ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ประธานองคมนตรีรับมอบทุนเล่าเรียนหลวง สำหรับพระสงฆ์ไทย 85.6 ล้านจากมหาดไทย



พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี รับมอบเงินสมทบโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย จำนวน 85.6 ล้านบาท จากกระทรวงมหาดไทย โดยการบูรณาการของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ร่วมกับสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย และเมืองพัทยา

เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566  เวลา 09.45 น. ที่ทำเนียบองคมนตรี เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี พร้อมด้วยนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา องคมนตรี และพลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี ร่วมรับมอบเงินสมทบโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย จำนวน 85,650,180.48 บาท จากนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายชยาวุธ จันทร อธิบดีกรมที่ดิน นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ร่วมในพิธี

“การมอบเงินสมทบโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทยในครั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ร่วมกับสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย และเมืองพัทยา ได้มีการบูรณาการการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ดำเนินกิจกรรมระดมเงินปัจจัยเพื่อสมทบทุนโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย จำนวน 85,650,180.48 บาท” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงต้น 



นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยังได้กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในปี 2565 ที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด นายอำเภอทั้ง 878 อำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนภาคีเครือข่ายในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ได้พร้อมใจกันจัดกิจกรรมทอดผ้าป่าสมทบโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย ณ วัดที่แต่ละจังหวัดกำหนด โดยส่วนกลาง กระทรวงมหาดไทยดำเนินการจัดที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2565 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้รับเงินปัจจัยถวายสมทบโครงการทุนเล่าเรียนหลวงรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 106 ล้านบาท เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระผู้พระราชทานกำเนิดโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย

“โครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2547 พร้อมพระราชทานทุนปฐมฤกษ์ส่วนพระองค์เป็นทุนแรกเริ่ม เพื่อสนับสนุนพระภิกษุและสามเณรให้ได้มีโอกาสศึกษาพระธรรมวินัย พระปริยัติธรรมให้ลึกซึ้งแตกฉาน มีโอกาสศึกษาพระพุทธศาสนาขั้นสูงจากสถาบันพุทธศาสนาในประเทศ และนำไปเผยแผ่เพื่อเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจและความคิดในการดำเนินชีวิตของพุทธศาสนิกชน โดยผู้รับทุนจะต้องเป็นพระภิกษุ หรือสามเณรที่มีสัญชาติไทยมีศีลาจารวัตรที่งดงามตามพระธรรมวินัย มีความประพฤติเรียบร้อย มีวิริยะอุตสาหะในการศึกษาเล่าเรียนจนสำเร็จหลักสูตร และมีจิตอาสา โดยต้องผ่านการคัดเลือกตามเกณฑ์ของโครงการฯ และของสถานศึกษาที่ศึกษาอยู่ แบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ 1. ทุนศึกษาบาลีชั้นสูง (แบบต่อเนื่อง) เปรียญธรรม 6 - 9 ประโยค 2. ทุนระดับอุดมศึกษา (แบบต่อเนื่อง) ด้านพุทธศาสตร์ ระดับปริญญาตรี-ปริญญาเอก 3. ทุนหลักสูตรอบรมพระนักเทศน์ 4. ทุนหลักสูตรอบรมพระวิปัสสนาจารย์ และ 5. ทุนหลักสูตรอบรมพระธรรมจาริก” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว

@siampongnews #หนังสือสวดมนต์กระแตปกแข็ง ♬ Dj Jalan Pargoy X Goyang Jaypong - DJ MIFTAH

