วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2568

ส่องนโยบาย AI พรรคการเมืองหนุน กลางศึกเลือกตั้งปี 2569


วิเคราะห์แนวโน้มและทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในบริบทของประเทศไทยเป็นฐานพรรคการเมืองสร้างนโยบายหาเสียงเลือกตั้งปี 2569



การก้าวเข้าสู่ปี 2569 ของประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียงหมุดหมายของการจัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งสำคัญ แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนผ่านเชิงโครงสร้างที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) จะทำหน้าที่เป็นทั้งเครื่องมือทางการเมืองและแกนกลางของนโยบายสาธารณะอย่างเต็มรูปแบบ พลวัตของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในระดับสากลได้เปลี่ยนผ่านจากยุคของการสร้างสรรค์เนื้อหา (Generative AI) ไปสู่ยุคของระบบตัวแทนอัจฉริยะ (Agentic AI) ที่มีความสามารถในการตัดสินใจและปฏิบัติการอย่างอิสระ 1 ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายจากสภาวะสังคมสูงวัยระดับสุดยอด (Super-aged Society) ผลิตภาพแรงงานที่ลดลง และความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่ฝังรากลึก 3 การวิเคราะห์แนวโน้มเทคโนโลยี AI ในบริบทนี้จึงต้องมองผ่านเลนส์ของ "เทคโนประชานิยม" (Techno-populism) ที่ความเชี่ยวชาญทางเทคนิคถูกนำมาผสานกับเจตจำนงของประชาชนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระบบการเมืองใหม่ 6

พลวัตและแนวโน้ม AI ระดับโลก: จากเครื่องมือสู่ระบบตัวแทนอัจฉริยะ

ความก้าวหน้าของ AI ในระดับสากลในช่วงปี 2567-2568 บ่งชี้ถึงการเติบโตที่ก้าวกระโดดในด้านประสิทธิภาพการให้เหตุผลที่ซับซ้อนและการประมวลผลข้อมูลหลายมิติ (Multimodal) 7 การทดสอบผ่านเกณฑ์มาตรฐานอย่าง MMMU, GPQA และ SWE-bench แสดงให้เห็นว่า AI มีความสามารถในการแก้ปัญหาเชิงวิชาการระดับสูงและงานวิศวกรรมซอฟต์แวร์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในด้านการเขียนโปรแกรมที่ AI เริ่มทำได้ดีกว่ามนุษย์ภายใต้ข้อจำกัดด้านเวลา 7 การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลโดยตรงต่อการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของพรรคการเมือง เนื่องจาก AI ไม่ใช่แค่ซอฟต์แวร์สนับสนุน แต่กำลังกลายเป็น "แรงงานฐานซิลิกอน" (Silicon-based workforce) ที่สามารถทดแทนงานในกลุ่มวิชาชีพที่เคยใช้ทักษะสูง เช่น นักบัญชี ทนายความ และโปรแกรมเมอร์ 1

ตัวชี้วัดประสิทธิภาพ AI ระดับโลก (2566-2567)คะแนนเพิ่มขึ้น (Percentage Points)นัยสำคัญเชิงนโยบาย
MMMU (ความเข้าใจความรู้หลายสาขา)18.8การใช้ AI วิเคราะห์นโยบายแบบสหวิทยาการ
GPQA (การให้เหตุผลระดับบัณฑิตศึกษา)48.9การวิจัยและนวัตกรรมขั้นสูงในภาครัฐ
SWE-bench (การแก้ปัญหาซอฟต์แวร์)67.3การลดต้นทุนการพัฒนาระบบราชการดิจิทัล

