เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2566 นายพยุง เหล็กดี นายอำเภอเมืองเลย เผยว่า อำเภอเมืองเลยได้นำหลัก "บวร" (บ้าน วัด ราชการ) เป็นหนึ่งในแนวทางการทำงานเพื่อ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ให้กับพี่น้องประชาชน โดยได้ผนึกกำลังภาคีเครือข่ายลงพื้นที่บ้านโพนค่าย หมู่ที่ 6 ตำบลนาอ้อ อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย ขับเคลื่อน “โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน (Muang Loei City of Happiness) โดยมีปลัดอำเภอเมืองเลย พร้อมด้วยพัฒนาการอำเภอเมืองเลย เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนอำเภอเมืองเลย ผู้บริหารเทศบาลตำบลนาอ้อ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเลย ผู้นำชุมชน และพี่น้องประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรม
นายพยุง เหล็กดี นายอำเภอเมืองเลย กล่าวว่า หลักการของคำว่า "บวร" คือ บ้าน วัด ราชการ ที่มีผู้นำทุกภาคส่วนมาร่วมกันทำสิ่งที่ดี เป็นแบบอย่างของการที่ "ผู้นำต้องทำก่อน" ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ และให้ความสำคัญกับการทำงานแบบบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่ายภาคศาสนา โดยมีวัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทยมาแต่โบราณ ในอดีตเวลาพี่น้องประชาชนเดือดร้อนหรือเจ็บไข้ได้ป่วย สิ่งแรกที่ต้องคิดถึงก็คือ วัดและพระสงฆ์ ซึ่งเป็นทั้ง ครู คลัง ช่าง หมอ ประจำชุมชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่
@siampongnews ผ้ามุ้ง#ผ้ามุ้งกลดพระธุดงค์ ♬ Ready - Official Sound Studio
นายพยุง เหล็กดี นายอำเภอเมืองเลย กล่าวต่อว่า การลงพื้นที่ขับเคลื่อนการดำเนินงานในครั้งนี้ เป็นการจัดกิจกรรมตามโครงการ วัด ประชา รัฐ สร้างสุข โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ 1) กิจกรรมลานบุญ การทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อส่งเสริม สืบสาน และทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา 2) การน้อมนำแนวพระราชดำริด้านการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี "บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง" และ "ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน" ปลูกผักสวนครัวและปลูกไม้ผล ช่วยกระตุ้นและเสริมสร้างให้พี่น้องประชาชนในหมู่บ้านลดรายจ่ายในครัวเรือน มีคลังอาหารพืชผักสวนครัวที่ปลอดสารพิษไว้บริโภคตลอดทั้งปี และที่สำคัญสามารถนำมาแบ่งปันให้กับเพื่อนบ้านและคนในชุมชน 3) การช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางตามนโยบายของรัฐบาลตามแนวทางขจัดความยากจนในครัวเรือนแบบพุ่งเป้าตามข้อมูลระบบ TPMAP และ ThaiQM เพื่อให้การสนับสนุน รวมถึงโอกาสที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตกับประชาชนทุกช่วงวัยในทุกมิติ โดยได้มอบข้าวสารอาหารแห้งแก่ครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง จำนวน 5 ครัวเรือน
นายพยุง เหล็กดี นายอำเภอเมืองเลย กล่าวในช่วงท้ายว่า การหลอมรวมพลังของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนขับเคลื่อนการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จะช่วยสร้างความรักความสามัคคีให้เกิดขึ้นในครัวเรือน ชุมชน สังคม รวมทั้งการมีวัดซึ่งเป็นภาคศาสนาเข้ามาเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนงานนั้น จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนและหมู่บ้านให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้สังคมมีความช่วยเหลือเกื้อกูล ดูแลซึ่งกันและกัน ลดความเหลื่อมล้ำ ด้วยการบูรณาการภาคีเครือข่ายร่วมกัน “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” นำไปสู่การที่พี่น้องประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น