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในแต่ละปี โครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย จะจัดสรรเงินที่ได้รับสมทบจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยเป็นทุนศึกษาบาลีชั้นสูง เปรียญธรรม 6 - 9 ประโยค และทุนระดับอุดมศึกษา ด้านพุทธศาสตร์ ระดับปริญญาตรี-ปริญญาเอก (แบบต่อเนื่อง) รวม 210 ทุน และทุนหลักสูตรอบรมพระนักเทศน์ ทุนหลักสูตรอบรมพระวิปัสสนาจารย์ และทุนหลักสูตรอบรมพระธรรมจาริก ประเภททุนละประมาณ 2,000,000 บาท ต่อปี รวม 6,000,000 บาท ต่อปี เพื่อส่งเสริมและทำนุบำรุงการพระศาสนาให้ดำรงคงอยู่เป็นหลักชัยแก่พุทธศาสนิกชนและประเทศไทย อันเป็นพระราชปณิธานของล้นเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งพวกเราชาวไทยทุกคนสามารถร่วมสมทบในการดำเนินกิจกรรมอันเป็นกุศลนี้ได้ในทุกปี

“สำหรับพี่น้องประชาชนผู้มีจิตศรัทธาและมีความประสงค์ที่จะร่วมสมทบทุนบริจาคเงินในโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย สามารถร่วมสมทบผ่านธนาณัติ ตั๋วแลกเงินธนาคาร เช็คขีดคร่อม ตามที่อยู่ โครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย ทำเนียบองคมนตรี ถนนสราญรมย์ เขตพระนคร กทม. 10200 หรือ โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารออมทรัพย์ ชื่อบัญชี “โครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย" ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด มหาชน สาขาพระบรมมหาราชวัง หมายเลขบัญชี 061-2-06592-5 โดยสามารถส่งหลักฐานการโอนเงิน ทางโทรสารหมายเลข 0-2220-7403 หรือทาง Facebook Fanpage โครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย E-mail: kstm.official@gmail.com และทางไลน์ไอดี kstm565 โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2220-7400 ต่อ 4121, 4217, 4345 และ 4358” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย

 


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รากและเถาตำลึงตากแห้งสรรพคุณเพียบ

วันนี้ 17 กรกฏาคม 2562 สำหรับประโยชน์ของตำลึงด้านการบำรุงร่างกายและการรักษาโรค สามารถใช้ประโยชน์ได้จาก ใบตำลึง ลำต้นตำลึง และ รากตำลึง รายละเอียด ดังนี้ ใบตำลึง สรรพคุณช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเสื่อมความเซลล์ในร่างกาย ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยป้องกันมะเร็ง ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคโลหิตจาง บำรุงหัวใจ บำรุงกระดูกและฟัน บำรุงสายตา บำรุงเลือด บำรุงน้ำนมแม่ ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยดับพิษร้อน ลดความร้อนในร่างกาย  แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ขับพิษในลำไส้ แก้ท้องผูก ช่วยแก้ผดผื่นคัน รักษาพิษแมลงสัตว์กัดต่อย รักษาฝี รักษาแผลอักเสบ ป้องกันตะคริว รากตำลึง สรรพคุณช่วยลดไข้  แก้อาเจียน บำรุงสายตา เป็นยาระบาย แก้อักเสบ รักษาแผลอักเสบ ลำต้นตำลึง สรรพคุณแก้อาการวิงเวียนศีรษะ แก้อาการตาแดง ลดอาการตาช้ำ ดอกตำลึง สรรพคุณแก้ผดผื่นคัน เมล็ดตำลึง สรรพคุณแก้หิด โทษของตำลึง ตำลึงมีสรรพคุณเป็นยาเย็น หากนำน้ำตำลึงมาทาที่ผิวหนังแล้วไม่รู้สึกเย็น แปลว่า ไม่ถูกโรค ให้หยุดใช้ทันที เพราะ จะทำให้เกิดอาการอักเสบเพิ่มมากขึ้น ตำลึง มีทั้ง ตำลึงตัวผู้ และ ตำลึงตัวเมีย ตำลึงตัวเม

พระปิดตายันต์ยุ่งมหาอุตโม หลวงปู่ทิม เนื้อทองคำ จากรังของ นายกฯกิตติ "เจ้ากรมพระหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่"

