วิเคราะห์หลักธรรมในพระไตรปิฎกที่สัมพันธ์กับภูเขาคิชฌกูฏอินเดีย และการประยุกต์ใช้กับการเมืองไทย
บทความนี้วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่าง ภูเขาคิชฌกูฏ (Gijjhakūṭa) ในประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา กับหลักธรรมในพระไตรปิฎก และนำเสนอการประยุกต์ใช้แนวคิดดังกล่าวกับการเมืองไทยในบริบทปัจจุบัน โดยอ้างอิงถึงกรณีการเดินทางไปสักการะและปฏิบัติธรรม ณ สถานที่แห่งนี้
1. ความสำคัญของภูเขาคิชฌกูฏในพระไตรปิฎก
ภูเขาคิชฌกูฏตั้งอยู่ในเมืองราชคฤห์ รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย เป็นหนึ่งในสถานที่ที่พระพุทธเจ้าประทับจำพรรษาและทรงแสดงธรรมเป็นประจำ นับเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งทางประวัติศาสตร์และหลักธรรม
สถานที่แห่งการตรัสรู้และแสดงธรรม: คิชฌกูฏเป็นสถานที่ที่ปรากฏในพระสูตรสำคัญหลายสูตร อาทิ พระสูตรที่ว่าด้วยการบำเพ็ญเพียร และการเทศนาแก่เหล่าพระภิกษุสงฆ์ ดังที่ ดร.ณพลเดช มณีลังกา ได้กล่าวถึงการเป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้าที่โปรดให้พระภิกษุสงฆ์มาอยู่ด้วย สัมผัสอากาศที่เย็นสบาย
สัญลักษณ์ของการภาวนาและความสงบ: การที่พระพุทธเจ้าเลือกประทับบนยอดเขาสูง สะท้อนถึงความปรารถนาใน ความสงบวิเวก (Viveka) ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของการเจริญสมาธิและปัญญา ภูเขาจึงเป็นสัญลักษณ์ของ ความมั่นคง และ การหลีกเร้นจากความวุ่นวาย เพื่อเข้าถึงสัจธรรม
2. หลักธรรมที่สัมพันธ์กับคิชฌกูฏ
หลักธรรมที่มักปรากฏควบคู่กับการประทับของพระพุทธเจ้าบนภูเขาคิชฌกูฏ ซึ่งสามารถนำมาวิเคราะห์และประยุกต์ได้ มีดังนี้:
กัลยาณมิตตตา (Kalayāṇamittatā): หลักการแห่งการคบหา มิตรที่ดี พระพุทธเจ้าทรงเป็นกัลยาณมิตรต่อพระสงฆ์ โดยการพาขึ้นไปอยู่ร่วมกันบนภูเขาคิชฌกูฏ เพื่อถ่ายทอดธรรมและให้คำแนะนำ การอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม (ดังเช่นกลุ่มคณะสงฆ์ หรือในบริบทการเมืองคือ คณะรัฐบาล/พรรคการเมือง) ต้องอาศัยการมีมิตรที่ดีที่เกื้อกูลกันในทางธรรมและทางปัญญา
อปริหานิยธรรม (Aparihāniya Dhamma): ธรรมะที่ไม่เป็นเหตุแห่งความเสื่อม มี 7 ประการ ซึ่งหลายข้อเน้นย้ำถึงการประชุมกันอย่างสม่ำเสมอ การสามัคคี และการเคารพผู้ใหญ่ รวมถึงการอยู่ร่วมกันด้วยความเมตตา หลักธรรมนี้มีความสำคัญต่อ ความยั่งยืนของหมู่คณะ เช่นเดียวกับการรักษาความมั่นคงของคณะสงฆ์บนยอดเขา
อานิสงส์ของการกระทำ (Kamma): คำอธิษฐานขอ "อานิสงส์ผลบุญ" สะท้อนถึงหลัก กรรมและการให้ผลของกรรม การสักการะบูชาและการบวชพระถือเป็นกุศลกรรม (การกระทำที่ดี) ซึ่งเชื่อว่าจะนำมาซึ่งความสำเร็จ อายุยืนยาว และสุขภาพแข็งแรง
3. การประยุกต์หลักธรรมสู่การเมืองไทย
กรณีการเดินทางไปปฏิบัติธรรมของ ดร.ณพลเดช มณีลังกา สว.สำรอง กลุ่ม 16 สู่ภูเขาคิชฌกูฏ และการอธิษฐานขอความสำเร็จ สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ทางการเมืองได้ดังนี้:
