วิเคราะห์แนวโน้มและทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในบริบทของประเทศไทยเป็นฐานพรรคการเมืองสร้างนโยบายหาเสียงเลือกตั้งปี 2569
การก้าวเข้าสู่ปี 2569 ของประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียงหมุดหมายของการจัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งสำคัญ แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนผ่านเชิงโครงสร้างที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) จะทำหน้าที่เป็นทั้งเครื่องมือทางการเมืองและแกนกลางของนโยบายสาธารณะอย่างเต็มรูปแบบ พลวัตของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในระดับสากลได้เปลี่ยนผ่านจากยุคของการสร้างสรรค์เนื้อหา (Generative AI) ไปสู่ยุคของระบบตัวแทนอัจฉริยะ (Agentic AI) ที่มีความสามารถในการตัดสินใจและปฏิบัติการอย่างอิสระ
พลวัตและแนวโน้ม AI ระดับโลก: จากเครื่องมือสู่ระบบตัวแทนอัจฉริยะ
ความก้าวหน้าของ AI ในระดับสากลในช่วงปี 2567-2568 บ่งชี้ถึงการเติบโตที่ก้าวกระโดดในด้านประสิทธิภาพการให้เหตุผลที่ซับซ้อนและการประมวลผลข้อมูลหลายมิติ (Multimodal)
| ตัวชี้วัดประสิทธิภาพ AI ระดับโลก (2566-2567) | คะแนนเพิ่มขึ้น (Percentage Points) | นัยสำคัญเชิงนโยบาย |
| MMMU (ความเข้าใจความรู้หลายสาขา) | 18.8 | การใช้ AI วิเคราะห์นโยบายแบบสหวิทยาการ |
| GPQA (การให้เหตุผลระดับบัณฑิตศึกษา) | 48.9 | การวิจัยและนวัตกรรมขั้นสูงในภาครัฐ |
| SWE-bench (การแก้ปัญหาซอฟต์แวร์) | 67.3 | การลดต้นทุนการพัฒนาระบบราชการดิจิทัล |
แนวโน้มสำคัญที่พรรคการเมืองต้องตระหนักคือการเปลี่ยนผ่านสู่ Agentic AI หรือระบบที่สามารถ "คิดและทำ" ได้ด้วยตนเองภายในขอบเขตที่กำหนด
การแข่งขันเชิงภูมิรัฐศาสตร์และอำนาจอธิปไตยทางเทคโนโลยี
สหรัฐอเมริกายังคงเป็นผู้นำในการผลิตโมเดล AI ที่โดดเด่น แต่ประเทศจีนกำลังลดช่องว่างด้านประสิทธิภาพลงอย่างรวดเร็ว โดยความแตกต่างของคะแนนในการทดสอบ MMLU และ HumanEval ลดลงจนเกือบอยู่ในระดับที่เท่ากันในปี 2567
บริบทประเทศไทย: การประเมินความพร้อมและยุทธศาสตร์ชาติ 2565-2570
ประเทศไทยได้เริ่มขับเคลื่อนภายใต้แผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (พ.ศ. 2565–2570) โดยมีเป้าหมายในการขยับอันดับความพร้อมด้าน AI ของรัฐบาลให้ขึ้นมาอยู่ใน 50 อันดับแรกของโลก
| องค์ประกอบความพร้อมด้าน AI ของประเทศไทย | สถานะปัจจุบัน (2568) | ความท้าทายที่ต้องแก้ไขในนโยบาย 2569 |
| โครงสร้างพื้นฐานการสื่อสาร | 5G ครอบคลุม >89% ของประชากร | ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงพื้นที่ห่างไกล |
| พลังประมวลผล (Compute) | มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ LANTA | ข้อจำกัดด้านพลังงานไฟฟ้าในกรุงเทพฯ |