พระปิดตายันต์ยุ่งมหาอุตโม หลวงปู่ทิม อิสริโก จัดสร้างเพื่อหารายได้ สร้างหอฉันอุตตโม ออกแบบโดยช่างเกษม มงคลเจริญ ประกอบด้วย เนื้อทองคำ ๑๙ องค์ เนื้อเงิน ๒๙๕ องค์ เนื้อนวโลหะ ๒๕๑๘ องค์ โดยสร้างตามจำนว พ.ศ. หรือปีที่สร้าง คือ ๒๕๑๘ เนื้อนวโลหะกะไหล่ทอง ไม่ระบุจำนวนสร้าง เนื้อตะกั่ว ๑๐,๐๐๐๐ องค์...... พระปิดตายันต์ยุ่งมหาอุตโม เป็นพระปิดตาที่หลวงปู่ทิม ท่านปลุกเสกนานมากถึง ๗ เดือน เหตุในการสร้างพระปิดตารุ่นนี้คุณชินพร สุขสถิตย์ได้จัดสร้างพระปิดตามหาอุตตโมขึ้น มาก็เพื่อนำรายได้มาสร้างหอฉันเพื่อให้พระเณรในวัดละหารไร่ได้ใช้ประโยชน์และเป็นถาวรวัตถุในพระพุทธศาสนา โดยพระชุดนี้ได้นายช่างเกษม เป็นผู้ออกแบบ การสร้างพิมพ์พระปิดตายันต์ยุ่งสมัยนั้นต้องเอาเทียนมาคลึงเป็นเส้นๆ แบบเส้นขนมจีน แล้วจึงเอาขดกัน เป็นองค์พระปิดตาและอักขระเลขยันต์กว่าจะสร้างได้หรือหล่อ ได้แต่ละองค์ต้องใช้เวลามากและพระที่ได้มักไม่งดงาม ดังนั้นพระปิดตาอุตโมรุ่นนี้นี้นายช่างเกษมจึงแกะจากหินอ่อนเป็นแม่แบบ ทำให้หล่อได้ปริมาณมาก โดยครั้งแรกจัดสร้างเป็นเนื้อนวะโลหะเมื่อเปิดจองแล้วปรากฎว่าหมดอย่างรวดเร็วจนได้เ

ฮือฮา! "ครม.ฮุน มาเนต" ตั้งอดีตสมเด็จพระราชาคณะเพิ่งสึกเป็นเลขาฯก.ต่างประเทศ

วันที่ 22 สิงหาคม 2566 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานโดยอ้างแถลงการณ์ของนายเฮง สัมริน อดีตประธานสมัชชาแห่งชาติ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกัมพูชา ในการประชุมรัฐสภาชุดใหม่ของกัมพูชา ซึ่งมีขึ้นในวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ที่ระบุว่า พลเอก ฮุน มาเนต ซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของ สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่แห่งประเทศกัมพูชา อย่างเป็นเอกฉันท์ โดยนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต กล่าวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกัมพูชา หลังการลงมติว่า วันนี้ ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ของกัมพูชา @siampongnews ฮือฮา! ครม. #ฮุนมาเนต ตั้ง อดีตสมเด็จพระราชาคณะเพิ่งสึก ดำรงตำแหน่งเลขาฯ ก.ต่างประเทศ #ข่าวtiktok #tiktokshopครีเอเตอร์ ♬ เสียงต้นฉบับ - ดร.สำราญสมพงษ์นักข่าวป.ธ.5 ทั้งนี้ พรรคประชาชนกัมพูชา หรือ ซีพีพี ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้ง เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย เนื่องจากพรรคฝ่ายค้าน ถูกตัดสิทธิลงเลือกตั้งในครั้งนี้  พร้อมกันนี้นางควน สุดารี ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาแห่งชาติ วาระใหม่ 5 ปี และเป็นนักการเมืองหญิง