แนวโน้มสำคัญที่พรรคการเมืองต้องตระหนักคือการเปลี่ยนผ่านสู่ Agentic AI หรือระบบที่สามารถ "คิดและทำ" ได้ด้วยตนเองภายในขอบเขตที่กำหนด 8 คาดการณ์ว่ามูลค่าการใช้จ่ายในระบบ Agentic AI ทั่วโลกจะเติบโตด้วยอัตรา CAGR ร้อยละ 150 ไปจนถึงปี 2571 8 ระบบเหล่านี้จะกลายเป็นหัวใจของการบริหารรัฐกิจสมัยใหม่ เช่น การจัดหาคู่สัญญาภาครัฐ (Public Procurement) ที่ใช้ตัวแทน AI ในการตรวจสอบความโปร่งใสและเปรียบเทียบราคาแบบเรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการทุจริตที่เกิดจากความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชน 10

การแข่งขันเชิงภูมิรัฐศาสตร์และอำนาจอธิปไตยทางเทคโนโลยี

สหรัฐอเมริกายังคงเป็นผู้นำในการผลิตโมเดล AI ที่โดดเด่น แต่ประเทศจีนกำลังลดช่องว่างด้านประสิทธิภาพลงอย่างรวดเร็ว โดยความแตกต่างของคะแนนในการทดสอบ MMLU และ HumanEval ลดลงจนเกือบอยู่ในระดับที่เท่ากันในปี 2567 7 สำหรับประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แนวโน้มนี้ส่งผลให้เกิดความจำเป็นในการสร้าง "AI อธิปไตย" (Sovereign AI) หรือความสามารถในการพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่เข้าใจบริบททางภาษาและวัฒนธรรมไทยอย่างลึกซึ้ง เพื่อลดการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานจากภายนอกและป้องกันความเสี่ยงด้านความมั่นคงของข้อมูล 13

บริบทประเทศไทย: การประเมินความพร้อมและยุทธศาสตร์ชาติ 2565-2570

ประเทศไทยได้เริ่มขับเคลื่อนภายใต้แผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (พ.ศ. 2565–2570) โดยมีเป้าหมายในการขยับอันดับความพร้อมด้าน AI ของรัฐบาลให้ขึ้นมาอยู่ใน 50 อันดับแรกของโลก 16 ความสำเร็จเบื้องต้นสะท้อนผ่านการที่อันดับความพร้อมของไทยขยับจากอันดับที่ 59 มาอยู่ที่อันดับ 31 ในปี 2565 เนื่องจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอย่างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ "LANTA" และการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกลางภาครัฐ (GDCC) 18 อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาผ่าน World Digital Competitiveness Ranking 2025 พบว่าไทยตกลงมาอยู่อันดับที่ 38 โดยมีจุดอ่อนสำคัญคือการขาดการลงทุนจากภาคเอกชนในด้าน AI และการขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะ STEM 19

องค์ประกอบความพร้อมด้าน AI ของประเทศไทยสถานะปัจจุบัน (2568)ความท้าทายที่ต้องแก้ไขในนโยบาย 2569
โครงสร้างพื้นฐานการสื่อสาร

5G ครอบคลุม >89% ของประชากร 20

ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงพื้นที่ห่างไกล 21

พลังประมวลผล (Compute)

มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ LANTA 18

ข้อจำกัดด้านพลังงานไฟฟ้าในกรุงเทพฯ 14

บุคลากรและทักษะดิจิทัล

เป้าหมายผลิต 30,000 คนใน 6 ปี 16

คุณภาพแรงงานไม่ตรงความต้องการตลาด 19

กฎระเบียบและจริยธรรม

มี PDPA และร่าง พ.ร.บ. AI 21

ความไม่แน่นอนทางกฎหมายและการบังคับใช้ 19

ข้อบกพร่องเชิงโครงสร้างที่สำคัญคือ "ความแตกแยกของระบบข้อมูล" (Fragmented Data) ในภาครัฐ ซึ่งส่งผลให้การนำ AI มาใช้ในงานบริการประชาชน เช่น ระบบสาธารณสุขหรือการกระจายสวัสดิการ ยังทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ 21 พรรคการเมืองที่ต้องการนำเสนอความทันสมัยในการเลือกตั้งปี 2569 จึงต้องเน้นนโยบายการจัดทำ "คลังข้อมูลที่เชื่อถือได้" (Trusted Data Pooling) และการปลดล็อกข้อจำกัดทางกฎหมายเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานรัฐอย่างปลอดภัย 24