| บุคลากรและทักษะดิจิทัล | เป้าหมายผลิต 30,000 คนใน 6 ปี | คุณภาพแรงงานไม่ตรงความต้องการตลาด |
| กฎระเบียบและจริยธรรม | มี PDPA และร่าง พ.ร.บ. AI | ความไม่แน่นอนทางกฎหมายและการบังคับใช้ |
ข้อบกพร่องเชิงโครงสร้างที่สำคัญคือ "ความแตกแยกของระบบข้อมูล" (Fragmented Data) ในภาครัฐ ซึ่งส่งผลให้การนำ AI มาใช้ในงานบริการประชาชน เช่น ระบบสาธารณสุขหรือการกระจายสวัสดิการ ยังทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
AI กับการแก้ปัญหาสังคมสูงวัยและผลิตภาพแรงงาน
ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ "สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์" (Complete-aged Society) ในปี 2566 และกำลังมุ่งสู่การเป็น "สังคมสูงวัยระดับสุดยอด" ในทศวรรษหน้า
การประยุกต์ใช้ AI ในภาคส่วนที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์:
ภาคการเกษตรและ SMEs: การนำ AI มาใช้ในรูปแบบ "สมาร์ทฟาร์ม" และระบบจัดการธุรกิจอัตโนมัติ เพื่อชดเชยแรงงานที่ขาดแคลนและเพิ่มมูลค่าสินค้า
25 โครงการอย่าง "One Tambon, One Digital (OTOD)" เป็นต้นแบบในการแจกคูปองดิจิทัล (d-voucher) ให้เกษตรกรเข้าถึง AI ซึ่งพรรคการเมืองสามารถนำมาขยายผลเป็นนโยบาย "AI เพื่อฐานราก" ได้อย่างเป็นรูปธรรม.25 ระบบสุขภาพอัจฉริยะ: การใช้ AI ในการวินิจฉัยโรคเบื้องต้นผ่านภาพถ่ายทางการแพทย์กว่า 2.2 ล้านภาพ และการเชื่อมต่อผู้ป่วยกับคลินิกผ่านแพลตฟอร์ม Health Link เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล
9 นโยบายนี้จะช่วยลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ที่กำลังเข้าสู่ภาวะขาดแคลน.การศึกษาและการฝึกทักษะใหม่: การใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมการเรียนรู้รายบุคคล (Personalized Learning) เพื่อลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
27 และการใช้ AI ในการจับคู่ทักษะ (Skill Mapping) สำหรับผู้สูงอายุที่ยังต้องการทำงาน (Active Ageing) เพื่อให้พวกเขาสามารถสร้างรายได้และมีคุณค่าในสังคมสูงวัย.5
ผลการศึกษาพบว่าการ Reskill แรงงานช่วงอายุ 50-60 ปี จะช่วยลดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจได้ร้อยละ 9 และหากขยายการจ้างงานผู้ที่มีอายุ 60-69 ปี จะช่วยเพิ่มการเติบโตของ GDP ได้ร้อยละ 2
พรรคการเมืองกับยุทธศาสตร์เทคโนประชานิยมในการเลือกตั้ง 2569
ทฤษฎีเทคโนประชานิยมบ่งชี้ว่า การเมืองในยุคดิจิทัลจะเปลี่ยนจากการต่อสู้ทางอุดมการณ์เป็นการต่อสู้ผ่าน "ประสิทธิภาพและความโปร่งใส"
ขั้วที่ 1: การใช้ AI เพื่อการสื่อสารและการระดมพล (Micro-targeting)
พรรคการเมืองจะใช้ AI วิเคราะห์ฐานข้อมูลผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อส่งสารที่ปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการเฉพาะบุคคล (Individual preferences)
