เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566 เวลา 13.30 น. ที่ผ่านมา นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ภรรยา เดินทางเข้ากระทรวงวัฒนธรรม ถนนรัชดาภิเษก โดยมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง หัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับ
ในโอกาสนี้ นายเสริมศักดิ์ พร้อมด้วยนางระเบียบรัตน์ ได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ ประจำกระทรวง ประกอบด้วย พระพุทธสิรีวัฒนธรรโมภาส พระพุทธรูปประจำ วธ. พระสยามเทวาธิราช ศาลตา-ยาย พระพุทธชินราช ณ ศาลาไทย ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ศาลพระภูมิ พระพิฆเนศวร์ บรมครู ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และศาลตา-ยาย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม
จากนั้น รมว.วธ.กราบสักการะพระ ณ ห้องทำงาน ชั้น 7 ณ อาคารวัฒนธรรมวิศิษฏ์ วธ. กราบสักการะพระพุทธชินราช ก่อนนั่งโต๊ะทำงาน และเปิดเอกสารเอาฤกษ์เอาชัย
เข้าทำงานวันแรก นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า วธ.เป็นกระทรวงสำคัญ บ่งบอกความสำคัญของความเป็นชาติ เมื่อได้รับมอบหมายให้มาดูแล วธ. ก็รู้สึกภาคภูมิใจ ตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะทำงานให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี โดยวธ. จะไม่เป็นเพียงแค่กระทรวงด้านสังคมเท่านั้น แต่จะมุ่งแก้ปัญหาในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ วธ.จะเป็นกระทรวงหนึ่งที่จะร่วมกับกระทรวงอื่น ๆ ในการทำเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ ช่วยเหลือประชาชนที่มีทักษะกว่า 20 ล้านคนที่มีรายได้ไม่ถึง 2 หมื่นบาทต่อเดือน ให้มีงานทำมีอาชีพ เป็นนโยบายเร่งด่วน ซึ่งเดิมพรรคเพื่อไทย ในสมัยที่เป็นพรรคไทยรักไทย มีนโยบาย 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ สร้างงานสร้างอาชีพให้แต่ละตำบล
แต่มายุคนี้ที่แถลงนโยบายไว้ คือ 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ เป็นการเจาะลึกวางแนวทางแก้ปัญหาความยากจน เพราะหลักของการพัฒนาต้องพัฒนาเป็นครอบครัว เพื่อบรรลุเป้าหมาย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นนโยบายที่จะต้องกำหนดยุทธศาสตร์ เป็นช่วงเวลา งานนี้ เป็นงานด้านเศรษฐกิจที่สำคัญเพื่อให้ประชาชนมีรายได้ สำหรับแนวทางที่วางไว้ ทางรัฐบาลจะเข้าไปสนับสนุนงบประมาณกว่า 20 ล้านคน ให้มีโอกาสได้ใช้ความสามารถที่มีอยู่ โดยจะต้องมีการสำรวจข้อมูล และเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อให้รู้ฐานรายได้ประชากรที่แท้จริงว่ามีรายได้มากน้อยแค่ไหน และกระจุกตัวอยู่ในส่วนใดบ้าง รวมถึงจะทำให้รู้ว่า แต่ละคนในแต่ละครอบครัว ใครบ้างที่มีพื้นฐาน หรือความสามารถทางด้านใด เพื่อเข้าไปช่วยส่งเสริมพัฒนาให้ถูกต้อง ส่วนจะใช้งบประมาณเท่าไรนั้น ยังไม่สามารถบอกได้ คงต้องดูในเรื่องของความสามารถที่แต่ละครอบครัวมีอยู่ด้วย โดยเรื่องนี้จะเป็นความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ หลายกระทรวง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงที่เกี่ยวข้อง โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด
“ขณะนี้ยังไม่ได้มีการนำแผนงานดังกล่าวมาวิเคราะห์ แต่เบื้องต้นจะมีการจัดตั้งศูนย์ซอฟต์ พาวเวอร์ เรื่องนี้เป็นงานใหญ่ แต่ผมเชื่อมั่นในข้าราชการ และได้มีการหารือกับทางพรรคเพื่อไทย ซึ่งน.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นประธานดำเนินการเรื่องนี้ เพราะถือเป็นสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่ที่ประชาชนรอ ผมเองมาด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจเอาความรู้ความสามารถจากการทำงานทั้งจากกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมมือกันทำงาน จะลงพื้นที่พบวัฒนธรรมจังหวัดและข้าราชการในพื้นที่ เพื่อให้ช่วยขับเคลื่อนงานให้เดินหน้าโดยเร็ว “นายเสริมศักดิ์ กล่าว
รมว.วธ. คนใหม่ กล่าวต่อว่า สำหรับการขับเคลื่อนคุณธรรมจริยธรรม และความรักสามัคคีก็เป็นเรื่องสำคัญ เป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกความเป็นชาติ เกี่ยวข้องกับประชาชนตั้งแต่เกิดจนเสียชีวิต คล้ายกับงานของมท. ซึ่งส่วนตัวไม่กังวล เพราะชีวิตการเป็นนักปกครองที่ผ่านมาเจอเรื่องราวต่าง ๆ มากมาก ตั้งแต่ปราบพวกคอมมิวนิสต์ พวกมีอิทธิพล มาทำงานตรงนี้ มาทำให้ประชาชนรวย มีเงินใช้ไม่ได้เสี่ยงชีวิตใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่ต้องมียุทธวิธีที่เหมาะสม ตนมั่นใจในข้าราชการและพยายามจะดึงความสามารถของทุกคนมาทำงานร่วมกัน
บรรยากาศการเข้าทำงาน ที่ วธ. วันแรกของนายเสริมศักดิ์ เป็นไปอย่างคึกคัก นอกจากนางระเบียบรัตน์ ภรรยาแล้ว ยังมีอ๋อม-น.ส.สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ดาราชื่อดัง และอดีตผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย
พร้อมกันนี้เวลา 17.00 น. นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมคู่สมรส ร่วมกิจกรรม ตลาดวัฒนธรรม สร้างสุข โดยมี นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางโชติกา อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหาร ข้าราชการ และบุคลากรกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วม ณ บริเวณหน้าอาคารวัฒนธรรมวิศิษฏ์ กระทรวงวัฒนธรรม
กิจกรรมในวันนี้ประกอบด้วย ชิม ช้อป อาหารอร่อย ทั้งอาหารคาวหวาน ของใช้นานาชนิด การประกวด Fashion M-Culture 2023 กิจกรรมปิดตาแต่งหน้าสวย และกิจกรรมด้านวัฒนธรรมต่าง ๆ อีกมากมาย กิจกรรมนี้เป็นการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี ให้กับบุคลากรและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงวัฒนธรรม ให้มีความสุขในด้านต่างๆ เป็นองค์กรแห่งความสุข 8 ด้าน ได้แก่ ได้แก่ 1. Happy Body รักสุขภาพ 2. Happy Heart รักการแบ่งปัน 3. Happy Society รักองค์กร 4. Happy Relax รัก (ษา) สมดุลชีวิต 5. Happy Brain รักการเรียนรู้ 6. Happy Soul รักในความดี 7. Happy Family รักครอบครัว และ 8. Happy Money รักการออม นำสู่องค์กรแห่งความสุข (Happy Workplace)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น