ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

"เศรษฐา" สักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย มอบ "จุลพันธ์" เร่งจ่ายเยียวยาค่าตอบแทนครูร.ร.พระปริยัติธรรม



"เศรษฐา"สักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย  ท่ามกลางฝนโปรยปรายลงมา ก่อนปิดภารกิจตรวจราชการเชียงใหม่  กราบเจ้าอาวาสวัดศรีโสดา มอบ"จุลพันธ์" เร่งดำเนินการจ่ายเยียวยาค่าตอบแทนครู โรงเรียนพระปริยัติธรรม

เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง พร้อมด้วยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีดีอีเอส และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางมาสักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นภารกิจแรกในการเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ และตรวจราชการวันสุดท้าย โดยมีประชาชนและคนเสื้อแดงในพื้นที่มารอต้อนรับ 

โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงได้กราบสักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ก่อนที่จะกราบนมัสการเจ้าอาวาสวัดศรีโสดา พระอารามหลวง ซึ่งเจ้าอาวาสได้ขอให้นายกรัฐมนตรีเร่งดำเนินการจ่ายเยียวยาค่าตอบแทนครู โรงเรียนพระปริยัติธรรม หรือ จศป. ที่เกิดความล่าช้า โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขอให้นายจุลพันธ์ ไปดู เนื่องจากใกล้สิ้นปีงบประมาณแล้ว และหากถูกกฎหมายก็จะรีบดำเนินการให้ตนรับเรื่อง (ดูภาพเพิ่มเติมได้ที่ https://www.thaigov.go.th/gallery/contents/details/11156

อย่างไรก็ตามมีประชาชน อสม. กลุ่มชาติพันธุ์ม้งดอยปุย มารอต้อนรับนายกรัฐมนตรีเพื่อมอบดอกไม้ให้กำลังใจ ท่ามกลางฝนที่โปรยปรายลงมา ส่วนบรรยากาศการรักษาความปลอดภัย มีการตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบเต็มพื้นที่

ขณะที่ เวลา 09.30 น. นายกรัฐมนตรี จะไปพบปะประชาชน ที่คาดว่าได้รับผลกระทบจากการเพิ่มเที่ยวบิน ที่เทศบาลเมืองแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ก่อนพบปะผู้บริหารท่าอากาศยานเชียงใหม่ ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพื่อพูดคุยถึงประเด็นการเพิ่มเที่ยวบินหลังเที่ยงคืนในการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้น และเดินทางกลับกรุงเทพฯ เพื่อเป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนการป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด และพิธีทำลายยาเสพติดของกลางของสำนักงาน ป.ป.ส. ที่สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ ต่อในช่วงบ่าย

นอกจากนี้นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีกำหนดเดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (78th Session of the United Nations General Assembly: UNGA78) ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 18-24 ก.ย.66

@siampongnews ชุดจี้พร้อมแหนบกลัด #3พระอรหันต์ร้านต้นฉบับ ♬ Ready - Official Sound Studio

โดยในโอกาสการเดินทางเพื่อปฏิบัติภารกิจนอกประเทศครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ นอกจากเป็นโอกาสให้ได้พบหารือกับผู้นำต่างประเทศ ผู้นำองค์การระหว่างประเทศ บุคคลสำคัญ เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศ ทั้งผ่านกรอบทวิภาคี และพหุภาคี ยังมีกำหนดการที่เกี่ยวข้องกับองค์การสหประชาชาติ อาทิ การกล่าวถ้อยแถลงในการอภิปรายทั่วไปการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78

การกล่าว Welcoming Remarks ในกิจกรรมคู่ขนานระดับสูง ของประเทศไทย และอาเซียน ในหัวข้อ “Fostering Partnership for Our Common Future: Enhancing Multi-Stakeholder Partnerships to Accelerate the SDGs in ASEAN” ซึ่งประเทศไทย และ คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิกแห่งสหประชาชาติ (UNESCAP) ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ การกล่าวในกิจกรรมระดับผู้นำ Climate Ambition Summit และการเข้าร่วมการประชุม High-level Meeting on Global Development Initiative (GDI) Cooperation Outcome ซึ่งนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำจะนำเสนอบทบาทของไทยด้านความร่วมมือเพื่อต่อสู้กับความท้าทายระหว่างประเทศในเรื่องสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

@siampongnews กาแฟดำจินดา 1 แถม 1 [กาแฟดำ 1 + โกโก้ 1] ลดราคาเหลือเพียง ฿390.00! #คนจนมีสิทธิไหมคะ ♬ Cooking Time - Lux-Inspira

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพบหารือกับบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ของต่างประเทศ และมีกำหนดพบหารือกับผู้บริหารสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกาและอาเซียน (US-ASEAN Business Council: USABC) หอการค้าสหรัฐอเมริกา (US Chamber of Commerce: USCC) และภาคเอกชนสหรัฐฯ ซึ่งมีบริษัทเอกชนมาร่วมจำนวนมาก เพื่อเพิ่มความมั่นใจ ยืนยันแนวทางด้านนโยบายของไทยที่สนับสนุนการค้าการลงทุนกับต่างประเทศ นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจ จนส่งผลให้ภาพรวมของวิถีชีวิตประชาชนดีขึ้น

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รากและเถาตำลึงตากแห้งสรรพคุณเพียบ