ขั้วที่ 2: การเสนอ AI ในฐานะนโยบายการปฏิรูปรัฐ (Integrity by Design)
นโยบาย "With us, no grey" ของพรรคประชาชนเป็นตัวอย่างของการใช้ความโปร่งใสทางเทคโนโลยีเพื่อต่อต้านทุนสีเทาและคอร์รัปชัน
| แคมเปญการเมืองผ่าน AI ในปี 2569 | รูปแบบการดำเนินงาน | ผลกระทบต่อระบบประชาธิปไตย |
| AI-driven Policy Fact-check | ระบบโต้ตอบอัตโนมัติที่ชี้แจงข้อเท็จจริงของนโยบาย | เพิ่มความเข้าใจเชิงลึกในนโยบายสาธารณะ |
| Integrity by Design | ระบบราชการที่โกงไม่ได้ด้วยการตรวจสอบของ AI | ลดการทุจริตเชิงนโยบายและระบบอุปถัมภ์ |
| Hyper-representation | การใช้ AI เป็นตัวกลางรับฟังและสรุปความต้องการประชาชน | สร้างการมีส่วนร่วมแบบประชาธิปไตยทางตรง |
AI เพื่อธรรมาภิบาลและการปราบปรามทุจริต: พรมแดนใหม่ของความโปร่งใส
การทุจริตคอร์รัปชันในประเทศไทยถูกมองว่าเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยมีคะแนนความซื่อสัตย์ในดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชัน (Thai CSI) ลดลงต่อเนื่อง
นโยบายที่พรรคการเมืองควรผลักดัน:
การบังคับใช้ Open Data Charter: การเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ 25 ชุดข้อมูลสำคัญตามมาตรฐานสากลเพื่อให้ AI สามารถนำไปวิเคราะห์ได้อย่างอิสระ.
33 ระบบ AI Whistleblower: การใช้ระบบแชทบอทอัจฉริยะอย่าง "Corruption Watch" ที่รับแจ้งเหตุทุจริตแบบนิรนามและมีการคุ้มครองพยานทางกฎหมายที่เข้มงวด.
37 การใช้ AI ในการจัดเก็บภาษีและศุลกากร: เพื่อลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นช่องทางหลักของการเรียกรับสินบน และเพิ่มรายได้เข้าสู่รัฐบาลเพื่อนำมาจัดสวัสดิการ.
10
การใช้ AI ในลักษณะ "Integrity actors" จะช่วยสร้างเกราะคุ้มกันให้สังคมไทยจากการทุจริตที่ซับซ้อนในยุคดิจิทัล และเปลี่ยน "ความกลัวการเปิดเผย" ให้เป็น "พลังแห่งการร่วมมือ"
กฎหมาย จริยธรรม และสิทธิส่วนบุคคล: การสร้างสมดุลในโลก AI
ในขณะที่พรรคการเมืองมุ่งนำเสนอประโยชน์ของ AI แต่ความกังวลด้านสิทธิมนุษยชนและการละเมิดความเป็นส่วนตัวก็สูงขึ้นเป็นลำดับ
สาระสำคัญของร่างกฎหมายที่พรรคการเมืองต้องระบุในนโยบาย:
การกำกับดูแล AI ความเสี่ยงสูง: ระบบที่ใช้ในการระบุตัวตนทางชีวมิติหรือการจัดการโครงสร้างพื้นฐานวิกฤตต้องได้รับการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด.
23 สิทธิที่จะได้รับคำอธิบาย (Right to Explanation): ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจของ AI เช่น การขอสินเชื่อหรือการสมัครงาน ต้องมีสิทธิทราบเหตุผลและสามารถโต้แย้งผลลัพธ์ได้.
23 การจัดการเนื้อหาที่สร้างโดย AI: ข้อกำหนดในการทำลายน้ำ (Watermarking) และการระบุที่มาของสื่อสังเคราะห์ (Synthetic Media) เพื่อป้องกันความสับสนในสังคม โดยเฉพาะในช่วงการเลือกตั้ง.
