างไร ความจริงแล้วคำตอบอยู่ที่ตัวคุณเองถ้าคุณให้เวลากับตัวเองที่จะเงียบและฟังเสียงของคุณ...เรียนรู้ที่จะฟังเสียงจากภายในและปัญญาญาณของตัวเอง

คุณจะกลายเป็นคุณแม่ที่มีสติเมื่อคุณเรียนรู้ที่จะทบทวนความคิด ความเชื่อ และการกระทำของตัวเอง ความตระหนักของคุณจะทำให้คุณระมัดระวังที่จะปฏิสัมพันธ์กับลูกๆ และคุณก็เรียนรู้ที่จะชื่นชมความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน คุณเรียนรู้ที่จะตอบสนองกับลูกๆ มากกว่าที่จะตอบสนองต่อพฤติกรรมของพวกเขา และแม้แต่ในวันที่ยุ่งมากที่สุดก็จะใช้เวลานิดเดียวหากคุณเลือกที่จะใช้สติกับความเป็นแม่ของคุณ ข้อแนะนำเหล่านี้จะช่วยคุณได้

1. การเชื่อมโยงคือกุญแจ ลูกๆ ต้องการการเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งจากคุณ มีงานวิจัยพบว่าลูกที่รู้สึกเชื่อมโยงกับพ่อแม่ของตนจะให้ความร่วมมือ รับฟังและยอมที่จะทำตามสิ่งที่พ่อแม่บอก ถ้าสิ่งที่คุณพูดกับลูกมักจะเป็นการออกคำสั่งหรือต้องทำตาม (เช่น ไปอาบน้ำ ทำการบ้านรึยัง ไปทำความสะอาดห้อง) ให้คุณคิดถึงการเชื่อมโยงก่อนที่จะสั่งการ อย่าลืมที่จะมองตากัน มองให้เห็นลูกของคุณ มองเห็นเขาตามจริงอย่างที่เขาเป็น เด็กๆ ส่วนใหญ่ชอบการสัมผัส แม้แต่ลูกที่เป็นวัยรุ่นที่มักจะต่อต้านการกอดเขาจะรู้สึกสบายใจกับการชกหรือแตะเบาๆ คุณสามารถที่จะให้ความใส่ใจและถามลูกก่อนว่าเขายอมที่จะให้กอดหรือเปล่าหรือเพียงแค่เขาอยากนั่งใกล้ๆ คุณ มีหลายวิธีที่คุณจะเชื่อมโยงกันได้

2. เปลี่ยนแว่น หลายมุมมองของคุณมักจะเป็นไปตามความคุ้นชินเดิมๆ โดยที่ไม่ระวังว่าจะเกินไปจากความเป็นจริงในสิ่งที่เราเห็น แว่นที่คุณใช้มองมาจากประสบการณ์เดิมและมักจะบิดเบี้ยวไปจากข้อความหรือสิ่งที่เราได้รับระหว่างทาง เพียงแต่เรามองโลกด้วยสายตาที่อ่อนโยน ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกรุณาและการยอมรับ เมื่อนั้นเราจะเข้าใจมากขึ้น
การมองด้วยสายตาที่อ่อนโยนทำให้เราวางสมมติฐานและการตัดสินลง ทำให้เราได้ขุดลงไปในการรับรู้และสิ่งที่เรายึดติดอยู่เพื่อที่จะเปิดใจออกมาให้เห็นลูกของเราอย่างแท้จริง ไม่ใช่อย่างที่เราอยากเห็นหรืออยากให้เขาเป็น เริ่มจากที่คุณยอมรับและรักตัวเอง ซึ่งจะส่งผลให้เมื่อเรามองดูลูกจะมองเห็นเขาจริงๆ ในสิ่งที่เขาเป็นสิ่งที่ปรากฏเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในชีวิตคุณ เมื่อคุณเริ่มมองเห็นอย่างชัดเจนขึ้นและจริงแท้ในความสัมพันธ์ระหว่างคุณและลูก คุณก็จะสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ยากได้