วันนี้ 17 กรกฏาคม 2562 สำหรับประโยชน์ของตำลึงด้านการบำรุงร่างกายและการรักษาโรค สามารถใช้ประโยชน์ได้จาก ใบตำลึง ลำต้นตำลึง และ รากตำลึง รายละเอียด ดังนี้ ใบตำลึง สรรพคุณช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเสื่อมความเซลล์ในร่างกาย ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยป้องกันมะเร็ง ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคโลหิตจาง บำรุงหัวใจ บำรุงกระดูกและฟัน บำรุงสายตา บำรุงเลือด บำรุงน้ำนมแม่ ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยดับพิษร้อน ลดความร้อนในร่างกาย  แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ขับพิษในลำไส้ แก้ท้องผูก ช่วยแก้ผดผื่นคัน รักษาพิษแมลงสัตว์กัดต่อย รักษาฝี รักษาแผลอักเสบ ป้องกันตะคริว รากตำลึง สรรพคุณช่วยลดไข้  แก้อาเจียน บำรุงสายตา เป็นยาระบาย แก้อักเสบ รักษาแผลอักเสบ ลำต้นตำลึง สรรพคุณแก้อาการวิงเวียนศีรษะ แก้อาการตาแดง ลดอาการตาช้ำ ดอกตำลึง สรรพคุณแก้ผดผื่นคัน เมล็ดตำลึง สรรพคุณแก้หิด โทษของตำลึง ตำลึงมีสรรพคุณเป็นยาเย็น หากนำน้ำตำลึงมาทาที่ผิวหนังแล้วไม่รู้สึกเย็น แปลว่า ไม่ถูกโรค ให้หยุดใช้ทันที เพราะ จะทำให้เกิดอาการอักเสบเพิ่มมากขึ้น ตำลึง มีทั้ง ตำลึงตัวผู้ และ ตำลึงตัวเมีย ตำลึงตัวเม

พระปิดตายันต์ยุ่งมหาอุตโม หลวงปู่ทิม เนื้อทองคำ จากรังของ นายกฯกิตติ "เจ้ากรมพระหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่"

พระปิดตายันต์ยุ่งมหาอุตโม หลวงปู่ทิม อิสริโก จัดสร้างเพื่อหารายได้ สร้างหอฉันอุตตโม ออกแบบโดยช่างเกษม มงคลเจริญ ประกอบด้วย เนื้อทองคำ ๑๙ องค์ เนื้อเงิน ๒๙๕ องค์ เนื้อนวโลหะ ๒๕๑๘ องค์ โดยสร้างตามจำนว พ.ศ. หรือปีที่สร้าง คือ ๒๕๑๘ เนื้อนวโลหะกะไหล่ทอง ไม่ระบุจำนวนสร้าง เนื้อตะกั่ว ๑๐,๐๐๐๐ องค์...... พระปิดตายันต์ยุ่งมหาอุตโม เป็นพระปิดตาที่หลวงปู่ทิม ท่านปลุกเสกนานมากถึง ๗ เดือน เหตุในการสร้างพระปิดตารุ่นนี้คุณชินพร สุขสถิตย์ได้จัดสร้างพระปิดตามหาอุตตโมขึ้น มาก็เพื่อนำรายได้มาสร้างหอฉันเพื่อให้พระเณรในวัดละหารไร่ได้ใช้ประโยชน์และเป็นถาวรวัตถุในพระพุทธศาสนา โดยพระชุดนี้ได้นายช่างเกษม เป็นผู้ออกแบบ การสร้างพิมพ์พระปิดตายันต์ยุ่งสมัยนั้นต้องเอาเทียนมาคลึงเป็นเส้นๆ แบบเส้นขนมจีน แล้วจึงเอาขดกัน เป็นองค์พระปิดตาและอักขระเลขยันต์กว่าจะสร้างได้หรือหล่อ ได้แต่ละองค์ต้องใช้เวลามากและพระที่ได้มักไม่งดงาม ดังนั้นพระปิดตาอุตโมรุ่นนี้นี้นายช่างเกษมจึงแกะจากหินอ่อนเป็นแม่แบบ ทำให้หล่อได้ปริมาณมาก โดยครั้งแรกจัดสร้างเป็นเนื้อนวะโลหะเมื่อเปิดจองแล้วปรากฎว่าหมดอย่างรวดเร็วจนได้เ

ฮือฮา! "ครม.ฮุน มาเนต" ตั้งอดีตสมเด็จพระราชาคณะเพิ่งสึกเป็นเลขาฯก.ต่างประเทศ

วันที่ 22 สิงหาคม 2566 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานโดยอ้างแถลงการณ์ของนายเฮง สัมริน อดีตประธานสมัชชาแห่งชาติ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกัมพูชา ในการประชุมรัฐสภาชุดใหม่ของกัมพูชา ซึ่งมีขึ้นในวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ที่ระบุว่า พลเอก ฮุน มาเนต ซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของ สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่แห่งประเทศกัมพูชา อย่างเป็นเอกฉันท์ โดยนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต กล่าวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกัมพูชา หลังการลงมติว่า วันนี้ ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ของกัมพูชา @siampongnews ฮือฮา! ครม. #ฮุนมาเนต ตั้ง อดีตสมเด็จพระราชาคณะเพิ่งสึก ดำรงตำแหน่งเลขาฯ ก.ต่างประเทศ #ข่าวtiktok #tiktokshopครีเอเตอร์ ♬ เสียงต้นฉบับ - ดร.สำราญสมพงษ์นักข่าวป.ธ.5 ทั้งนี้ พรรคประชาชนกัมพูชา หรือ ซีพีพี ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้ง เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย เนื่องจากพรรคฝ่ายค้าน ถูกตัดสิทธิลงเลือกตั้งในครั้งนี้  พร้อมกันนี้นางควน สุดารี ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาแห่งชาติ วาระใหม่ 5 ปี และเป็นนักการเมืองหญิง