23
ความสำเร็จของการบังคับใช้กฎหมายเหล่านี้ขึ้นอยู่กับการจัดตั้ง "ศูนย์ธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์" (AI Governance Center) ที่เข้มแข็งและมีความเป็นอิสระจากการเมือง
โครงสร้างพื้นฐานและพลังงาน: ข้อจำกัดที่ต้องก้าวผ่าน
การเติบโตของ AI ต้องการพลังประมวลผลมหาศาล ซึ่งหมายถึงการขยายตัวของศูนย์ข้อมูล (Data Center) มูลค่าตลาดของดาต้าเซ็นเตอร์ AI ในไทยคาดว่าจะพุ่งสูงถึง 1.27 พันล้านดอลลาร์ในปี 2573 ด้วยอัตราการเติบโต CAGR ร้อยละ 24.88
นโยบายการเลือกตั้งปี 2569 ของพรรคการเมืองที่จะตอบโจทย์ความมั่งคั่งในอนาคตจึงต้องรวมถึง:
นโยบายพลังงานสะอาดเพื่อ AI: การปลดล็อกการซื้อขายไฟฟ้าเสรีและการสนับสนุนระบบ Microgrids เพื่อให้ดาต้าเซ็นเตอร์สามารถเข้าถึงพลังงานสะอาดได้โดยตรง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจลงทุนของยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี.
13 การเชื่อมต่อในภูมิภาค (Regional Hub): การใช้ประโยชน์จากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของไทยเพื่อเป็นฐานส่งออกเทคโนโลยี AI ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้โครงข่าย 5G และสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก EEC.
14 การสนับสนุน AI ที่ขอบ (Edge AI): การลดภาระของดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่โดยการส่งเสริมนวัตกรรม AI ที่ทำงานบนอุปกรณ์โดยตรง เช่น ในโทรศัพท์มือถือหรือรถยนต์ไร้ขับเคลื่อน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวและลดการใช้พลังงาน.
13
บทสรุปเชิงนโยบาย: โรดแมปสู่การเลือกตั้ง 2569
การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาเป็นฐานในการสร้างนโยบายหาเสียงเลือกตั้งปี 2569 ไม่ใช่เรื่องของความสวยหรูทางเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่องของการตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของสังคมไทยภายใต้ข้อจำกัดมหาศาล พรรคการเมืองที่ชาญฉลาดต้องมอง AI ในฐานะ "ผู้สนับสนุนทักษะมนุษย์" (Human Augmentation) มากกว่าการเข้ามาทำลายล้าง
ข้อเสนอแนะเชิงยุทธศาสตร์:
การปฏิรูปรัฐด้วย AI: เปลี่ยนรัฐราชการเป็นรัฐบาลดิจิทัลอัจฉริยะที่ใช้ AI ตรวจสอบการทุจริตและอำนวยความสะดวกประชาชนแบบ 24/7 ลดการพึ่งพาตัวบุคคล.
33 การแก้ปัญหาสังคมสูงวัยด้วยเทคโนโลยี: ใช้ AI เพิ่มผลิตภาพแรงงานและระบบดูแลสุขภาพทางไกล เพื่อรักษาการเติบโตของ GDP ในภาวะขาดแคลนแรงงาน.
5 การสร้างอำนาจอธิปไตยทางข้อมูล: ลงทุนใน AI ภาษาไทยและคลังข้อมูลเปิดที่เป็นธรรม เพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงประโยชน์ของ AI ได้อย่างเท่าเทียมและปลอดภัย.
14 ธรรมาภิบาลและการกำกับดูแลที่เป็นธรรม: เร่งออกกฎหมาย AI ที่คุ้มครองสิทธิประชาชนโดยไม่ฆ่าตัดตอนนวัตกรรมของสตาร์ทอัพไทย.
23
ในการเลือกตั้งปี 2569 พรรคการเมืองที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า "ปัญญาประดิษฐ์" คือทางออกของ "ปัญหาปากท้อง" และ "ความยุติธรรม" จะเป็นพรรคที่ครองใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่กำลังมองหาความหวังใหม่ท่ามกลางสภาวะโลกที่ผันผวน ประเทศไทยมีพื้นฐานโครงข่ายดิจิทัลที่ดี แต่หัวใจสำคัญของการเปลี่ยนผ่านคือการมี "เจตจำนงทางการเมือง" (Political Will) ที่จะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้อย่างมีจริยธรรมเพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวไทยอย่างแท้จริง

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น