AI กับการแก้ปัญหาสังคมสูงวัยและผลิตภาพแรงงาน

ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ "สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์" (Complete-aged Society) ในปี 2566 และกำลังมุ่งสู่การเป็น "สังคมสูงวัยระดับสุดยอด" ในทศวรรษหน้า 4 สัดส่วนวัยทำงานต่อผู้สูงอายุหนึ่งคนลดลงจาก 4.62 คนในปี 2557 เหลือเพียง 3.22 คนในปี 2566 4 ภาวะนี้สร้างความกดดันมหาศาลต่องบประมาณสวัสดิการและระบบสาธารณสุข นโยบาย AI สำหรับปี 2569 จึงต้องไม่จำกัดอยู่เพียงแค่ภาคเทคโนโลยี แต่ต้องเป็นนโยบายเพื่อ "ความอยู่รอดของสังคม"

การประยุกต์ใช้ AI ในภาคส่วนที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์:

  1. ภาคการเกษตรและ SMEs: การนำ AI มาใช้ในรูปแบบ "สมาร์ทฟาร์ม" และระบบจัดการธุรกิจอัตโนมัติ เพื่อชดเชยแรงงานที่ขาดแคลนและเพิ่มมูลค่าสินค้า 25 โครงการอย่าง "One Tambon, One Digital (OTOD)" เป็นต้นแบบในการแจกคูปองดิจิทัล (d-voucher) ให้เกษตรกรเข้าถึง AI ซึ่งพรรคการเมืองสามารถนำมาขยายผลเป็นนโยบาย "AI เพื่อฐานราก" ได้อย่างเป็นรูปธรรม.25

  2. ระบบสุขภาพอัจฉริยะ: การใช้ AI ในการวินิจฉัยโรคเบื้องต้นผ่านภาพถ่ายทางการแพทย์กว่า 2.2 ล้านภาพ และการเชื่อมต่อผู้ป่วยกับคลินิกผ่านแพลตฟอร์ม Health Link เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล 9 นโยบายนี้จะช่วยลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ที่กำลังเข้าสู่ภาวะขาดแคลน.

  3. การศึกษาและการฝึกทักษะใหม่: การใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมการเรียนรู้รายบุคคล (Personalized Learning) เพื่อลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา 27 และการใช้ AI ในการจับคู่ทักษะ (Skill Mapping) สำหรับผู้สูงอายุที่ยังต้องการทำงาน (Active Ageing) เพื่อให้พวกเขาสามารถสร้างรายได้และมีคุณค่าในสังคมสูงวัย.5

ผลการศึกษาพบว่าการ Reskill แรงงานช่วงอายุ 50-60 ปี จะช่วยลดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจได้ร้อยละ 9 และหากขยายการจ้างงานผู้ที่มีอายุ 60-69 ปี จะช่วยเพิ่มการเติบโตของ GDP ได้ร้อยละ 2 5 ดังนั้น นโยบาย AI ที่มุ่งเน้นการเสริมพลัง (Augmentation) มากกว่าการทดแทน (Replacement) จึงเป็นจุดขายที่สำคัญในการดึงดูดคะแนนเสียงจากคนทุกวัย

พรรคการเมืองกับยุทธศาสตร์เทคโนประชานิยมในการเลือกตั้ง 2569

ทฤษฎีเทคโนประชานิยมบ่งชี้ว่า การเมืองในยุคดิจิทัลจะเปลี่ยนจากการต่อสู้ทางอุดมการณ์เป็นการต่อสู้ผ่าน "ประสิทธิภาพและความโปร่งใส" 6 พรรคการเมืองในประเทศไทยในปี 2569 จะถูกแบ่งออกเป็นสองขั้วใหญ่ในแง่ของการใช้ AI:

ขั้วที่ 1: การใช้ AI เพื่อการสื่อสารและการระดมพล (Micro-targeting)