3.1. หลักการแห่งการวิเวกและความมั่นคง (The Principle of Solitude and Stability)
วิเคราะห์: การเมืองไทยมักเผชิญกับ ความขัดแย้งและความวุ่นวาย ที่เกิดจากการช่วงชิงอำนาจ การเดินทางสู่ "ยอดเขา" หรือการปลีกตัวเพื่อปฏิบัติธรรม จึงเปรียบเสมือนการแสวงหา จุดยืนที่มั่นคงทางจิตวิญญาณ ก่อนกลับมาเผชิญหน้ากับสนามการเมือง
การประยุกต์ใช้: ผู้นำทางการเมืองควรมีการ ปลีกวิเวกเพื่อพิจารณาไตร่ตรอง (Reflection) อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การตัดสินใจเป็นไปบนพื้นฐานของ ปัญญา ไม่ใช่อคติหรืออารมณ์ ซึ่งสอดคล้องกับคุณสมบัติของผู้นำตามหลักธรรม
3.2. หลักการแห่งกัลยาณมิตรและความสามัคคี (Kalayāṇamittatā and Unity)
วิเคราะห์: ในบริบทของ กลุ่ม สว. กลุ่ม 16 หรือพรรคการเมือง การรวมกลุ่มกันต้องอาศัยหลัก กัลยาณมิตร คือการมีเจตจำนงที่บริสุทธิ์และมุ่งประโยชน์สาธารณะ ไม่ใช่เพียงแค่การรวมกลุ่มกันเพื่ออำนาจ การเดินทางไปร่วมกันปฏิบัติธรรมจึงเป็นสัญลักษณ์ของการสร้าง สัมพันธภาพทางธรรม ที่แข็งแกร่ง
การประยุกต์ใช้: การเมืองที่ยั่งยืนต้องยึดหลัก อปริหานิยธรรม คือการประชุมปรึกษาหารืออย่างเปิดเผยและให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ความสามัคคีในพรรคการเมืองหรือสภาผู้แทนฯ ควรตั้งอยู่บนรากฐานของ ธรรมะ เพื่อให้การทำงานเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนอย่างแท้จริง
3.3. หลักการแห่งกรรมและการกระทำ (Kamma and Action)
วิเคราะห์: คำอธิษฐานขอความสำเร็จและอายุไขยืนยาว สะท้อนถึงความเชื่อที่ว่า การกระทำในปัจจุบันจะส่งผลต่ออนาคต ในทางการเมือง "กรรม" คือนโยบายและการปฏิบัติหน้าที่ การแสวงหา "อานิสงส์" หรือผลบุญจึงเทียบได้กับการสร้าง "ผลงาน" ที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อชาติ
การประยุกต์ใช้: นักการเมืองควรตระหนักว่า ความสำเร็จและอายุทางการเมืองที่ยืนยาว จะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยการสร้าง กรรมดีทางการเมือง ได้แก่ การปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต การยึดมั่นในผลประโยชน์ของชาติ และการปฏิบัติตามหลัก ธรรมาธิปไตย (การถือธรรมเป็นใหญ่)
บทสรุป
ภูเขาคิชฌกูฏมิได้เป็นเพียงสถานที่ทางประวัติศาสตร์ แต่เป็นสัญลักษณ์ของ ความสงบ ปัญญา และการรวมกลุ่มกันเพื่อธรรม การปฏิบัติธรรม ณ สถานที่แห่งนี้โดยนักการเมืองหรือผู้มีบทบาททางการเมือง จึงเป็นการย้ำเตือนถึงความสำคัญของการนำ หลักธรรมในพระไตรปิฎก มาเป็นรากฐานในการดำเนินชีวิตและการปฏิบัติหน้าที่ทางการเมือง เพื่อให้การเมืองไทยดำเนินไปบนครรลองของความมั่นคง ความสามัคคี และความสุจริต อันจะนำมาซึ่งความสำเร็จและความผาสุกของประเทศชาติตามที่ตั้งใจอธิษฐานไว้


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น