3. สิ่งที่สื่อสารกันนั้นสำคัญ ข้อความของคุณมีพลังมากในการเลี้ยงดูหัวใจของลูกซึ่งจะเป็นสิ่งที่บ่มเพาะการเติบโตของเขา ความศรัทธาที่คุณมีต่อลูกก็มีอิทธิพลต่อการที่ลูกคุณจะศรัทธาตัวเขาเอง การกล่าวข้อความในเชิงบวกและพูดสิ่งที่ดีก็จะทำให้ลูกของคุณเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้
ตัวอย่างข้อความในเชิงบวกที่คุณสามารถพูดกับลูกได้ เช่น
- แม่ชอบที่จะนั่งใกล้ๆ ลูกนะ
- เมื่อไรที่แม่มองดูลูก แม่มักจะยิ้มเสมอ
- แม่มักจะเห็นลูกทำงานหนักอยู่เสมอ
- แม่สังเกตว่าลูกมักจะใช้เวลาในการคิดถึงบางอย่างก่อนที่จะตัดสินใจ – แม่จะปล่อยให้ลูกได้คิดก่อน
- วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยหนัก และเราก็ผ่านวันนี้มาได้ด้วยดี เราจะเริ่มกันใหม่ในวันพรุ่งนี้
คำพูดในเชิงบวกเหล่านี้ที่คุณกล่าวกับลูกจะไม่ขึ้นอยู่กับอารมณ์ความรู้สึก ความเชื่อ หรือพฤติกรรมของลูกคุณ มันไม่มีเงื่อนไขใดๆ ในสิ่งที่คุณจะได้พูดออกมา คุณชื่นชมออกมาจากสิ่งที่ลูกเป็นของเขาจริงๆ

4. ดูแลตัวคุณเอง แม่หลายคนจะให้การดูแลคนอื่นมากกว่าที่จะดูแลเอาใจใส่ตัวเอง การดูแลตัวเองไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว เวลาคุณขึ้นเครื่องบิน แอร์โฮสเตสจะบอกให้แม่ใส่หน้ากากออกซิเจนให้ตนเองก่อนแล้วจึงใส่ให้ลูกซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ขัดต่อความคิดของคนที่เป็นแม่ แต่การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญมากต่อการเป็นอยู่ของคุณและต่อลูกของคุณ เพราะคุณจะให้สิ่งที่คุณไม่มีต่อตนเองกับลูกคุณได้อย่างไรถ้าคุณไม่ดูแลตัวเอง

5. ในการเล่นลูกๆ ทำได้ดีที่สุด ผู้เขียนได้ถามกับเด็กเล็กและเด็กโตถึงสิ่งที่เขาปรารถนาหากสามารถที่จะปรับเปลี่ยนเรื่องในครอบครัวได้ ส่วนใหญ่ตอบว่า “อยากให้แม่มีความสุข...แม่มักจะเครียดอยู่เสมอ” 
การเล่นจะลดความเครียดได้ มีการศึกษาว่าครอบครัวที่ได้เล่นด้วยกันจะมีสายสัมพันธ์ที่เข้มแข็งให้ความร่วมมือและมีการสื่อสารกันภายในครอบครัว ธรรมชาติของมนุษย์นั้นต้องการให้ถูกมองเห็นและได้ยิน เด็กๆ ก็เช่นกัน การที่ได้เล่นด้วยกันนั้นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากที่ได้ให้สิ่งเหล่านั้นนั่นคือพวกเขามีตัวตนในสายตาของพ่อแม่ ประโยชน์อย่างมากจากการเล่นกับลูกคือการสร้างความสัมพันธ์มันช่วยให้เราเชื่อมโยงกับลูกได้แม้จะอยู่ในสถานะที่แตกต่างกัน จงเปิดรับคำแนะนำจากลูกๆ ในกิจกรรมการเล่นต่างๆ เพราะพวกเขาคือผู้เชี่ยวชาญ

เมื่อคุณได้ฝึกสติกับวิธีการเหล่านี้แล้วคุณจะเริ่มค้นพบคำตอบของคุณ คุณจะทบทวนตัวเอง ตัดสินใจอย่างมีสติ และเรียนรู้ที่จะไว้วางใจปัญญาญาณของตน และคุณจะเริ่มค้นพบว่าอะไรคือสิ่งสำคัญต่อคุณและครอบครัว

ในวันแม่นี้ขอให้คุณเรียนรู้ที่จะไว้วางใจตัวเองและจำไว้ว่าคำตอบมีอยู่แล้วภายในตัวคุณ เรียนรู้ที่จะปลดปล่อยความสงสัยในตัวเองและความรู้สึกผิดแบบแม่ๆ ขอให้สนุกกับลูกๆ และปลุกความสดใสร่าเริงในความเป็นแม่ของคุณ

แปลและเรียบเรียงจาก : 5 Practical Ways to Be a More Mindful Mom Even on Your Busiest Days
โดย Bonnie Compton
https://www.workingmother.com/5-practical-ways-to-be-more-m…

.....................

(หมายเหตุ : ข้อมูลจากเฟซบุ๊ก  เครือข่ายพุทธิกา)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์ ๕. ปารายนวรรค ในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย สุตตนิบาต

วิเคราะห์ ๕. ปารายนวรรค ในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย สุตตนิบาต ในปริบทพุทธสันติวิธี บทนำ "ปารายนวรรค...