พรรคการเมืองจะใช้ AI วิเคราะห์ฐานข้อมูลผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อส่งสารที่ปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการเฉพาะบุคคล (Individual preferences) 28 เช่น การระบุความกังวลของกลุ่มคุณแม่รุ่นใหม่ในเขตเมืองเรื่องการศึกษา หรือกลุ่มเกษตรกรในเขตชนบทเรื่องราคาปุ๋ย โดยใช้ Generative AI ผลิตเนื้อหาการหาเสียงที่มีความโน้มน้าวใจสูงและสอดคล้องกับพฤติกรรมการรับชมสื่อของแต่ละคน 29 อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจาก "ห้องแห่งเสียงสะท้อน" (Echo Chambers) และการบิดเบือนข้อมูลผ่าน Deepfakes จะเป็นประเด็นจริยธรรมที่ต้องมีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด 30

ขั้วที่ 2: การเสนอ AI ในฐานะนโยบายการปฏิรูปรัฐ (Integrity by Design)

นโยบาย "With us, no grey" ของพรรคประชาชนเป็นตัวอย่างของการใช้ความโปร่งใสทางเทคโนโลยีเพื่อต่อต้านทุนสีเทาและคอร์รัปชัน 32 การเสนอใช้ AI ในการตรวจสอบงบประมาณแผ่นดินและการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐแบบ Open Data จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการพิสูจน์ "ความสะอาด" ของพรรคการเมือง 11 การเปลี่ยนรัฐราชการที่เทอะทะให้เป็น "Intelligent Government" ที่ทำงานผ่านอัลกอริทึมที่ตรวจสอบได้ จะเป็นสิ่งที่ดึงดูดคะแนนเสียงจากชนชั้นกลางและคนรุ่นใหม่ที่เบื่อหน่ายระบบอุปถัมภ์ 34

แคมเปญการเมืองผ่าน AI ในปี 2569รูปแบบการดำเนินงานผลกระทบต่อระบบประชาธิปไตย
AI-driven Policy Fact-check

ระบบโต้ตอบอัตโนมัติที่ชี้แจงข้อเท็จจริงของนโยบาย 30

เพิ่มความเข้าใจเชิงลึกในนโยบายสาธารณะ
Integrity by Design

ระบบราชการที่โกงไม่ได้ด้วยการตรวจสอบของ AI 11

ลดการทุจริตเชิงนโยบายและระบบอุปถัมภ์
Hyper-representation

การใช้ AI เป็นตัวกลางรับฟังและสรุปความต้องการประชาชน 6

สร้างการมีส่วนร่วมแบบประชาธิปไตยทางตรง

AI เพื่อธรรมาภิบาลและการปราบปรามทุจริต: พรมแดนใหม่ของความโปร่งใส

การทุจริตคอร์รัปชันในประเทศไทยถูกมองว่าเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยมีคะแนนความซื่อสัตย์ในดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชัน (Thai CSI) ลดลงต่อเนื่อง 33 พรรคการเมืองที่สามารถเสนอวิธีแก้ปัญหา "สินบนและการคอร์รัปชัน" ผ่านเทคโนโลยี AI จะได้รับความเชื่อมั่นสูงเป็นพิเศษ แพลตฟอร์มอย่าง "ACT AI" ที่ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐและข้อมูลบุคคลที่มีอำนาจรัฐเพื่อระบุความเสี่ยงในการทุจริต 11 คือจุดเริ่มต้นของการสร้างระบบนิเวศต่อต้านคอร์รัปชันที่ยั่งยืน

นโยบายที่พรรคการเมืองควรผลักดัน:

  • การบังคับใช้ Open Data Charter: การเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ 25 ชุดข้อมูลสำคัญตามมาตรฐานสากลเพื่อให้ AI สามารถนำไปวิเคราะห์ได้อย่างอิสระ.33

  • ระบบ AI Whistleblower: การใช้ระบบแชทบอทอัจฉริยะอย่าง "Corruption Watch" ที่รับแจ้งเหตุทุจริตแบบนิรนามและมีการคุ้มครองพยานทางกฎหมายที่เข้มงวด.37

  • การใช้ AI ในการจัดเก็บภาษีและศุลกากร: เพื่อลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นช่องทางหลักของการเรียกรับสินบน และเพิ่มรายได้เข้าสู่รัฐบาลเพื่อนำมาจัดสวัสดิการ.10

การใช้ AI ในลักษณะ "Integrity actors" จะช่วยสร้างเกราะคุ้มกันให้สังคมไทยจากการทุจริตที่ซับซ้อนในยุคดิจิทัล และเปลี่ยน "ความกลัวการเปิดเผย" ให้เป็น "พลังแห่งการร่วมมือ" 11

กฎหมาย จริยธรรม และสิทธิส่วนบุคคล: การสร้างสมดุลในโลก AI

ในขณะที่พรรคการเมืองมุ่งนำเสนอประโยชน์ของ AI แต่ความกังวลด้านสิทธิมนุษยชนและการละเมิดความเป็นส่วนตัวก็สูงขึ้นเป็นลำดับ 7 ร่างพระราชบัญญัติปัญญาประดิษฐ์ของประเทศไทย (Draft AI Law) ที่กำลังอยู่ในกระบวนการรับฟังความคิดเห็นได้พยายามสร้างสมดุลระหว่าง "การส่งเสริมนวัตกรรม" และ "การป้องกันความเสี่ยง" โดยมีการแบ่งระดับความเสี่ยงของ AI คล้ายกับ EU AI Act 23

สาระสำคัญของร่างกฎหมายที่พรรคการเมืองต้องระบุในนโยบาย:

  1. การกำกับดูแล AI ความเสี่ยงสูง: ระบบที่ใช้ในการระบุตัวตนทางชีวมิติหรือการจัดการโครงสร้างพื้นฐานวิกฤตต้องได้รับการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด.23

  2. สิทธิที่จะได้รับคำอธิบาย (Right to Explanation): ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจของ AI เช่น การขอสินเชื่อหรือการสมัครงาน ต้องมีสิทธิทราบเหตุผลและสามารถโต้แย้งผลลัพธ์ได้.23

  3. การจัดการเนื้อหาที่สร้างโดย AI: ข้อกำหนดในการทำลายน้ำ (Watermarking) และการระบุที่มาของสื่อสังเคราะห์ (Synthetic Media) เพื่อป้องกันความสับสนในสังคม โดยเฉพาะในช่วงการเลือกตั้ง.23

ความสำเร็จของการบังคับใช้กฎหมายเหล่านี้ขึ้นอยู่กับการจัดตั้ง "ศูนย์ธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์" (AI Governance Center) ที่เข้มแข็งและมีความเป็นอิสระจากการเมือง 23 เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและผู้กำกับดูแลที่ไม่ปิดกั้นโอกาสในการแข่งขันของธุรกิจไทยในเวทีโลก 39

โครงสร้างพื้นฐานและพลังงาน: ข้อจำกัดที่ต้องก้าวผ่าน

การเติบโตของ AI ต้องการพลังประมวลผลมหาศาล ซึ่งหมายถึงการขยายตัวของศูนย์ข้อมูล (Data Center) มูลค่าตลาดของดาต้าเซ็นเตอร์ AI ในไทยคาดว่าจะพุ่งสูงถึง 1.27 พันล้านดอลลาร์ในปี 2573 ด้วยอัตราการเติบโต CAGR ร้อยละ 24.88 14 อย่างไรก็ตาม ปัญหาคอขวดสำคัญคือ "ระบบไฟฟ้า" โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่มีเพดานการจ่ายไฟจำกัดที่ 30 MW สำหรับการเชื่อมต่อใหม่ เว้นแต่ผู้ประกอบการจะลงทุนปรับปรุงระบบสายส่งเอง 14

นโยบายการเลือกตั้งปี 2569 ของพรรคการเมืองที่จะตอบโจทย์ความมั่งคั่งในอนาคตจึงต้องรวมถึง:

  • นโยบายพลังงานสะอาดเพื่อ AI: การปลดล็อกการซื้อขายไฟฟ้าเสรีและการสนับสนุนระบบ Microgrids เพื่อให้ดาต้าเซ็นเตอร์สามารถเข้าถึงพลังงานสะอาดได้โดยตรง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจลงทุนของยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี.13

  • การเชื่อมต่อในภูมิภาค (Regional Hub): การใช้ประโยชน์จากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของไทยเพื่อเป็นฐานส่งออกเทคโนโลยี AI ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้โครงข่าย 5G และสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก EEC.14

  • การสนับสนุน AI ที่ขอบ (Edge AI): การลดภาระของดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่โดยการส่งเสริมนวัตกรรม AI ที่ทำงานบนอุปกรณ์โดยตรง เช่น ในโทรศัพท์มือถือหรือรถยนต์ไร้ขับเคลื่อน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวและลดการใช้พลังงาน.13

บทสรุปเชิงนโยบาย: โรดแมปสู่การเลือกตั้ง 2569

การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาเป็นฐานในการสร้างนโยบายหาเสียงเลือกตั้งปี 2569 ไม่ใช่เรื่องของความสวยหรูทางเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่องของการตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของสังคมไทยภายใต้ข้อจำกัดมหาศาล พรรคการเมืองที่ชาญฉลาดต้องมอง AI ในฐานะ "ผู้สนับสนุนทักษะมนุษย์" (Human Augmentation) มากกว่าการเข้ามาทำลายล้าง

ข้อเสนอแนะเชิงยุทธศาสตร์:

  1. การปฏิรูปรัฐด้วย AI: เปลี่ยนรัฐราชการเป็นรัฐบาลดิจิทัลอัจฉริยะที่ใช้ AI ตรวจสอบการทุจริตและอำนวยความสะดวกประชาชนแบบ 24/7 ลดการพึ่งพาตัวบุคคล.33

  2. การแก้ปัญหาสังคมสูงวัยด้วยเทคโนโลยี: ใช้ AI เพิ่มผลิตภาพแรงงานและระบบดูแลสุขภาพทางไกล เพื่อรักษาการเติบโตของ GDP ในภาวะขาดแคลนแรงงาน.5

  3. การสร้างอำนาจอธิปไตยทางข้อมูล: ลงทุนใน AI ภาษาไทยและคลังข้อมูลเปิดที่เป็นธรรม เพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงประโยชน์ของ AI ได้อย่างเท่าเทียมและปลอดภัย.14

  4. ธรรมาภิบาลและการกำกับดูแลที่เป็นธรรม: เร่งออกกฎหมาย AI ที่คุ้มครองสิทธิประชาชนโดยไม่ฆ่าตัดตอนนวัตกรรมของสตาร์ทอัพไทย.23

ในการเลือกตั้งปี 2569 พรรคการเมืองที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า "ปัญญาประดิษฐ์" คือทางออกของ "ปัญหาปากท้อง" และ "ความยุติธรรม" จะเป็นพรรคที่ครองใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่กำลังมองหาความหวังใหม่ท่ามกลางสภาวะโลกที่ผันผวน ประเทศไทยมีพื้นฐานโครงข่ายดิจิทัลที่ดี แต่หัวใจสำคัญของการเปลี่ยนผ่านคือการมี "เจตจำนงทางการเมือง" (Political Will) ที่จะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้อย่างมีจริยธรรมเพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวไทยอย่างแท้จริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ทำแบบมีสมอง นโยบายพรรคการเมือง สู้ศึกศึกเลือกตั้งปี 2569

พลวัตและยุทธศาสตร์นโยบายการเมืองไทยในการเลือกตั้ง 2569: การสังเคราะห์ "นวัตกรรมเชิงบริหาร" และ "ทุนทางวัฒนธรรม" บทคัดย่...